Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การเปรียบเทียบความเที่ยงแบบสอบซ้ำของมาตราวัดทัศนคติแบบลิเคอร์ท ที่มีจำนวนรายการคำตอบต่างกัน

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A comparison of test-retest reliabilities of likert attitude scale with different numbers of categories

Year (A.D.)

1984

Document Type

Thesis

First Advisor

เยาวดี วิบูลย์ศรี

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

วิจัยการศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1984.252

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะศึกษาค่าความเที่ยงแบบความคงที่ภายในค่าความเที่ยงแบบสอบซ้ำ ความแตกต่างของค่าความเที่ยงแบบความคงที่ภายใน ของมาตราวัดทัศนคติแบบลิเคอร์ท ที่มีจำนวนรายการคำตอบ 3, 4, 5, 6, และ 7 รายการ และความแตกต่างของค่าความเที่ยงแบบสอบซ้ำของมาตราวัดทัศนคติแบบลิเคอร์ท ที่มีจำนวนรายการคำตอบ 3, 4, 5, 6, และ 7 รายการ โดยเว้นช่วงเวลาระหว่างการสอบครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 (สอบซ้ำ) 1, 2, 3 และ 4 สัปดาห์ กลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 620 คน ได้แก่ นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรการศึกษาชั้นสูง ชั้นปีที่ 1 ของวิทยาลัยครูบ้านสมเด็จเจ้าพระยา วิทยาลัยครูธนบุรี วิทยาลัยครูสวนสุนันทา และวิทยาลัยครูจันทรเกษม วิทยาลัยครูละ 155 คน ใช้แบบวัดทัศนคติต่อวิชาชีพครู เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล หาความเที่ยง แบบความคงที่ภายใน โดยวิธีหาสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค และหาค่าความเที่ยงแบบสอบซ้ำ โดยวิธีหาสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ ของเพียร์สัน แล้วเปรียบเทียบค่าความเที่ยง โดยใช้สัมประสิทธิ์ ซี ของฟิชเชอร์ ผลการวิจัยพบว่า 1. ค่าความเที่ยงแบบความคงที่ภายใน ของมาตราวัดทัศนคติแบบลิเคอร์ท 1.1 ในการทดสอบครั้งที่ 1 ค่าความเที่ยงแบบความคงที่ภายในของมาตราวัดทัศนคติแบบลิเคอร์ท ที่ได้จากมาตราวัดที่มีจำนวนรายการคำตอบ 3 – 7 รายการไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แต่ค่าความเที่ยงแบบความคงที่ภายในที่ได้จากมาตราวัดที่มีจำนวนรายการคำตอบ 5, 6, และ 7 รายการ ให้ค่าสูงกว่าค่าความเที่ยงของมาตราวัดที่มีจำนวนรายการคำตอบ 3 และ 4 รายการ 1.2 ในการทดสอบครั้งที่ 2 ค่าความเที่ยงแบบความคงที่ภายใน ของมาตราวัดทัศนคติแบบลิเคอร์ท ที่ได้จากมาตราวัดที่มีจำนวนรายการคำตอบ 3 – 7 รายการ ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เช่นกัน และค่าความเที่ยงแบบความคงที่ภายใน ที่ได้จากมาตราวัดที่มีจำนวนรายการคำตอบ 3 – 7 รายการ เป็นอิสระจากจำนวนรายการคำตอบ 2. ค่าความเที่ยงแบบสอบซ้ำของมาตราวัดทัศนคติแบบลิเคอร์ท ที่มีจำนวนรายการคำตอบ 3 – 7 รายการ ไม่มีความแตกต่าง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 และค่าความเที่ยงที่ได้จะเป็นอิสระจากจำนวนรายการคำตอบ แต่ค่าความเที่ยงแบบสอบซ้ำของมาตราวัดที่ใช้ช่วงเวลาในการสอบซ้ำ 2 และ 3 สัปดาห์ ให้ค่าสูงกว่าค่าความเที่ยงแบบสอบซ้ำของมาตราวัดที่ใช้ช่วงเวลาในการสอบซ้ำ 1 และ 4 สัปดาห์

Share

COinS