Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

อนุสาวรีย์ไทย : การศึกษาในเชิงการเมือง

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Public monuments in Thailand : a political study

Year (A.D.)

1984

Document Type

Thesis

First Advisor

สมบัติ จันทรวงศ์

Second Advisor

สมบูรณ์ สุขสำราญ

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

รัฐศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

การปกครอง

DOI

10.58837/CHULA.THE.1984.415

Abstract

อนุสาวรีย์ที่ปรากฏอยู่โดยทั่วไปตามถนนหนทาง หรือตามสถานที่สาธารณะทั่วๆ ไปนั้น เป็นอนุสาวรีย์แบบสมัยใหม่ที่รับอิทธิพลมาจากประเทศตะวันตกเมื่อสมัยรัชกาลที่ 4 แล้วได้มีการสร้างกันอย่างจริงขึ้นในปลายสมัยรัชกาลที่ 5 นับตั้งแต่สมัยนั้นเป็นต้นมาการสร้างอนุสาวรีย์ก็รับความนิยมมาตลอด ดังจะเห็นได้ว่าจำนวนของอนุสาวรีย์มีเพิ่มขึ้นอยู่อย่างสม่ำเสมอ จากจำนวนที่ค่อนข้างมาก และการปรากฏตัวตามที่สาธารณะของอนุสาวรีย์ในปัจจุบัน ทำให้อนุสาวรีย์เข้ามามีบทบาทเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของประชาชน และสังคมอย่างปฏิเสธไม่ได้ วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มุ่งศึกษาถึง ความสัมพันธ์ระหว่างกระบวนการสร้างอนุสาวรีย์กับการเมืองไทย และบทบาทของอนุสาวรีย์ที่มีต่อการเมือง และสังคมไทยโดยเฉพาะบทบาทในการหล่อหลอมกล่อมเกลาประชาชน ที่ผู้มีอำนาจในแต่ละยุคแต่ละสมัยพยายามที่สร้างขึ้นผ่านอนุสาวรีย์ ซึ่งสามารถสะท้อนให้เห็น ค่านิยม ความคิด ความเชื่อของผู้มีอำนาจและประชาชนในแต่ละยุคแต่ละสมัยได้ และยังมุ่งศึกษาถึงแนวโน้มทางความคิดของประชาชนในปัจจุบันที่ต้องรับรู้ซึมทราบกับอนุสาวรีย์เหล่านี้อยู่ตลอดเวลาด้วยว่า จะเป็นไปในทิศทางใด โดยการสร้างภาพสะท้อนทางการเมืองและสังคมไทยจากอนุสาวรีย์ทั้งหมด ผลจากการศึกษาพบว่า กระบวนการสร้างอนุสาวรีย์มีความสัมพันธ์โดยตรงกับการเมืองไทย และอนุสาวรีย์ได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมืองไทยมาตลอด ทั้งในด้านการถูกใช้เพื่อหาผลประโยชน์ทางการเมือง และในการหล่อหลอมกล่อมเกลาประชาชน โดยตัวอนุสาวรีย์เองสามารถสะท้อนให้เห็น ค่านิยม ความคิด ความเชื่อของผู้มีอำนาจและประชาชนในแต่ละยุคแต่ละสมัยที่อนุสาวรีย์แห่งนั้นเกิดขึ้นได้ ทั้งยังสะท้อนให้เห็นภาพความขัดแย้ง และการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไทยได้ในบางส่วนอีกด้วย ในด้านของการพยายามหล่อหลอมกล่อมเกลาทางการเมืองและสังคมนั้น จะเห็นได้ว่า ความคิดที่มีบทบาทสำคัญที่สุดที่แสดงผ่านอนุสาวรีย์คือ ความคิดที่มุ่งให้ความสำคัญไปที่สถาบันกษัตริย์ราชวงศ์จักรีความคิดที่มีความสำคัญรองลงมาได้แก่ ความคิดทหารนิยม และความคิดชาตินิยม ที่เป็นประโยชน์โดยตรงต่อกลุ่มทหาร ส่วนความคิดที่ปรากฏผ่านอนุสาวรีย์น้อยที่สุดคือ ความคิดทางด้านประชาธิปไตย ภาพสะท้อนทางการเมืองและสังคมไทยจากอนุสาวรีย์จึงเป็นภาพของการปกครองในระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ผสมอยู่กับการปกครองในแบบเผด็จการทหารที่สอดคล้องกับความคิดที่กล่าวมา ซึ่งถ้าเป็นจริงว่า อนุสาวรีย์สามารถหล่อหลอมกล่อมเกลาได้แล้ว แนวโน้มทางความคิดของประชาชนและอนุชนก็จะเป็นไปในลักษณะที่สนองตอบและยอมรับต่อการปกครองในระบอบดังกล่าวมากกว่าอย่างอื่น

Share

COinS