Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การติดตามผลการปฏิบัติงานของพยาบาลศาสตร์บัณฑิต วิทยาลัยพยาบาลสภากาชาดไทย ตามการรับรู้ของตนเองและผู้บังคับบัญชา

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A follow-up study of the Thai Red Cross College of Nursing Graduates' performance as perceived by themselves and their immediate supervisors

Year (A.D.)

1984

Document Type

Thesis

First Advisor

สมหวัง พิธิยานุวัฒน์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

วิจัยการศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1984.239

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายในการศึกษาติดตามผลการปฏิบัติงานของพยาบาลศาสตรบัณฑิตวิทยาลัยพยาบาลสภากาชาดไทยตามการรับรู้ของตนเองและผู้บังคับบัญชา ในเรื่องความรู้ความสามารถทางวิชาการ ประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานมนุษยสัมพันธ์และค่านิยมทางวิชาชีพกลุ่มตัวอย่างประชากรในการวิจัย คือ พยาบาลศาสตรบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาในปีการศึกษา 2524 และ 2525 จำนวน 148 คนและผู้บังคับบัญชาของบัณฑิตจำนวน 180 คน เก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามซึ่งผู้วิจัยสร้างขึ้นเอง และแบบวัดค่านิยมทางวิชาชีพของ นิภา คิดประเสริฐ วิเคราะห์ข้อมูลโดยค่ามัชฌิมเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่าทีผลการวิจัยพบว่า 1. ผู้บังคับบัญชาประเมินว่าบัณฑิตมีความรู้ความสามารถทางวิชาการโดยส่วนรวมอยู่ในระดับดี และบัณฑิตประเมินตนเองว่ามีความรู้ความสามารถทางวิชาการโดยส่วนรวมอยู่ในระดับค่อนข้างดี ค่ามัชฌิมเลขคณิตความรู้ความสามารถทางวิชาการในทัศนะของบัณฑิตและผู้บังคับบัญชาแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยบัณฑิตประเมินตนเองต่ำกว่าการประเมินของผู้บังคับบัญชาอย่างมีนัยสำคัญ 2. ผู้บังคับบัญชาประเมินว่าบัณฑิตมีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานโดยส่วนรวมอยู่ในระดับดี และบัณฑิตประเมินตนเองว่ามีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานโดยส่วนรวมอยู่ในระดับค่อนข้างดี ค่ามัชฌิมเลขคณิตประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานในทัศนะของบัณฑิตและผู้บังคับบัญชาแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยบัณฑิตประเมินตนเองต่ำกว่าการประเมินของผู้บังคับบัญชาอย่างมีนัยสำคัญ 3. ผู้บังคับบัญชาและบัณฑิตประเมินว่าบัณฑิตมีมนุษยสัมพันธ์โดยส่วนรวมอยู่ในระดับดีค่ามัชฌิมเลขคณิตมนุษยสัมพันธ์ในทัศนะของบัณฑิตและผู้บังคับบัญชาไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4. บัณฑิตมีค่านิยมวิชาชีพโดยส่วนรวมในระดับสูง 5. บัณฑิตมีความเห็นว่า เนื้อหาวิชาและจำนวนหน่วยกิจของวิชาในหมวดวิชาชีพมีความเหมาะสม ยกเว้น วิชาพัฒนาการพยาบาลและหลักการกาชาด 6. บัณฑิตมีความเห็นว่า การจัดการเรียนการสอนและการบริหารหลักสูตรในเรื่องต่างๆ มีความเหมาะสมดีแล้ว ยกเว้นในเรื่องการส่งเสริมกิจกรรมนักศึกษา การส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับนักศึกษา และระยะเวลาในการฝึกปฏิบัติ 7. บัณฑิตมีความเห็นว่าได้รับความรู้และนำความรู้จากวิชาต่างๆ ในหมวดวิชาชีพส่วนใหญ่ไปใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติงานได้มาก 8. ผู้บังคับบัญชาของบัณฑิต ต้องการบัณฑิตที่มีความรู้ความสามารถทางวิชาการและการปฏิบัติงาน มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติการพยาบาลและให้บริการแก่ ผู้ป่วยเป็นอย่างดีมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มีความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่และการทำงาน เป็นผู้มีใจรักมีทัศนคติที่ดีต่อวิชาชีพพยาบาลและมีความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์

Share

COinS