Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

คำลงท้ายในภาษาเชียงใหม่

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Final particles in Chiang Mai dialect

Year (A.D.)

1984

Document Type

Thesis

First Advisor

ประคอง นิมมานเหมินท์

Second Advisor

ปราณี กุลละวณิชย์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

อักษรศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

ภาษาไทย

DOI

10.58837/CHULA.THE.1984.612

Abstract

วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ประการคือ เพื่อศึกษาลักษณะทางเสียงและการแบ่งประเภทตาม ลักษณะทางเสียงของคำลงท้ายในภาษาเชียงใหม่ เพื่อศึกษาลักษณะทางอรรถศาสตร์ และการแบ่งประเภทตามลักษณะทางอรรถศาสตร์ของคำลงท้านในภาษาเชียงใหม่ และเพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะทางเสียง และลักษณะทางอรรถศาสตร์ของคำลงท้ายในภาษาเชียงใหม่ ในการศึกษาลักษณะทางเสียงของคำลงท้ายนั้น ได้พิจารณาคำลงท้ายตามลักษณะทางเสียง 3 ระบบ ด้วยกันคือ ระบบความสูงต่ำของเสียง ความสั้นยาวของพยางค์ และลักษณะของเส้นเสียงในการลงท้ายพยางค์ ลักษณะทางเสียงทั้ง 3 ระบบนี้ นำมาแบ่งประเภทของคำลงท้ายได้ 13 ประเภท ในการศึกษาลักษณะทางอรรถศาสตร์ของคำลงท้ายนั้น ได้พิจารณาคำลงท้ายตามเงื่อนไขทางอรรถศาสตร์ 4 ข้อ คือ ความเบื้องแรก ความบอกข้อมูลใหม่ รูปประโยค และความสัมพันธ์ระหว่างผู้พูดและผู้ฟัง จากเงื่อนไขทั้ง 4 ข้อนี้ นำมาแบ่งประเภทของคำลงท้ายในภาษาเขียนใหม่ได้ 6 ประเภท สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะทางเสียง และลักษณะทางอรรถศาสตร์ของคำลงท้ายในภาษา เชียงใหม่นั้น จากการศึกษาพบว่า ลักษณะทางเสียงนอกจากจะช่วยแบ่งความหมายย่อยของคำลงท้ายที่แบ่ง ตามลักษณะทางอรรถศาสตร์แล้ว ยังแสดงว่า คำลงท้ายที่แบ่งตามลักษณะทางอรรถศาสตร์นั้น ก็มีลักษณะทางเสียงที่ชัดเจนอีกด้วย เช่น คำลงท้ายประเภทที่มีความหมายในการสั่ง จะมีระดับความสูงต่ำของเสียงเป็นเสียงต่ำระดับ หรือเสียงต่ำ-ตก หรือคำลงท้ายประเภทที่มีความหมายในการบอกข้อมูล จะมีระดับความสูงต่ำ ของเสียงเป็นเสียงกลางระดับ เป็นต้น ผลงานวิจัยแบ่งเป็น 7 บท คือ บทที่ 1 เป็นบทนำ กล่าวถึงความเป็นมาของปัญหา ความมุ่งหมายในการวิจัย ขอบเขตของการวิจัย วิธีดำเนินการค้นคว้าและวิจัย ประโยชน์ที่จะได้รับการวิจัย และคำจำกัดความที่ใช้ในการวิจัย บทที่ 2 กล่าวถึงงานวิจัยที่เกี่ยวข้องและการใช้สัญลักษณ์แทนหน่วยเสียง บทที่ 3 กล่าวถึงการศึกษาคำลงท้ายในภาษาเชียงใหม่ตามลักษณะทางเสียง บทที่ 4 กล่าวถึงความหมายที่ได้จากลักษณะทางเสียงของคำลงท้ายในภาษาเชียงใหม่ บทที่ 5 กล่าวถึงการศึกษาคำลงท้ายในภาษาเชียงใหม่ ตามลักษณะทางอรรถศาสตร์ บทที่ 6 กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเภทของคำลงท้ายที่แบ่งตามลักษณะทางเสียง และ บทที่ 7 เป็นการสรุปผลการวิจัยและข้อเสนอแนะ

Share

COinS