Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวิเคราะห์รายงานประจำปีห้องสมุดมหาวิทยาลัย ในประเทศไทย

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

An analysis of annual reports of university libraries in Thailand

Year (A.D.)

1984

Document Type

Thesis

First Advisor

อุทัย ทุติยะโพธิ

Second Advisor

ชลทิชา สุทธินิรันดร์กุล

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

อักษรศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

บรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์

DOI

10.58837/CHULA.THE.1984.584

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและวิเคราะห์รายงานประจำปีของห้องสมุดมหาวิทยาลัยในประเทศไทย ตั้งแต่ พ.ศ. 2518-2523 ในด้านรูปแบบ วิธีการ และเนื่อหา เพื่อให้ทราบถึงการนำรายงานประจำปีของห้องสมุดมาใช้ประโยชน์ตามที่บรรณารักษ์เคยปฎิบัติมา ตลอดจนปัญหาในการจัดทำ เพื่อเสนอรูปแบบ วิธีการ และเนื้อหาที่เหมาะสมของรายงานประจำปีสำหรับเป็นแนวทางให้บรรณารักษ์ห้องสมุดมหาวิทยาลัยจัดทำหรือปรับปรุงรายงานประจำปีของห้องสมุด วิธีดำเนินการวิจัยประกอบด้วย การวิเคราะห์รายงานประจำปีจำนวน 39 ฉบับที่รวบรวมมาจากห้องสมุดมหาวิทยาลัย 8 แห่ง โดยวิเคราะห์ในด้านรูปแบบ วิธีการ และเนื้อหาตามแบบวิเคราะห์ที่ได้สร้างขึ้นและมีความตรงซึ่งได้ตัดสินโดยผู้ทรงคุณวุฒิ และการส่งแบบสอบถามจำนวน 65 ชุด ไปยังหัวหน้าบรรณารักษ์ 8 คน อดีตหัวหน้าบรรณารักษ์ 3 คน บรรณารักษ์หัวหน้าแผนก 6 คน ผู้รับผิดชอบและผู้ร่วมจัดทำรายงาน 48 คน ได้รับแบบสอบถามกลับคืนจำนวน 63 ชุด ผลการวิจัยพบว่า 1. ด้านรูปแบบ รายงานประจำปีของห้องสมุดมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ (30 ฉบับ 6 แห่ง ) นำเสนอเป็นรายงานของห้องสมุดโดยเฉพาะ รายงานประจำปีทั้ง 39 ฉบับมีชื่อรายงาน แต่มีการเข้าเล่มหรือเย็บเล่มและมีปกเพียง 17 ฉบับจาก 5 แห่ง ภาพประกอบส่วนใหญ่ ( 21 ฉบับจาก 5 แห่ง ) เป็นตารางตัวเลขสถิติ 2. ด้านวิธีการจัดทำ สรุปได้ดังนี้ 2.1 ห้องสมุดมหาวิทยาลัยทุกแห่งได้กำหนดวัตถุประสงค์ของการจัดทำรายงานประจำปีไว้เหมือนกัน 1 ข้อ คือ เพื่อเป็นบันทึกข้อเท็จจริงของการดำเนินงานห้องสมุด และส่วนใหญ่ ( 6 แห่ง ) จัดทำเป็นรายงานทางการบริหารงานซึ่งจะรายงานผลงานตามปีงบประมาณ ( 7 แห่ง ) 2.2 ผู้รับผิดชอบในการจัดทำรายงานประจำปีของห้องสมุดแต่ละแห่งจะมีเพียง 1 คนในแต่ละปี ส่วนใหญ่จะเป็นบรรณารักษ์หัวหน้าแผนก ( 8 คน ) ผู้รับผิดชอบและผู้ร่วมจัดทำรายงานมีการเตรียมตัวโดยส่วนใหญ่ศึกษารายงานในปีก่อน ๆ ของห้องสมุด 42 คน คำนึงถึงความถูกต้องของข้อมูลและสถิติ 41 คน และส่วนใหญ่พบปัญหาในด้านข้อมูลที่ได้รับจากแผนกต่าง ๆ ไม่ครบถ้วน (40 คน ) ผู้รับผิดชอบในการจัดทำรายงานประจำปี มีขั้นตอนการทำรายงานที่เหมือนกันทุกแห่งเพียง 4 ขั้นตอน คือ กำหนดโครงร่างของรายงาน แจ้งให้ทุกแผนกงานทราบรายลุเอียดและกำหนดเวลาที่จะต้องส่งข้อมูลและสถิติ รวบรวมข้อมูลและสถิติให้ได้ครบตามโครงร่าง และเรียบเรียงข้อมูลและสถิติต่าง ๆ ลงในรายงาน 2.3 รายงานประจำปีของห้องสมุดมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ ( 4 แห่ง ) จัดพิมพ์โดยวิธีอัดโรเนียว มีเพียงแห่งเดียวที่พิมพ์ และห้องสมุด 2 แห่งจาก 8 แห่งเผยแพร่รายงานประจำปีโดยพิมพ์รวมไว้ในรายงานประจำปีของมหาวิทยาลัยหรือสถาบัน และห้องสมุด 1 แห่ง จำนวน 1 ฉบับ เผยแพร่รายงานประจำปีโดยลงพิมพ์ในวารสารที่ออกโดยห้องสมุด ห้องสมุดมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ ( 7 แห่ง ) เผยแพร่รายงานแก่ผู้บริหารมหาวิทยาลัย มีเพียง 3 แห่งเท่านั้นที่เผยแพร่แก่ผู้ใช้ห้องสมุดด้วย 3. ด้านเนื้อหาของรายงานประจำปีของห้องสมุดมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ ( 21 ฉบับจาก 6 แห่ง ) เสนอเนื้อหาภาคบรรยายและสถิติรวมกัน หัวข้อเนื้อหาภาคบรรยายที่พบมากที่สุด ( 17 ฉบับ ) คือ บทนำ ในหัวข้อสรุปผลการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ที่สำคัญในรอบปีมีเนื้อหาที่เกี่ยวกับงานบริการมากที่สุด ( 14 ฉบับ ) ส่วนเนื้อหาภาคสถิติมีในรายงานประจำปีทุกฉบับ หัวข้อเนื้อหาภาคสถิติที่พบมากที่สุด ( 25 ฉบับจาก 6 แห่ง ) คือ สถิติโดยละเอียดของงานห้องสมุด 4. หัวหน้าบรรณารักษ์ อดีตหัวหน้าบรรณารักษ์ บรรณารักษ์หัวหน้าแผนก ผู้รับผิดชอบและผู้ร่วมจัดทำรายงานส่วนใหญ่จำนวน 61 คน เห็นความจำเป็นในการทำรายงานประจำปีเพราะมีประโยชน์ในการรายงานความก้าวหน้าของการปฎิบัติงานและเป็นหลักฐานในการประเมินผลงาน และได้นำรายงานประจำปีไปใช้ประโยชน์ในการพิจารณาแก้ไขปรับปรุงงานมากที่สุด ( 58 คน ) และเห็นว่ารายงานประจำปีของห้องสมุดมหาวิทยาลัยไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่เพราะไม่มีการเผยแพร่ ( 59 คน ) นอกจากนี้หัวหน้าบรรณารักษ์ของห้องสมุด 7 แห่งได้นำข้อมูลจากรายงานประจำปีมาใช้เป็นเครื่องสนับสนุนการเสนอของบประมาณซึ่งได้รับการสนันสุน 6 แห่ง ข้อเสนอแนะ 1. หัวหน้าบรรณารักษ์ ควรกำหนดวัตถุประสงค์ของการจัดทำรายงานประจำปีไว้เพื่อประโยชน์ในการบริหารงานและประชาสัมพันธ์ห้องสมุด 2. ห้องสมุดมหาวิทยาลัยควรจัดทำรายงานประจำปีทั้งที่เป็นรายงานทางการบริหารงานและรายงานแก่ผู้ใช้ห้องสมุด 3. ในการจัดทำรายงานประจำปี ควรมีบรรณารักษ์หัวหน้าแผนกที่มีหน้าที่ประชาสัมพันธ์ห้องสมุดเป็นผู้รับผิดชอบ 4. ผู้รับผิดชอบในการจัดทำรายงานควรกำหนดขั้นตอนต่าง ๆ ไว้ให้ ครบถ้วนและควรศึกษาวิธีการจัดทำรายงานจากหนังสือและบทความต่าง ๆ ตลอดจนหลักการเขียนรายงานประจำปี 5. ห้องสมุดมหาวิทยาลัยควรตั้งงบประมาณส่วนหนึ่งไว้สำหรับการจัดพิพ์รายงานประจำปีที่โรงพิมพ์ เพื่อเผยแพร่แก่บุคคลทั่วไป โดยนำเสนอเป็นรายงานของห้องสมุดโดยเฉพาะ มีการเย็บเล่ม และมีภาพประกอบทั้งที่เป็นแผนผัง แผนภูมิ ตาราง และภาพถ่าย 6. เนื้อหาของรายงานประจำปีควรมีทั้งภาคบรรยายและสถิติประกอบ

Share

COinS