Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การประสานสัมพันธ์การใช้รายการวิทยุเพื่อยุวเกษตรกร และการแพร่กระจายสารสนเทศระหว่างบุคคล เพื่อถ่ายทอดวิทยาการทางการเกษตร : ศึกษาเปรียบเทียบกลุ่มยุวเกษตรกรโกรกตะใกล้ อำเภอคง และกลุ่มยุวเกษตรกรโคกเพชร อำเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

The combination of using radio youth programs and diffusion of information for agricultural innovation among interpersonal communicators : a comparative study of agricultural youth groups at Kroke-Ta-Klai, amphoe Khong and Kokpetch, amphoe Chum Phuang, Nakhon Ratchasima

Year (A.D.)

1984

Document Type

Thesis

First Advisor

ศิริชัย ศิริกายะ

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

นิเทศศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

การประชาสัมพันธ์

DOI

10.58837/CHULA.THE.1984.306

Abstract

การวิจัยนี้มีจุดมุ่งหมายสำคัญ 4 ประการคือ (ก) เพื่อทราบผลของการประสานสัมพันธ์การใช้รายการวิทยุเพื่อยุวเกษตรกรและการแพร่กระจายสารสนเทศระหว่างบุคคลที่มีต่อการยอมรับและการแพร่กระจายนวกรรมการเกษตร (ข) เพื่อเข้าใจถึงโครงสร้างการสื่อสารของกลุ่มยุวเกษตรกรโกรกกะใกล้และกลุ่มยุวเกษตรกรโคกเพชร (ค) เพื่อทราบถึงตัวแปรดัชนีโครงสร้างการสื่อสารและปัจจัยทางการสื่อสารที่มีผลต่อการติดต่อสื่อสารระหว่างสมาชิกกลุ่มอภิปรายรายการวิทยุเพื่อยุวเกษตรกร (ง) เพื่อทราบลักษณะของการแพร่กระจายนวกรรมการเกษตร จากสมาชิกกลุ่มอภิปรายรายการวิทยุเพื่อยุวเกษตรกรไปสู่ระบบสังคม ตัวอย่างของการวิจัยได้แก่ สมาชิกทั้งหมดของกลุ่มยุวเกษตรกรโกรกตะใกล้ อำเภอคง จำนวน 33 คน และสมาชิกทั้งหมดของกลุ่มยุวเกษตรกรโคกเพชร อำเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 19 คน ตัวแปรอิสระในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่ รูปแบบกลุ่มอภิปรายรายการวิทยุเพื่อยุวเกษตรกร ดัชนีโครงสร้างการสื่อสาร และความเกี่ยวโยงทางการสื่อสาร ส่วนตัวแปรตามได้แก่ การยอมรับนวกรรม การแพร่กระจายนวกรรม ตลอดจนความคล้ายคลึงกันรวมทั้งความสัมพันธ์อย่างสนิทแน่นแฟ้นและปัจจัยพื้นที่ของคู่สื่อสาร การเก็บรวบรวมข้อมูลใช้วิธีการสัมภาษณ์รายบุคคล โดยใช้แบบสอบถามที่ผู้วิจัยจัดทำขึ้น สมมติฐานของการวิจัยมี 7 ข้อคือ 1. ไม่มีความแตกต่างระหว่างกลุ่มยุวเกษตรกรโกรกตะใกล้และกลุ่มยุวเกษตรกรโคกเพชร ในผลของการประสานสัมพันธ์การใช้รายการวิทยุเพื่อยุวเกษตรกรและการแพร่กระจายสารสนเทศระหว่างบุคคลที่ก่อให้เกิดการยอมรับนวกรรมการเกษตร 2. การสื่อสารระหว่างบุคคลก่อให้เกิดการยอมรับนวกรรมและก่อให้เกิดการแพร่กระจายนวกรรมการเกษตรมากกว่าสื่อวิทยุทั้งกลุ่มยุวเกษตรกรโกรกตะใกล้และกลุ่มยุวเกษตรกรโคกเพชร 3. ลักษณะความเชื่อมโยงทางการสื่อสารระหว่างบุคคลภายในกลุ่มยุวเกษตรกรโกรกตะใกล้ แตกต่างจากลักษณะความเชื่อมโยงทางการสื่อสารระหว่างบุคคลภายในกลุ่มยุวเกษตรโคกเพชร 4. ลักษณะการแพร่กระจายนวกรรมการเกษตรของกลุ่มยุวเกษตรกรโกรกตะใกล้ แตกต่างจากลักษณะการแพร่กระจายนวกรรมการเกษตรของกลุ่มยุวเกษตรกรโคกเพชร 5. ไม่มีความแตกต่างระหว่างกลุ่มยุวเกษตรกรโกรกตะใกล้และกลุ่มยุวเกษตรกรโคกเพชร ในผลของสมาชิกที่มีความเกี่ยวโยงทางการสื่อสาร กล่าวคือสมาชิกจะตั้งบ้านเรือนอยู่ใกล้เคียงกันและมีสถานภาพทางสังคมคล้ายคลึงกัน 6. ไม่มีความแตกต่างระหว่างกลุ่มยุวเกษตรกรโกรกตะใกล้และกลุ่มยุวเกษตรกรโคกเพชร ในผลของจำนวนความเกี่ยวโยงทางการสื่อสารที่มีความสัมพันธ์กับการยอมรับนวกรรมการเกษตร 7. ไม่มีความแตกต่างระหว่างกลุ่มยุวเกษตรกรโกรกตะใกล้และกลุ่มยุวเกษตรกรโคกเพชร ในผลของสมาชิกที่จะแพร่กระจายนวกรรมการเกษตรไปยังบุคคลภายนอกที่มีความสัมพันธ์อย่างสนิทแน่นแฟ้นกับสมาชิกภายในกลุ่ม การวิจัยครั้งนี้ใช้วิธีการวิเคราะห์เครือข่ายการสื่อสารเป็นปัจจัยหลัก และใช้สถิติที่สำคัญในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่า t (t-test) ค่าสหสัมพันธ์ (Pearson r) และค่าสหสัมพันธ์บางส่วน (Second-order partial correlation) จากการทดสอบสมมติฐานดังกล่าว ปรากฏว่าสมมติฐานข้อ 2, ข้อ 3, ข้อ 4 และข้อ 7 ได้รับการยอมรับ แต่สมมติฐานข้อ 1 พบว่ากลุ่มยุวเกษตรกรโกรกตะใกล้ยอมรับนวกรรมการเกษตรมากกว่ากลุ่มยุวเกษตรกรโคกเพชร ส่วนสมมติฐานข้อ 5 พบว่าสมาชิกกลุ่มยุวเกษตรกรทั้งสองแห่งที่มีความเกี่ยวโยงทางการสื่อสารจะตั้งบ้านเรือนอยู่ใกล้เคียงกันและมีอายุคล้ายคลึงกัน แต่มีความแตกต่างกันในด้านรายได้และการศึกษา สำหรับสมมติฐานข้อ 6 พบว่าการยอมรับนวกรรมการเกษตรของสมาชิกกลุ่มยุวเกษตรกรโกรกตะใกล้และกลุ่มยุวเกษตรกรโคกเพชรมีความสัมพันธ์กับจำนวนครั้งที่เข้าฟังและร่วมอภิปรายรายการวิทยุเพื่อยุวเกษตรกร ผลของการวิจัยที่สำคัญมีดังนี้ 1. จากการวิเคราะห์เครือข่ายการสื่อสารพบว่า โครงสร้างการสื่อสารของกลุ่มยุวเกษตรกรโกรกตะใกล้มีกลุ่มย่อยเกิดขึ้น 2 กลุ่ม ส่วนโครงสร้างการสื่อสารของกลุ่มยุวเกษตรกรโคกเพชรไม่มีกลุ่มย่อยเกิดขึ้นเลย นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มยุวเกษตรกรโคกเพชรมีการติดต่อสื่อสารระหว่างสมาชิกและมีการแพร่กระจายนวกรรมจากสมาชิกไปสู่สังคมมากกว่ากลุ่มยุวเกษตรกรโกรกตะใกล้ 2. กลุ่มอภิปรายรายการวิทยุเพื่อยุวเกษตรกร ก่อให้เกิดการยอมรับและการแพร่กระจายนวกรรมการเกษตรทั้งกลุ่มยุวเกษตรโกรกตะใกล้และกลุ่มยุวเกษตรกรโคกเพชร 3. กลุ่มอภิปรายรายการวิทยุเพื่อยุวเกษตรกร สามารถทำหน้าที่ในการแพร่กระจายนวกรรมได้ 3 ประการคือ (ก) เป็นช่องสารในการถ่ายทอดแพร่กระจายนวกรรมจากสมาชิกของกลุ่มไปสู่บุคคลอื่น ๆ ในระบบสังคม (ข) ช่วยลดช่องว่างความแตกต่างในด้านความรู้ระหว่างเจ้าหน้าที่ส่งเสริมนวกรรมกับผู้รับการเผยแพร่ (ค) ช่วยถ่ายทอดสารสนเทศจากสื่อมวลชนไปสู่สังคม จากผลการวิจัยดังกล่าว ผู้วิจัยได้เสนอแนะกรมส่งเสริมการเกษตรให้สนับสนุนและส่งเสริมโครงการกลุ่มอภิปรายรายการวิทยุเพื่อยุวเกษตรกรต่อไป

Share

COinS