Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
กฎหมายและการปฏิบัติต่อผู้อพยพชาวอินโดจีนในประเทศไทย
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
The law and practice relating to Indochinese displaced persons in Thailand
Year (A.D.)
1984
Document Type
Thesis
First Advisor
วิทิต มันตาภรณ์
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
นิติศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
นิติศาสตร์
DOI
10.58837/CHULA.THE.1984.335
Abstract
เป็นที่ประจักษ์ว่า สาเหตุมูลฐานสำคัญยิ่งเป็นแรงผลักดันให้เกิดการอพยพลี้ภัย ทั้งในอดีตและปัจจุบันส่วนหนึ่งมาจากภัยสงคราม และการสู้รบอันเนื่องมาจากความขัดแย้ง ด้านอุดมการณ์ทางการเมือง และหรือความขัดแย้งภายในประเทศนั้น ๆ ยังผลให้บังเกิดความเคลื่อนไหวไปยังแหล่งใหม่ซึ่งปลอดภัยกว่า เพื่อหลีกเลี่ยงต่อภัยคุกคามนั้น ๆ และเพื่อการดำรงอยู่ของชีวิตและเผ่าพันธุ์ของตน สำหรับประเทศไทยนั้น จากการเริ่มต้นของสงครามกู้ชาติระหว่างประเทศเวียดนามและประเทศฝรั่งเศส และสงครามปฏิวัติในประเทศจีน รวมทั้งการสู้รบเพื่อความเป็นอิสระของชนเผ่าต่าง ๆ ในประเทศพม่า หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ตลอดจนสภาพเชิงภูมิประเทศกอปรด้วยเสถียรภาพทางการเมืองของประเทศไทย ยังผลให้เกิดการอพยพลี้ภัยของชาติต่าง ๆ เข้ามาสู่ราชอาณาจักรไทยเป็นจำนวนมาก หากแต่ในระยะนั้น ปัญหาของอพยพชาวอินโดจีน มิได้รับความสนใจทั้งในระดับภายในประเทศ และระดับต่างประเทศเท่าที่ควร ทำให้ประเทศไทยต้องแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยอาศัยพื้นฐานทางด้านมนุษยธรรมเพียงลำพัง โดยไม่มีองค์การกุศลหรือประเทศใดให้ความช่วยเหลือสนับสนุนเลย อย่างไรก็ดี เมื่อไม่นานมานี้ ปัญหาผู้อพยพชาวอินโดจีนได้ถูกหยิบยกขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางและจริงจัง ทั้งในระดับชาติและระดับ ระหว่างประเทศ เนื่องจากการอพยพลี้ภัยของชาวอินโดจีนในระยะหลังมีสาเหตุมาจากปัญหาด้านการเมืองเป็นสำคัญ กล่าวคือ หลังสงครามระหว่างประเทศเวียดนามเหนือ และประเทศเวียดนามใต้สิ้นสุดลง ในช่วงปี พ.ศ. 2518 และ เมื่อประเทศเวียดนามเหนือ เข้าครอบครองประเทศเวียดนามใต้โดยสมบูรณ์แล้ว รัฐบาลของประเทศเวียดนามเหนือได้เปลี่ยนรูปการปกครองเป็นระบบสังคมนิยมโดยทันที ทำให้เกิดผลสะท้อนเป็นแรงผลักดันให้ชาวเวียดนามใต้ซึ่งไม่ประสงค์จะเปลี่ยนวิถีชีวิตจากเสรีประชาธิปไตยเป็นสังคมนิยมต้องพากันอพยพลี้ภัยออกนอกประเทศ เพื่อให้พ้นจากภัยคุกคามต่อชีวิตและทรัพย์สิน โดย ใช้เรือเป็นพาหนะเดินทางไปสู่ประเทศต่าง ๆ อีกทั้งการต่อสู้ การสู้รบภายในประเทศของ ประเทศลาว และประเทศเขมร เพื่อเปลี่ยนแปลงปฏิวัติให้เป็นประเทศในระบบสังคมนิยม โดยสมบูรณ์ สาเหตุดังกล่า เหล่านี้ ยังผลให้ประชาชนชาวอินโดจีนเป็นจำนวนมากได้เริ่มหลั่งไหลอพยพเข้าสู่ประเทศไทยทั้งทางบกและทางน้ำ อีกครั้งหนึ่ง และต่อเนื่องมาจนบัดนี้ ซึ่งการอพยพของบุคคลดังกล่าว เป็นจำนวนมหาศาล และฉับพลันย่อมก่อให้เกิด ผลกระทบต่อประเทศ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และเกี่ยวโยงไปถึงปัญหาด้านกฎหมายอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ วิทยานิพนธ์เรื่องนี้ จึงได้วิเคราะห์ถึงกรรมสารระหว่างประเทศที่ส่งผลกระทบต่อบุคคลที่มีสถานะเป็นผู้ลีภัยและผู้อพยพ ตลอดจนกฎหมายภายในที่สำคัญและเกี่ยวข้องกับผู้อพยพชาวอินโดจีนในประเทศไทย ตลอดจนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ของรัฐต่อบุคคลดังกล่าวทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมทั้งปัญหาต่างๆอันเกิดจากกฎหมายและการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาของผู้อพยพชาวอินโดจีนทั้งในระยะสั้นและระยะยาวในอนาคต ทั้งในระดับภายในประเทศและในระดับระหว่างประเทศ อนึ่ง ผู้เขียนได้พิเคราะห์ถึงว่า แม้ในปัจจุบันประเทศไทยจะมิได้เป็นภาคีในกรรมสารระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับผู้ลี้ภัยและผู้อพยพ และใช้กฎหมายภายในซึ่งบัญญัติไว้เป็นลายลักษณ์อักษรควบคุมความประพฤติของบุคคลดังกล่าว หากแต่แนวทางปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยังไม่มีแบบแผนที่จะยึดถือไว้เป็นมาตรฐานในการปฏิบัติได้ เพราะได้มีการเปลี่ยนแปลง แก้ไข ไปตามเหตุการณ์สภาวะของบ้านเมือง และนโยบายของรัฐบาลในแต่ละยุคสมัย ซึ่งการปฏิบัติต่อผู้อพยพชาวอินโดจีนในบางช่วง ก็คล้ายคลึงกับบทบัญญัติซึ่งได้กำหนดไว้ในกรรมสารระหว่างประเทศอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ดี ผลการวิจัยการทำวิทยานิพนธ์มุ่งไปสู่ข้อยุติในการแก้ไขปัญหาผู้อพยพชาวอินโดจีนในประเทศโดยใช้กฎหมายเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย เพื่อให้บังเกิดผลมากที่สุดเท่าที่จะกระทำได้ โดยคำนึงถึงความสมดุลระหว่างความมั่นคงของชาติและมนุษยธรรมเป็นสำคัญ กระนั้นก็ดีเนื่องจากปัญหาของผู้อพยพกระทบและเกี่ยวโยงกับปัจจัยด้านอื่นๆ เช่น ปัจจัยในด้านสังคม เศรษฐกิจ การเมือง การปกครอง ฯลฯ ดังนั้นการแก้ไขปัญหาจะสำเร็จลุล่วงไปได้ย่อมต้องอาศัยความรอบรู้และการวิเคราะห์ในเชิงสหสาขาวิชา ประกอบกับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพ รวมทั้งความร่วมมือร่วมใจของประชาคมระหว่างประเทศในการแบ่งเบาภาระของผู้อพยพ และการแสวงหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างถาวรของผู้อพยพโดยเร่งด่วน และจริงจังอีกด้วย
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
ยามัสเถียร, พนมวรรณ, "กฎหมายและการปฏิบัติต่อผู้อพยพชาวอินโดจีนในประเทศไทย" (1984). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 53343.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/53343