Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
คณะกรรมการลูกจ้างตามกฎหมายแรงงาน
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Employees' committee in labour law
Year (A.D.)
1984
Document Type
Thesis
First Advisor
สุดาศิริ เฮงพูลธนา
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
นิติศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
นิติศาสตร์
DOI
10.58837/CHULA.THE.1984.330
Abstract
เป็นที่ยอมรับกันว่า บทบาทของรัฐบาลในการส่งเสริมการแรงงานสัมพันธ์เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2499 เป็นต้นมา รัฐบาลได้ออกกฎหมายแรงงานรับรองสิทธิของลูกจ้างในการที่จะก่อตั้งสหภาพแรงงาน การร่วมเจรจาต่อรองกับนายจ้างและการแก้ไขข้อขัดแย้งระหว่างนายจ้างลูกจ้าง แต่ก็มีข้อสักเกตว่า กระบวนการแรงงานสัมพันธ์ดังกว่างอาจมีส่วนสร้างการเผชิญหน้าระหว่างนายจ้างลูกจ้าง และหลาย ๆ ครั้งก็เป็นการยุ่งยากที่จะยุติข้อพิพาทแรงงานเหล่านั้นได้ ครั้นต่อมารัฐบาลได้ตราพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 และพระราชบัญญัติเรื่องคณะกรรมการลูกจ้างขึ้นควบคู่กับระบบการร่วมเจรจาต่อรองพร้อม ๆ กัน ทำให้เห็นได้ว่า ประเทศไทยเริ่มมีแนวความคิดที่จะให้ลูกจ้างเข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดการของนายจ้างได้ และเป็นการดำเนินนโยบายด้านแรงงานสัมพันธ์ตามระบบทวิภาคี ด้วยการพยายามสร้างความเข้าใจเพื่อหาทางปรองดองระหว่างกันและกัน ความพอใจของลูกจ้างในการทำงานและความสัมพันธ์อันดีระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างโดยไม่เกี่ยวข้องกับรัฐ ซึ่งสอดคล้องกับข้อแนะขององค์การแรงงานระหว่างประเทศในเรื่องการปรึกษาหารือและร่วมปฏิบัติการในกิจการ แต่คณะกรรมการลูกจ้างในประเทศไทยก็ยังไม่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย มีปัญหาและความไม่เข้าใจหลายอย่างหลายประการเกี่ยวกับคณะกรรมการลูกจ้างนี้ จึงน่าที่จะได้มีการศึกษาวิเคราะห์กฎหมายแรงงานของประเทศไทยเรื่องคณะกรรมการลูกจ้างเปรียบเทียบกับของกฎหมายต่างประเทศและผลทางปฏิบัติเกี่ยวกับกฎหมายเรื่องนี้ เพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงแก้ไขบทบัญญัติของกฎหมายต่อไป การศึกษาวิจัยนี้เป็นการศึกษาเกี่ยวกับวิวัฒนาการของแนวความคิดและนโยบายด้านแรงงานสัมพันธ์ตามแต่ละยุคสมัย แนวความคิดเรื่องการเข้าไปมีส่วนร่วมของลูกจ้างในการจัดการหรือทฤษฎีประชาธิปไตยในทางอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นที่มาของหลักการจัดตั้งคณะกรรมการลูกจ้าง ลักษณะขององค์กรคณะกรรมการลูกจ้างที่มีการจัดตั้งอยู่โดยทั่วไป นอกจากนี้ยังได้ศึกษาเปรียบเทียบกับกฎหมายของประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันซึ่งได้มีบทบัญญัติเกี่ยวกับคณะกรรมการลูกจ้างมาเป็นเวลานานแล้ว กับประเทศทางภูมิภาคเอเชีย คือ ประเทศญี่ปุ่นและอินเดีย วิธีดำเนินการศึกษากระทำด้วยการรวบรวมข้อมูลเอกสาร บทความ คำพิพากษาของศาล แนวความคิดและความคิดเห็นของนักวิชาการ ตัวบทกฎหมายของต่างประเทศ อนุสัญญาและข้อแนะขององค์กรการแรงงานระหว่างประเทศ พร้อมทั้งจัดทำแบบสอบถามเพื่อศึกษาข้อมูลภาคสนามเกี่ยวกับปัญหาทางปฏิบัติอันเกิดจากบทบัญญัติของกฎหมาย และสำรวจความคิดเห็นของนายจ้างลูกจ้าง และกรรมการลูกจ้างในสถานประกอบกิจหาร แล้วนำมาวิเคราะห์เปรียบเทียบกับบทบัญญัติของกฎหมายและปัญหาในต่างประเทศ ผลของการวิจัยปรากฏว่า คณะกรรมการลูกจ้างที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายแรงงานนี้ไม่เพียงส่งเสริมความเข้าใจและหาทางปรองดองให้การทำงานร่วมกันของนายจ้างและลูกจ้างดีขึ้นตามวัตถุประสงค์ของกฎหมายเท่านั้น แต่ยังก่อให้เกิดประโยชน์แก่นายจ้างในด้านอื่น ๆ ด้วย เช่น คุ้มครองรักษาผลประโยชน์ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและประสิทธิผลในการดำเนินกิจการ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการลูกจ้างจะได้รับความสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับบทบัญญัติของกฎหมายที่ให้สิทธิแก่คณะกรรมการลูกจ้างเกี่ยวกับการเข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดการ การยอมรับของนายจ้าง ความรู้ความเข้าใจของนายจ้างและลูกจ้าง และความสามารถในการปฎิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการลูกจ้างเอง ดังนั้น ผู้เขียนจึงเสนอแนวทางเพื่อพิจาณาแก้ไขบทบัญญัติเรื่องคณะกรรมการลูกจ้างนี้ เพื่อเพิ่มบทบาทให้แก่คณะกรรมการลูกจ้างมากขึ้น พร้อมทั้งให้รัฐเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการเข้าไปมีส่วนร่วมของคณะกรรกมการลูกจ้างแก่นายจ้างและลูกจ้างอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันก็จัดอบรมแก่ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นคณะกรรมลูกจ้างด้วย
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
ศิริภาณุรักษ์, สราวุธ, "คณะกรรมการลูกจ้างตามกฎหมายแรงงาน" (1984). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 53338.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/53338