Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ความรับผิดในทางอาญาของผู้ใช้

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Criminal liability of the instigator

Year (A.D.)

1984

Document Type

Thesis

First Advisor

วีระพงษ์ บุญโญภาส

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

นิติศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

นิติศาสตร์

DOI

10.58837/CHULA.THE.1984.328

Abstract

เนื่องจากความเห็นที่แตกต่างกันของนักกฎหมาย และการวินิจฉัยคดีของศาลในบางกรณีก่อให้เกิดความสับสนในปัญหาเรื่องผู้ใช้ให้กระทำความผิด ดังนั้นจึงได้มีการศึกษาถึงปัญหาดังกล่าว เพื่อแสดงให้เห็นถึงความหมายของผู้ใช้ให้กระทำความผิดเพื่อให้สอดคล้องกับความมุ่งหมายในการบัญญัติกฎหมายนั้นขึ้นมาอันจะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษากฎหมาย การฟ้องร้อง และต่อสู้คดี รวมทั้งการพิจารณาคดีและการกำหนดโทษที่จะลงแก่ผู้กระทำความผิดได้อย่างถูกต้อง บุคคลจะต้องรับผิดในทางอาญาก็ต่อเมื่อได้กระทำการตามที่กฎหมายบัญญัติไว้เป็นความผิดและกำหนดโทษไว้ เช่นเดียวกับผู้ใช้ให้กระทำความผิด เมื่อกระทำการตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ก็ต้องรับผิดในผลที่เกิดขึ้น แต่เนื่องจากแนวความคิดเห็นเกี่ยวกับความรับผิดของผู้ใช้ให้กระทำความผิดซึ่งถือว่าเป็นความผิดอันเกิดจากการกระทำของผู้อื่นนั้นแตกต่างกัน 2 ประการ กล่าวคือ 1. ความรับผิดในความหมายอย่างกว้าง เมื่อมีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แม้ผู้กระทำความผิดจะไม่ต้องรับโทษ ผู้ใช้ให้กระทำความผิดก็ต้องรับผิด 2. ความรับผิดในความหมายอย่างแคบ ผู้ใช้ให้กระทำความผิดไม่ต้องรับผิดเว้นแต่ตัวการจะต้องรับผิด จึงทำให้มีผลกระทบต่อการพิจารณาว่าผู้กระทำนั้นเป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิด หรือเป็นผู้กระทำความผิดโดยทางอ้อม แม้กฎหมายไทยจะได้บัญญัติหลักเกณฑ์ของผู้ใช้ให้กระทำความผิดไว้อย่างชัดแจ้งแล้วในมาตรา 84, 85 แห่งประมวลกฎหมายอาญา แต่เนื่องจากนักกฎหมายยึดถือแนวความคิดเห็นที่ต่างกันดังกล่าวข้างต้น จึงทำให้หลักเกณฑ์เรื่องผู้ใช้ให้กระทำความผิดยังไม่เป็นที่แน่นอน นอกจากนั้นความรับผิดของผู้ใช้ให้กระทำความผิดตามที่กฎหมายกำหนดไว้ในมาตรา 87, 88, 89 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ความคิดเห็นของนักกฎหมายไทยในบางประเด็นยังไม่เป็นที่ยุติ เนื่องจากการตีความกฎหมายที่แตกต่างกัน จากการศึกษาดังกล่าว เพื่อให้สอดคล้องกับความมุ่งหมายในการบัญญัติกฎหมายนั้น ผู้เขียนจึงเห็นว่า บุคคลใดจะเป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิด ผู้โฆษณา หรือประกาศแก่บุคคลทั่วไปให้กระทำความผิดนั้น ให้พิจารณาจากบทบัญญัติในมาตรา 84 วรรคแรกหรือมาตรา 85 วรรคแรกแล้วแต่กรณี กล่าวคือ เพียงแต่ใช้โฆษณาหรือประกาศ(โดยเจตนา) ให้ผู้อื่นกระทำความผิดและผู้อื่นนั้นมีเจตนาที่จะกระทำความผิด ก็ถือว่าเป็นผู้ใช้ ผู้โฆษณาหรือประกาศแก่บุคคลทั่วไปให้กระทำความผิดแล้ว ส่วนความรับผิดของบุคคลดังกล่าวจะมีมากน้อยเพียงใดให้พิจารณาอีกชั้นหนึ่ง แต่ถ้าผู้อื่นนั้นไม่มีเจตนาที่จะกระทำความผิดกรณีนี้ถือว่าผู้ใช้เป็นผู้กระทำความผิดโดยอ้อม (มีข้อยกเว้นในบางกรณี)

Share

COinS