Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวิเคราะห์ทางการเงินของอุตสาหกรรมเสาเข็มคอนกรีตอัดแรง ในประเทศไทย

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A financial analysis of prestressed concrete pile industry in Thailand

Year (A.D.)

1984

Document Type

Thesis

First Advisor

ดารณี พุทธวิบูลย์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

บัญชีมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

การบัญชี

DOI

10.58837/CHULA.THE.1984.360

Abstract

วิทยานิพนธ์นี้เป็นการศึกษาถึงการวิเคราะห์ทางการเงินของอุตสาหกรรมเสาเข็มคอนกรีตอัดแรงในประเทศไทย เพื่อศึกษาถึงฐานะทางการเงินของอุตสาหกรรม ข้อมูลสำคัญที่ใช้ในการวิเคราะห์คืองบการเงิน ซึ่งได้จากแหล่งข้อมูลของทางราชการคือ กรมทะเบียนการค้า กระทรวงพาณิชย์ โดยทำการวิเคราะห์ระหว่างช่วงปี พ.ศ. ๒๕๒๐-๒๕๒๓ นอกจากนี้ได้ศึกษาถึงโครงสร้างโดยทั่วไปของอุตสาหกรรมนี้ด้วย สาระสำคัญโดยลำดับของวิทยานิพนธ์นี้มีดังนี้ ด้านโครงสร้างของอุตสาหกรรมเสาเข็มคอนกรีตอัดแรงในประเทศไทยได้ศึกษาถึงภาวะโดยทั่วไปของอุตสาหกรรมนี้ทั้งในด้านการผลิต การตลาด การควบคุมของรัฐบาล ตลอดจนความช่วยเหลือของรัฐบาลที่มีต่ออุตสาหกรรมนี้ สำหรับในด้านการผลิต ปัจจุบันมีโรงงานผู้ผลิตเสาเข็มคอนกรีตอัดแรงประมาณ ๖๐-๗๐ โรงงาน ซึ่งมีทุนจดทะเบียนตั้งแต่ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ถึง ๖๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท และผลิตเพื่อสนองความต้องการภายในประเทศเท่านั้น วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบที่หาได้ภายในประเทศ สำหรับในด้านการตลาดมีการแข่งขันเพื่อแย่งตลาดกันระหว่างผู้ผลิตภายในประเทศด้วยกันเอง และเนื่องจากผลิตภัณฑ์ประเภทนี้เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินส่วนรวม รัฐบาลจึงเข้าควบคุมคุณภาพโดยกำหนดให้เป็นผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐานบังคับของคณะกรรมการ มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมกระทรวงอุตสาหกรรม ด้านการวิเคราะห์ฐานะทางการเงินของอุตสาหกรรมเสาเข็มคอนกรีตอัดแรง ได้จัดแบ่งประเภทบริษัทผู้ผลิตออกตามจำนวนสินทรัพย์รวมเป็น ๓ ขนาดคือ กิจการขนาดใหญ่จะเป็นบริษัทผู้ผลิตที่มีสินทรัพย์รวมมากกว่า ๕๐ ล้านบาท กิจการขนาดกลางเป็นบริษัทที่มีสินทรัพย์รวมระหว่าง ๑๕-๕๐ ล้านบาท กิจการขนาดเล็กเป็นบริษัทที่มีสินทรัพย์รวมต่ำกว่า ๑๕ ล้านบาท ในการวิเคราะห์ได้ใช้อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ ๔ กลุ่มเป็นพื้นฐาน คือ อัตราส่วนแสดงสภาพคล่อง อัตราส่วนแสดงสมรรถภาพในการหากำไร โดยคำนวณหาอัตราส่วนโดยเฉลี่ยของอุตสาหกรรม อัตราส่วนโดยเฉลี่ยของแต่ละขนาดของกิจการผู้ผลิต และทำการเปรียบเทียบเป็น ๒ ลักษณะคือ ลักษณะแรกเป็นการวิเคราะห์เปรียบเทียบอัตราส่วนทางการเงินโดยเฉลี่ยของกิจการแต่ละขนาด กับอัตราส่วนทางการเงินโดยเฉลี่ยของอุตสาหกรรม ลักษณะที่สอง เป็นการวิเคราะห์เปรียบเทียบอัตราส่วนของบริษัทต่างๆกับอัตราส่วนโดยเฉลี่ยของกินการตามขนาดของบริษัทนั้น และจากการวิเคราะห์ฐานะทางการเงินของแต่ละขนาดอาจสรุปได้ว่า กิจการขนาดใหญ่มีฐานะทางการเงินดีกว่ากิจการขนาดกลางและกิจการขนาดเล็ก โดยมีสภาพเสี่ยงต่ำกว่าและมีสมรรถภาพในการหากำไรและสมรรถภาพในการดำเนินงานสูงกว่า ส่วนกิจการขนาดเล็กจัดว่ามีฐานะทางการเงินไม่เป็นที่พอใจโดยมีสภาพเสี่ยงสูง มีสมรรถภาพในการหากำไรและสมรรถภาพในการดำเนินงานต่ำกว่ากิจการขนาดใหญ่และกิจการขนาดกลาง ผลจากการวิเคราะห์ปรากฏว่า อุตสาหกรรมเสาเข็มคอนกรีตอัดแรงมีฐานะทางการเงินอยู่ในเกณฑ์ไม่ดีนัก โดยเฉพาะสภาพคล่องและสมรรถภาพในการหากำไร ซึ่งยังไม่สามารถดึงดูดความสนใจของนักลงทุนได้ดีเท่าที่ควร นอกจากนี้ยังได้วิเคราะห์แนวโน้มของอัตราส่วนทางการเงินแต่ละประเภท เพื่อให้เห็นการเคลื่อนไหวของอัตราส่วนต่างๆของแต่ละขนาดเปรียบเทียบกับอัตราส่วนโดยเฉลี่ยของทั้งอุตสาหกรรมในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๒๐-๒๕๒๓ พบว่าสมรรถภาพในการหากำไรของอุตสาหกรรมเสาเข็มคอนกรีตอัดแรงมีแนวโน้มลดลงมาโดยตลอด ด้านการบริหารเงินทุนของอุตสาหกรรมเสาเข็มคอนกรีตอัดแรง จากการวิเคราะห์โครงสร้างของเงินทุนของกิจการขนาดใหญ่ กิจการขนาดกลาง กิจการขนาดเล็ก และของอุตสาหกรรม ปรากฏว่ามีการใช้เงินทุนจากหนี้สินและส่วนใหญ่เป็นหนี้สินระยะสั้น จากการวิเคราะห์งบแสดงแหล่งที่มาและใช้ไปของเงินทุนพบว่าวิธีการจัดหาเงินทุนของอุตสาหกรรมเสาเข็มคอนกรีตอัดแรงไม่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ที่ดีคือ มีการนำหนี้สินระยะสั้นไปลงทุนในสินทรัพย์ระยะยาว นโยบายการบริหารเงินทุนเช่นนี้ทำให้อุตสาหกรรมมีความเสี่ยงสูงในการที่จะต้องชำระหนี้คืนให้ทันภายในกำหนดระยะเวลาอันสั้น โดยที่อุตสาหกรรมอาจจะไม่สามารถนำสินทรัพย์ถาวรไปใช้ประโยชน์และก่อให้เกิดกำไรมาเป็นเงินสดเพื่อชำระหนี้ได้ทัน ถ้าอุตสาหกรรมยังคงใช้นโยบายการบริหารเงินทุนเช่นนี้ต่อไป อุตสาหกรรมก็อาจจะเผชิญกับความเสี่ยงที่สูงขึ้น ซึ่งอาจจะกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงในอนาคต จากการศึกษาวิเคราะห์พอสรุปได้ว่า ปัญหาของอุตสาหกรรมเสาเข็มคอนกรีตอัดแรงประการแรกคือ ราคาวัตถุดิบสูงขึ้นมาก ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ในขณะที่ผู้ผลิตอาจไม่เพิ่มราคาขายให้สูงขึ้นได้มากเท่าที่ควร และเนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันกันค่อนข้างมาก อีกประการหนึ่งคือนโยบายการจัดหาเงินทุนของอุตสาหกรรมไม่สอดคล้องกับอายุการใช้งานของสินทรัพย์ โดยได้นำเงินทุนจากแหล่งระยะสั้นไปใช้ลงทุนในสินทรัพย์ถาวร ซึ่งจัดว่าทำให้ความเสี่ยงสูงขึ้น ดังนั้นจึงควรปรับปรุงนโยบายการจัดหาเงินทุนให้สอดคล้องกับอายุการใช้งานของสินทรัพย์ และผู้ผลิตควรปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต เพื่อพยายามลดต้นทุนต่อหน่วยให้ต่ำสุด นอกจากนั้นรัฐบาลควรกำหนดนโยบายที่แน่นอนในการสนับสนุนการผลิตของอุตสาหกรรมนี้ เช่น จัดสรรงบประมาณในการก่อสร้างในแต่ละปี และควรจัดให้มีการพบปะกันเป็นครั้งคราวระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายผู้ผลิต เพื่อจะได้ทราบถึงปัญหา อุปสรรค ตลอดจนข้อคิดเห็นเสนอแนะต่างๆในการดำเนินการด้านนี้

Share

COinS