Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ระบบการตลาดยาปราบแมลงศัตรูฝ้าย

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

The marketing system of cotton insecticides

Year (A.D.)

1984

Document Type

Thesis

First Advisor

สมภพ เจริญกุล

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

พาณิชยศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

การตลาด

DOI

10.58837/CHULA.THE.1984.385

Abstract

ฝ้ายเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญพืชหนึ่งของประเทศ ซึ่งมีการผลิตได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ของอุตสาหกรรมภายในประเทศ จึงจำเป็นต้องมีการนำเข้าเส้นใยฝ้ายจากต่างประเทศปีหนึ่งๆคิดเป็นมูลค่ากว่าสองพันล้านบาท ดังนั้นรัฐบาลจึงได้พยายามส่งเสริมให้มีการปลูกฝ้ายเพิ่มมากขึ้น แต่เนื่องจากฝ้ายเป็นพืชไร่ที่มีโรคและแมลงศัตรูรบกวน ซึ่งการปลูกฝ้ายถ้าหากจะได้รับผลดีนั้นจะต้องมีการใช้ยาปราบแมลงศัตรูพืช และมีการปฏิบัติดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด ทำให้สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการผลิตฝ้าย และยังผลให้เกษตรกรมีรายได้มากขึ้นอันเนื่องมาจากการขายผลิตผลที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามเกษตรกรจะต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือมีต้นทุนในการผลิตเพิ่มขึ้นด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการซื้อยาปราบแมลงศัตรูฝ้ายมาใช้ ซึ่งแม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายทางด้านยาปราบศัตรูฝ้ายมากเพียงไรก็ตาม เกษตรกรก็จำเป็นที่จะต้องซื้อมาใช้เพราะเป็นสิ่งจำเป็นที่สามารถช่วยเพิ่มผลิตภาพของการผลิตฝ้ายให้สูงขึ้นได้ ดังนั้นเมื่อยาปราบแมลงศัตรูฝ้ายมีความสำคัญเช่นที่กล่าวไปแล้ว จึงน่าที่จะให้ความสนใจศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการผลิตและการตลาดของธุรกิจยาปราบแมลงศัตรูฝ้าย เพื่อประโยชน์ในอันที่จะทำให้ปัจจัยการผลิตทางด้านยาปราบแมลงศัตรูฝ้ายเข้าไปมีส่วนในการเพิ่มผลผลิต และเพิ่มรายได้ของเกษตรกรผู้ปลูกฝ้ายมากยิ่งขึ้น ในทางที่เหมาะสมซึ่งจะมีส่วนสำคัญช่วยให้เกิดการพัฒนาการเกษตรและเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ในการศึกษาเกี่ยวกับระบบการตลาดยาปราบแมลงศัตรูฝ้ายนั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงลักษณะทั่วไปทางเศรษฐกิจของยาปราบแมลงศัตรูฝ้าย ศึกษาถึงส่วนแบ่งตลาดของยาปราบแมลงศัตรูฝ้าย ศึกษาถึงช่องทางการจำหน่ายยาปราบแมลงศัตรูฝ้ายของบริษัทผู้ค้าวัสดุการเกษตรและศึกษาถึงลักษณะการส่งเสริม การจำหน่ายของยาปราบแมลงศัตรูฝ้าย ทั้งนี้มีความมุ่งหวังเพื่อประโยชน์ในการใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นสำหรับทางราชการ ในการกำหนดมาตรการต่างๆ เกี่ยวกับยาปราบแมลงศัตรูฝ้ายเพื่อประโยชน์แก่เกษตรกรผู้ปลูกฝ้าย และเพื่อใช้เป็นแนวทางในการกำหนดนโยบายการตลาดยาปราบแมลงศัตรูฝ้ายของบริษัทผู้ค้าวัสดุการเกษตร รวมทั้งเป็นแนวทางในการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการตลาดยาปราบแมลงศัตรูฝ้ายต่อไปในอนาคตอีกด้วย ทางด้านข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาวิจัยนี้ ส่วนใหญ่ได้มาจากการสัมภาษณ์เกษตรกรผู้ปลูกฝ้ายและร้านค้าต่างๆ เป็นจำนวน 200 ตัวอย่างและ 50 ตัวอย่าง ตามลำดับโดยใช้แบบสอบถามทำการเก็บข้อมูลในเขตจังหวัดที่มีพื้นที่การเพาะปลูกฝ้ายมาก จำนวน 7 จังหวัด ได้แก่ ลพบุรี เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ เลย นครราชสีมา อุทัยธานี และสระบุรี ซึ่งจะทำการแบ่งตัวอย่างของเกษตรกรและร้านค้าไปตามสัดส่วนพื้นที่การเพาะปลูกฝ้าย ของแต่ละจังหวัด เมื่อได้จำนวนตัวอย่างที่เก็บในแต่ละจังหวัดก็ทำการสุ่มตัวอย่างแบบไม่มีอคติอย่างง่าย จากสองอำเภอที่มีพื้นที่เพาะปลูกฝ้ายมากเป็นอันดับหนึ่ง และอันดับสองในจังหวัดนั้นๆนอกจากนี้แล้วได้ใช้ข้อมูลทุติยภูมิอีกบางส่วนในการศึกษาถึงบทบาทฝ้าย และยาปราบแมลงศัตรูฝ้าย ในการวิจัยนี้ได้ศึกษาถึงระบบการตลาดยาปราบแมลงศัตรูฝ้าย อันประกอบด้วย ลักษณะของยาปราบแมลงศัตรูฝ้ายและการผลิต ราคาจำหน่าย ช่องทางการจำหน่ายและการส่งเสริมการจำหน่ายของบริษัทผู้ค้าวัสดุการเกษตร ตลอดจนตัวเกษตรกรผู้ปลูกฝ้ายซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดยาปราบแมลงศัตรูฝ้าย ทั้งยังได้ศึกษาถึงส่วนแบ่งตลาด และปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในระบบการตลาดยาปราบแมลงศัตรูฝ้าย อีกด้วย ข้อมูลที่ได้มาจากการศึกษาระบบการตลาดยาปราบแมลงศัตรูฝ้ายส่วนหนึ่งนั้น ได้มาใช้ในการทดสอบสมมุติฐานที่กำหนดไว้ 4 ประการ คือ 1. บริษัทผู้ค้าระหว่างประเทศมีส่วนครองตลาดของยาปราบแมลงศัตรูฝ้ายมากกว่าบริษัทผู้ค้าในประเทศ 2. ผู้ค้าวัสดุการเกษตรยาปราบแมลงศัตรูฝ้ายไม่นิยมวิธีการขายโดยตรง 3. การโฆษณาทางวิทยุเป็นสื่อโฆษณาที่ให้ผลดีที่สุดในการส่งเสริมการจำหน่าย 4. วิธีการส่งเสริมการขายของผู้ค้าวัสดุการเกษตรที่นิยมใช้ที่สดคือการให้สินเชื่อแก่คนกลาง ซึ่งจากการศึกษาวิจัยนี้ ปรากฏว่าข้อมูลที่รับนั้นแสดงให้เห็นว่า สมมุติฐานทั้งสี่ข้อที่กำหนดไว้เป็นจริง และผลจากการศึกษายังทำให้ทราบถึงลักษณะที่สำคัญต่างๆของการตลาดยาปราบแมลงศัตรูฝ้ายหลายประการ ซึ่งมีผลกระทบต่อประสิทธิภาพและประสิทธิผล ของระบบการตลาดยาปราบแมลงศัตรูฝ้ายทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ควรจะต้องได้รับการพิจารณาปรับปรุงให้เหมาะสมกับสภาพความเป็นจริง โดยมีสาระสำคัญตลอดจนแนวทางต่างๆสรุปได้ดังนี้ 1. ลักษณะของยาปราบแมลงศัตรูฝ้ายและการผลิต ยาปราบแมลงศัตรูฝ้ายที่ใช้กันอยู่นั้นมีทั้งแบบเป็นน้ำและเป็นผง โดยมีขนาดบรรจุต่างๆกัน เพื่อให้เกิดความสะดวกต่อเกษตรกรในการหาซื้อและนำไปใช้ ซึ่งยาปราบแมลงศัตรูฝ้ายนี้ไม่มีโรงงานผลิตในประเทศ ต้องทำการนำเข้าจากต่างประเทศ เช่นสหรัฐอเมริกา เยอรมันตะวันตก ฯลฯ ในรูปของหัวเชื้อยาหรือยาสำเร็จรูป แล้วค่อยทำการผสม หรือแบ่งบรรจุภายในประเทศ ตามสูตร หรือยี่ห้อต่างๆกันมากมายซึ่งการสร้างความแตกต่างในผลิตภัณฑ์ของยาปราบแมลงศัตรูฝ้ายนี้ ทำให้บริษัทผู้ค้าสามารถชักจูงเกษตรกรให้ซื้อสินค้าของตนในราคาที่สูงขึ้นได้ ดังนั้นเพื่อลดปัญหาดังกล่าวนี้ทางราชการควรจะกำหนดให้แต่ละบริษัทฯใช้ชื่อสามัญของยาเป็นหลักควบคู่กับชื่อทางการค้า เพื่อที่จะทำให้เกษตรกรเข้าใจได้ว่ายี่ห้อใดเป็นยาชนิดเดียวกัน ทำให้เลือกซื้อยาที่มีราคาถูกกว่าไปใช้อันจะทำให้ต้นทุนการผลิตฝ้ายของเกษตรกรลดลง นอกจากนี้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กองควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร ควรทำการตรวจตราตามร้านค้าเพื่อป้องกันการปลอมปนยา หรือการขายยาที่มีคุณภาพไม่ตรงตามฉลาก แล้วทำการดำเนินคดีผู้ฝ่าฝืนกฎหมายวัตถุมีพิษด้วย 2. ราคายาปราบแมลงศัตรูพืช สำหรับตลาดยาปราบศัตรูฝ้ายนั้น มีการกำหนดราคาจำหน่ายโดยการบวกกำไรส่วนเพิ่มเข้าไปในราคาจำหน่าย ทั้งสองระดับ คือระดับราคาขายจากร้านค้าตัวแทนจำหน่ายไปยังผู้ซื้อทั้งหมด และระดับราคาขายจากร้านค้าย่อยไปยังเกษตรกร ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลง โดยมีความสัมพันธ์ไปทางบวกตามความรุนแรงในการระบาดของแมลงศัตรูฝ้าย และการแข่งขันของผู้จำหน่ายยาด้วย ซึ่งจะมีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตฝ้ายของเกษตรกรโดยตรง ฉะนั้นจึงควรหาทางช่วยเหลือแก่เกษตรกรผู้ปลูกฝ้ายโดยที่ทางราชการควรมีมาตรการในการควบคุมราคาจำหน่ายของยาให้เหมาะสม รวมทั้งดำเนินการส่งเสริมการลงทุนแก่บริษัทผู้ผลิตหรือผู้นำเข้ายาปราบแมลงศัตรูฝ้าย ซึ่งเท่ากับเป็นการลดต้นทุนในการผลิตทางอ้อมของหน่วยธุรกิจเอกชน และทำให้ราคาจำหน่ายของยาอยู่ในระดับที่เกษตรกรสามารถหาซื้อไปใช้ในการผลิตฝ้ายโดยได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าต่อการลงทุนทำการผลิตด้วย 3. ช่องทางการจำหน่ายยาปราบแมลงศัตรูฝ้าย ประกอบด้วยช่องทางสำคัญสองช่องทาง ช่องทางแรกจากบริษัทผู้ค้าวัสดุการเกษตรขายผ่านร้านค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่าย ร้านค้าย่อยไปเกษตรกรผู้ใช้ ส่วนช่องทางที่สองนั้น เริ่มจากบริษัทผู้ค้าวัสดุการเกษตรผ่านเอเย่นต์แล้วไปยังเกษตรกร จากการศึกษาพบว่าบริษัทผู้ค้าวัสดุการเกษตรนิยมใช้ช่องทางการจำหน่าย แบบแรกเป็นส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 90 ของร้านค้าทั้งหมดที่ทำการสำรวจ นอกจากนี้ร้านค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายยังมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างส่วนแบ่งตลาดของหน่วยธุรกิจนั้นๆทั้งนี้เพราะว่าร้านค้าเหล่านี้มีความคุ้นเคยและเป็นที่เชื่อถือของเกษตรกรในท้องถิ่นมาก อีกทั้งยังเป็นผู้ที่ให้คำปรึกษาแนะนำตลอดจนให้ความช่วยเหลือทางด้านเงินทุน ยาปราบแมลงศัตรูฝ้ายและอื่นๆ แก่เกษตรกร จึงทำให้เป็นผู้ที่มีบทบาทต่อการตัดสินใจขั้นสุดท้ายในการเลือกซื้อยาปราบแมลงศัตรูฝ้ายของเกษตรกร 4. การส่งเสริมการจำหน่าย จากการศึกษาพบว่า บริษัทผู้ค้าวัสดุการเกษตรดำเนินการส่งเสริมการจำหน่ายไปยังเกษตรกร และตัวกลางหลายรูปแบบควบคู่กันไป เช่นการทำแปลงทดลองสาธิต การโฆษณาผ่านสื่อมวลชน และการส่งเสริมการขาย โดยที่สื่อโฆษณาที่บริษัทผู้ค้าฯ นิยมใช้มากที่สุดในการแพร่ข่าวสารข้อมูลไปยังเกษตรกร คือการโฆษณาทางวิทยุ ส่วนการส่งเสริมการขายไปยังร้านค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่าย หรือเอเย่นต์ที่นิยมใช้มากที่สุด คือการให้สินเชื่อ ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย เต็มใจที่จะสนับสนุนในการผลักดันยาของบริษัทนั้นๆออกสู่ตลาดให้มากที่สุด อันเป็นผลให้ยอดการจำหน่ายของบริษัทนั้นในตลาดยาปราบแมลงศัตรูฝ้ายเพิ่มสูงขึ้นนั่นเอง 5. เกษตรกรผู้ปลูกฝ้าย ผลจากการศึกษา พบว่าเกษตรกรส่วนใหญ่มีระดับการศึกษาต่ำ ฐานะเศรษฐกิจในครอบครัวยากจน และส่วนใหญ่ที่เป็นเจ้าของที่ดินเองแต่ไม่มีเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ การเป็นเจ้าของที่ถูกต้องตามกฎหมายจึงไม่สามารถที่จะใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในการกู้ยืมเงินจากสถาบันเงินทุนในระบบที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำได้ ซึ่งเป็นผลให้เกษตรกรผู้ปลูกฝ้ายขาดแคลนเงินทุนที่นำไปใช้ดำเนินการผลิตฝ้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกษตรกรเหล่านี้ควรจะต้องได้รับการช่วยเหลือในหลายๆด้าน อาทิเช่น ควรมีการเร่งรัดการออกเอกสารสิทธิ์ให้มากขึ้นเพื่อที่เกษตรกรสามารถนำไปใช้เป็นหลักประกันในการขอรับเงินสินเชื่อจากสถาบันเงินทุนในระบบที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ รวมทั้งมีการขยายขนาดของสินเชื่อที่ให้เกษตรกรเพิ่มขึ้น และควรมีการประกันราคาฝ้ายก่อนฤดูการปลูกเพื่อให้เกษตรกรสามารถขายผลผลิตที่ได้ในราคาเหมาะสมอันจะทำให้เกษตรกรผู้ปลูกฝ้ายได้รับผลตอบแทนที่พอเพียงคุ้มกับการลงทุน และสามารถใช้รายได้ที่ได้จากการเพาะปลูกฝ้ายไปในการดำรงชีพได้อย่างเหมาะสมเพียงพออีกด้วย

Share

COinS