Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ทัศนคติของผู้ซื้อเครื่องปรับอากาศสำหรับใช้ในบ้านเรือน ในเขตกรุงเทพมหานคร

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Buyers attitude towards household air conditioners in Bangkok metropolitan area

Year (A.D.)

1984

Document Type

Thesis

First Advisor

ลุรัชนา วิวัฒนชาต

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

พาณิชยศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

DOI

10.58837/CHULA.THE.1984.373

Abstract

เครื่องปรับอากาศในปัจจุบันมีบทบาทสำคัญมากในชีวิตประจำวันของมนุษย์ในเขตร้อน เพราะนอกจากจะช่วยปรับมลภาวะอากาศที่เป็นพิษที่เกิดขึ้นในเมืองให้มนุษย์ได้อย่างสุขสบายด้วยการควบคุมอุณหภูมิในร่างกายแล้วยังช่วยปรับภาวะอากาศและเสียงรบกวนต่างที่รบกวนโสตประสาทที่พึงจะเกิดขึ้นให้น้อยลง ตลอดจนช่วยในการเก็บรักษาสภาพสินค้าและใช้เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจและอุตสาหกรรมใหญ่ๆนอกจากนี้เครื่องปรับอากาศยังจัดเป็นเฟอร์นิเจอร์ตามอาคารบ้านเรือนอีกชนิดหนึ่งที่แสดงถึงผู้มีฐานะดีอีกด้วย เครื่องปรับอากาศเป็นสินค้าประเภทคงทนถาวรที่เพิ่งมาได้รับความนิยมอย่างมากในระยะ 5-6 ปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มของการแข่งขันกันในอนาคตมากขึ้น ผู้เขียนจึงสนใจใคร่จะศึกษาเกี่ยวกับทัศนคติของผู้ซื้อเครื่องปรับอากาศที่ใช้ตามบ้านเรือนที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครซึ่งใช้กันมาก จากการออกแบบสอบถามโดยการสุ่มตัวอย่างทั้งผู้ที่มีเครื่องปรับอากาศอยู่แล้วและผู้ที่ยังไม่มีเครื่องปรับอากาศ แต่อาจมีโครงการจะซื้อในอนาคต ตลอดจนการสัมภาษณ์ผู้บริหารฝ่ายตลาดของบริษัทผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่ายจึงได้ข้อสรุปดังต่อไปนี้ ลักษณะของผู้ซื้อส่วนใหญ่จะมีรายได้ระหว่าง 5,001 – 10,000 บาท มากที่สุดและมักจะต้องปรึกษาหารือกับเพื่อนฝูง ตลอดจนผู้ที่มีโครงการจะซื้อในอนาคตก็จะมีรายได้อยู่ระหว่างนี้ ส่วนผู้ที่มีโครงการอยากจะซื้อเครื่องปรับอากาศในอนาคตมักจะมีอาชีพรับราชการซึ่งมีรายได้น้อย ฉะนั้นจึงควรมีการขายแบบระบบเงินผ่อนเพื่อเป็นการขยายตลาดเครื่องปรับอากาศ ส่วนปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อ ก็คือ คุณภาพ การประหยัดไฟและราคาซึ่งสิ่งที่ผู้บริโภคชอบมากที่สุดคือ การลดราคาและปัจจัยอื่นๆตามลำดับ ส่วนผู้มีความประสงค์จะซื้อเครื่องปรับอากาศในอนาคตต้องการขนาด 12,000 บี ที ยู ต่อชั่วโมง – 16,000 บี ที ยู ต่อชั่วโมง จะอยู่ในช่วงราคาเงินสดระหว่าง 10,000 บาท – 30,000 บาท จากการศึกษาในเรื่องนี้ ผู้เขียนมีข้อเสนอแนะดังนี้ ด้านบริษัทผู้ผลิต 1. ควรมีการปรับปรุงตัวผลิตภัณฑ์ เพิ่มขึ้นทางด้าน รูปแบบ สี การปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ ตัวถังไม่เป็นสนิมง่าย และให้มีแผ่นกรองอากาศที่ผู้บริโภคสามารถถอดทำความสะอาดได้เอง ตลอดจนสามารถที่จะสังเกตจำนวนน้ำยา (ฟรีออน) ได้และตัวเครื่องปรับอากาศก็สามารถเคลื่อนย้ายได้เพื่อสะดวกต่อการทำความสะอาดตัวถัง 2. คุณลักษณะพิเศษของเครื่องปรับอากาศ ควรปรับปรุงให้มีระบบ ปิด- เปิดอัตโนมัติหรือเป็นระบบสัมผัสก็ได้เพื่อให้สะดวกแก่ผู้ใช้ตลอดจนปรับปรุงระบบการถ่ายเทอากาศให้ดีขึ้นด้วย 3. ด้านราคา ควรจัดให้มีการขายระบบเงินผ่อนหรือระบบขายเงินสดโดยผ่อนชำระเป็นงวด ใช้ระยะยาว เช่น 6 เดือนถึง 1 ปีโดยไม่มีดอกเบี้ย ขนาด 12,000 บี ที ยู – 16, 000 บี ที ยู ซึ่งเป็นที่นิยมมาก ส่วนราคาควรจะอยู่ระหว่าง 10,000 บาท – 30,000 บาท การลดราคาควรทำในโอกาสพิเศษเป็นครั้งคราว หรือเมื่อมีเทศกาลเท่านั้น 4. ด้านการจัดจำหน่าย ควรกระจายไปในที่ต่างๆ เพิ่มขึ้นโดยเลือกตัวแทนจำหน่ายที่ดีเพื่อให้บริการลูกค้าได้ทั่วถึง 5. ด้านการส่งเสริมการจำหน่าย จัดให้มีการโฆษณาเพิ่มขึ้นทั้งทางโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ ตลอดจนสื่อโฆษณาต่างๆ โดยเน้นคุณภาพและเข้าร่วมนิทรรศการการแต่งบ้านและงานโชว์สินค้าตามสถานที่ต่างๆด้วย รวมถึงการมีบริการที่ดีและรวดเร็วให้แก่ผู้บริโภค นอกจากนี้ยังควรพิจารณาให้การส่งเสริมการขายอื่นๆแก่ตัวแทนจำหน่ายของบริษัทอีกด้วย ด้านรัฐบาลก็ควรจะดำเนินการต่อไปนี้คือ 1. ตรวจสอบมาตรฐานเครื่องปรับอากาศให้มีการรับรองคุณภาพที่ดี โดยประทับตรามาตรฐานของผลิตภัณฑ์ 2. ลดภาษีขาเข้าและภาษีซ้ำซ้อนเกี่ยวกับเครื่องปรับอากาศ 3. ขจัดโรงงานเถื่อนที่เกิดขึ้นอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมายให้หมดไปด้วย

ISBN

9745634859

Share

COinS