Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
ความสัมพันธ์ระหว่างการเห็นคุณค่าในตนเอง ความเมตตากรุณาต่อตนเอง ค่าดัชนีมวลกาย การประเมินตนเสมือนวัตถุและความพึงพอใจในภาพลักษณ์ทางร่างกายในสตรีวัยรุ่น
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Relationships among self-esteem, self-compassion, body mass index, self-objectification, and body image satisfaction in female adolescents
Year (A.D.)
2012
Document Type
Thesis
First Advisor
ณัฐสุดา เต้พันธ์
Second Advisor
กุลยา พิสิษฐ์สังฆการ
Faculty/College
Faculty of Psychology (คณะจิตวิทยา)
Degree Name
ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
จิตวิทยา
DOI
10.58837/CHULA.THE.2012.249
Abstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความพึงพอใจในภาพลักษณ์ทางร่างกายในสตรีวัยรุ่นกับการเห็นคุณค่าในตนเอง ความเมตตากรุณาต่อตนเอง ค่าดัชนีมวลกาย การประเมินตนเสมือนวัตถุด้านต่างๆ โดยกลุ่มตัวอย่างคือนิสิตนักศึกษาสตรีที่มีอายุระหว่าง 18-23 ปี จำนวน 327 คน ใช้เครื่องมือวัดในการวิจัย 4 ฉบับ ได้แก่ มาตรวัดความพึงพอใจในภาพลักษณ์ทางร่างกาย มาตรวัดการเห็นคุณค่าในตนเอง มาตรวัดความเมตตากรุณาต่อตนเอง มาตรวัดการประเมินตนเสมือนวัตถุในมาตรย่อยด้านการเฝ้าสำรวจภาพลักษณ์ทางร่างกายของตนเอง ด้านความรู้สึกอับอายในภาพลักษณ์ทางร่างกายของตนเอง และด้านความเชื่อเกี่ยวกับการควบคุมภาพลักษณ์ทางร่างกายของตนเอง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีหาค่าสหสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรด้วยวิธีสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน และวิธีการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ ผลการวิจัยพบว่าปัจจัยที่ศึกษามีความสัมพันธ์กับความพึงพอใจในภาพลักษณ์ทางร่างกายตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ กล่าวคือ1. ความพึงพอใจในภาพลักษณ์ทางร่างกายมีความสัมพันธ์กับการเห็นคุณค่าในตนเองในทิศทางบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 [r(327) = .44, p ˂ .001] 2. ความพึงพอใจในภาพลักษณ์ทางร่างกายมีความสัมพันธ์กับความเมตตากรุณาต่อตนเองในทิศทางบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 [r(327) = .29, p ˂ .001] 3. ความพึงพอใจในภาพลักษณ์ทางร่างกายมีความสัมพันธ์กับค่าดัชนีมวลกาย ในทิศทางลบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 [r(327) = -.19, p ˂ .001] 4. องค์ประกอบย่อยของการประเมินตนเสมือนวัตถุด้านการเฝ้าสำรวจภาพลักษณ์ทางร่างกายของตนเองและความรู้สึกอับอายในภาพลักษณ์ทางร่างกายของตนเองนั้นมีความสัมพันธ์กับความพึงพอใจในภาพลักษณ์ทางร่างกายในทิศทางลบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 [r(327) = -.35, p ˂ .001] และ r(327) = -.32, p ˂ .001] ตามลำดับ ในขณะที่ความสัมพันธ์ที่ความเชื่อเกี่ยวกับการควบคุมภาพลักษณ์ทางร่างกายของตนเองมีกับความพึงพอใจนี้เป็นไปในทิศทางบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 [r(327) = .11, p ˂ .05] 5. เมื่อพิจารณาร่วมกันโดยใช้การวิเคราะห์ข้อมูลแบบการถดถอยพหุคูณ (Multiple Regression Analysis) ด้วยวิธีการใส่ตัวแปรอิสระทั้งหมดเข้าไปในสมการ (Enter method) นั้น พบว่าตัวแปรเหล่านี้ร่วมกันพยากรณ์ความพึงพอใจในภาพลักษณ์ทางร่างกายได้ร้อยละ 31 (R² = .31 | p ˂ .001)
Other Abstract (Other language abstract of ETD)
The purpose of this research study was to examine the relationships among body image satisfaction and self-esteem, self-compassion, body mass index, and various aspects of self-objectification. Participants were 327 Thai female undergraduates who were 18-23 years of age. The participants responded to a set of questionnaires measuring body image satisfaction, self-esteem, self-compassion, and the three areas of self-objectification (i.e., body surveillance, body shame, and control belief). Pearson’s product moment correlation coefficient and Multiple Regression Analysis were used to analyse the data. Findings were as follows:1) Body image satisfaction was significantly and positively correlated with self-esteem [r(328) = .44, (p ˂ .001)] . 2) Body image satisfaction was significantly and positively correlated with self-compassion [r(327) = .29, (p ˂ .001)]. 3) Body image satisfaction was significantly and negatively correlated with body mass index [r(327) = -.19, (p ˂ .001)]. 4) Body image satisfaction were significantly and negatively correlated with body surveillance [r(327) = -.35, (p ˂ .001)], and body shame, [r(327) = -.32, (p ˂ .001)]. Different than hypothesized, body image satisfaction was found to have significant positive correlation with the sense of control that the participants had over their body image, [r(327) = .11, (p < .05)]. 5) When examined together, self-esteem, self-compassion, body mass index, and the three aspects of objectification significantly predicted body image satisfaction and accounted for 31% of its variance (R² = .31 | p ˂ .001)
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
อัตศรัณย์, พลอยชมพู, "ความสัมพันธ์ระหว่างการเห็นคุณค่าในตนเอง ความเมตตากรุณาต่อตนเอง ค่าดัชนีมวลกาย การประเมินตนเสมือนวัตถุและความพึงพอใจในภาพลักษณ์ทางร่างกายในสตรีวัยรุ่น" (2012). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 52394.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/52394