Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
แนวทางพัฒนาทะเลสาบสงขลาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Development guidelines for Songkhla lake as a natural tourism resort
Year (A.D.)
1983
Document Type
Thesis
First Advisor
สุวัฒนา ธาดานิติ
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
การผังเมืองมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
ผังเมือง
DOI
10.58837/CHULA.THE.1983.19
Abstract
การพัฒนาเศรษฐกิจโดยส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เป็นวิธีการที่แพร่หลายสำหรับประเทศที่กำลังพัฒนา เนื่องจากทรัพยากรธรรมชาติอีกจำนวนมากยังนำมาใช้ประโยชน์ไม่เต็มที่ ปัญหาการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในปัจจุบันคือ การพัฒนาจนเกินความสามารถของธรรมชาติที่จะรักษาสภาวะแวดล้อมให้อยู่ในสภาพสมดุลได้ ทำให้แหล่งท่องเที่ยวเกิดความเสื่อมโทรมและสูญเสียเอกลักษณ์ของธรรมชาติโดยสิ้นเชิง การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะสมจะต้องผสมผสานระหว่างประโยชน์ทางเศรษฐกิจและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ วิทยานิพนธ์เรื่อง “แนวทางพัฒนาทะเลสาบสงขลาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ" มีวัตถุประสงค์ที่จะแสดงให้เห็นว่า การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติทะเลสาบสงขลาสามารถนำมาเป็นเครื่องมือลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ ซึ่งเป็นปัญหาหลักของพื้นที่ได้ โดยที่ทรัพยากรธรรมชาติที่นำมาใช้จะไม่เสื่อมสลายไป ถ้าได้มีการวางแผนบำรุงรักษาธรรมชาติควบคู่ไปกับการใช้ประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ วิธีการดำเนินการศึกษาส่วนใหญ่ ศึกษาจากข้อมูลทุติยภูมิ เกี่ยวกับสภาพทั่วไปของพื้นที่ลุ่มน้ำ ความยากจนหรือความเหลื่อมล้ำในพื้นที่ ลักษณะทางนิเวศวิทยาของทะเลสาบ ทรัพยากรการท่องเที่ยวและจำนวนนักท่องเที่ยวในทะเลสาบสงขลา บางส่วนใช้วิธีการศึกษางานในสนามโดยใช้วิธีสังเกตและสัมภาษณ์ นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์สภาพพื้นที่โดยใช้ค่ามาตรฐานทฤษฎีและแบบจำลองทางนิเวศวิทยา ผลการศึกษาสรุปได้ว่า ทะเลสาบสงขลาเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ในอดีตเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของพื้นที่ลุ่มน้ำ บริเวณรอบๆ ทะเลสาบเป็นแหล่งผลิตข้าวที่สำคัญของภาคใต้ จากความสมบูรณ์ของบริเวณนี้จึงทำให้เป็นแหล่งกำเนิดศิลปวัฒนธรรมของภาคใต้ สภาพปัจจุบันพื้นที่ลุ่มน้ำส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ชนบทยากจน เพราะอาชีพทำนาเพียงครั้งเดียว สวนยางพันธุ์เก่าขนาดเล็ก และการประมงพื้นบ้าน ประกอบกับสัตว์น้ำที่เคยหาได้เองตามแหล่งน้ำทั่วไปขาดแคลนอย่างมาก การจับสัตว์น้ำในทะเลสาบสงขลาจึงเกินดุลธรรมชาติและอยู่ในลักษณะเสื่อมโทรม ขณะที่ประชาชนบริเวณนี้ยากจนที่สุด แต่ทางตอนใต้ของพื้นที่ลุ่มน้ำบริเวณเมืองสงขลาและหาดใหญ่ มีศักยภาพในการพัฒนาสูงมาก เนื่องจากเป็นศูนย์กลางหลายๆด้านของภาคใต้ ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างเมืองและชนบท ผลที่จะเกิดตามมาคือการเคลื่อนย้ายประชากรเข้าสู่ตัวเมือง แนวคิดในการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำคือ การให้อุตสาหกรรมในเมืองหลักเกิดการเชื่อมโยงถดถอย เป็นการสร้างางานในพื้นที่ชนบท ประเภทอุตสาหกรรมที่มีลักษณะดังกล่าวมากที่สุดคือ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทะเลสาบสงขลาเป็นทรัพยากรการท่องเที่ยวที่สำคัญในบริเวณพื้นที่ชนบทยากจน และยังนำมาใช้ประโยชน์ไม่เต็มที่ได้แก่ อุทยานนกน้ำทะเลน้อย อุทยานนกน้ำคูขุด หาดแสนสุขลำบำ เกาะสี่เกาะห้า เหาะยอ และเกาะอื่นๆ ในทะเลสาบ ซึ่งถือเป็นทรัพยากรหน่วยสุดท้าย การใช้ประโยชน์จะต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง โดยเฉพาะบริเวณที่มีความเปราะบาง ในการพัฒนาทะเลสาบสงขลาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ จะต้องกำหนดเป็นเป้าประสงค์ นโยบาย และวัตถุประสงค์ ดังนี้ (1) เพื่อลดปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำโดยการสร้างงานจากการท่องเที่ยว (2) เพื่อนำทรัพยากรที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ชุมชน แล้วนำรายได้นั้นกลับไปบำรุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้มีอยู่ตลอดไป สำหรับกลยุทธ์ในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่นำมาใช้ในการศึกษาครั้งนี้ มีดังต่อไปนี้ (1) การกำหนดเขตการใช้ที่ดินในแหล่งท่องเที่ยว โดยแบ่งเป็น เขตป่าสงวน เขตอนุรักษ์ และเขตพัฒนา เพื่อป้องกันผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ (2) การสร้างระบบชุมชนศูนย์กลางท่องเที่ยวระดับต่างๆ เพื่อรองรับการกระจายตัวของนักท่องเที่ยว บริการข่าวสาร เทคโนโลยี และเงินทุนสู่พื้นที่ยากจน (3) กำหนดเส้นทางการท่องเที่ยวให้กระจายมากที่สุด (4) การพัฒนาเฉพาะบริเวณ เนื่องจากทะเลสาบสงขลามีอาณาเขตกว้างขวางมากจึงเลือกพัฒนาเฉพาะบริเวณที่มีศักยภาพในการพัฒนาสูงเท่านั้น โดยกำหนดแนวทางพัฒนาออกเป็น 3 แนวทางคือ แนวทางพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว แนวทางบำรุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศ และแนวทางการพัฒนาอาชีพชุมชน จากกลยุทธ์ดังกล่าว สามารถเสนอแนะการวางแผนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว คือมีการกำหนดการใช้ที่ดินเป็น 3 ประเภท ประเภทแรกได้แก่ บริเวณป่าพรุเหนือทะเลน้อย และคลองนางเรียม ป่าหญ้าหน้าบ้านศรีไชย บ้านคูขุด และหัวเกาะโคบ ประเภทที่ 2 เป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ในแหล่งท่องเที่ยว ส่วนประเภทที่ 3 จะอยู่บริเวณชุมชนเดิม ที่มีการพัฒนาไปบ้างแล้ว มีการสร้างระบบโครงสร้างชุมชนการท่องเที่ยวเพียง 3 ระดับ คือศูนย์กลางหลัก คือ สงขลา/หาดใหญ่ ศูนย์กลางรอง คือ หาดแสนสุขลำบำ ส่วนศูนย์กลางเล็ก ได้แก่ ทะเลน้อยและคูขุด กำหนดให้มีเส้นทางการท่องเที่ยวกระจายออกจาก หวดใหญ่และพัทลุง โดยปรับปรุงเส้นทางเก่า และเปิดเส้นทางใหม่ ส่วนการพัฒนาเฉพาะบริเวณ ทะเลน้อยและคูขุด จะเน้นทั้ง 3 ด้าน หาดแสนสุขลำบำจะเน้นพัฒนาด้านแหล่งท่องเที่ยว เกาะยอจะเน้นการอนุรักษ์และการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ส่วนเกาะสี่เกาะห้า จะเน้นการอนุรักษ์ เนื่องจากบริเวณพื้นที่ลุ่มน้ำมีปัญหาเกี่ยวกับโจรผู้ร้ายและผู้ก่อการร้าย มาตรการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินจะเป็นมาตรการแรกที่กระทำก่อน ส่วนการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวนั้นจะต้องตั้งองค์กรทำหน้าที่บริหารให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
ทองสม, แคล้ว, "แนวทางพัฒนาทะเลสาบสงขลาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ" (1983). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 50793.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/50793