Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

หน้าที่ทางจริยธรรมของมนุษย์ต่อสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Man's ethical duty towards his natural environment

Year (A.D.)

1983

Document Type

Thesis

First Advisor

ปรีชา ช้างขวัญยืน

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

อักษรศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

ปรัชญา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1983.586

Abstract

วิทยานิพนธ์นี้มีจุดมุ่งหมายที่จะพิจารณา การให้เหตุผลเกี่ยวกับหน้าที่ทางจริยธรรมของมนุษย์ต่อไปนี้คือ 1. หน้าที่ในการรักษาสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ 2. หน้าที่ในการรักษาสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติเพื่ออนุชน 3. หน้าที่ในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ซึ่งอยู่ห่างไกลในการรักษาสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ 4. หน้าที่ในการยอมสละอิสรภาพบางประการ เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติเพื่อความอยู่รอดของสังคมโดยส่วนรวม ซึ่งมีเนื้อหาสำคัญดังต่อไปนี้ บทที่ 1 ศึกษาความคิดของนักปราชญ์ต่าง ๆ ซึ่งพยายามที่จะขยายอาณาจักรของศีลธรรมให้ครอบคลุมไปถึงสิ่งซึ่งไม่ใช่มนุษย์ นั่นคือ สัตว์ พืช ฯลฯ และสภาพแวดล้อมโดยส่วนรวมว่าในที่สุดแล้วจริยศาสตร์สภาพแวดล้อม หรือจริยศาสตร์ซึ่งถือความสมดุลย์ของสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติเป็นคุณค่าสูงสุด มีค่าในตัวของมันเอง โดยมิใช่เป็นแต่วิถีไปสู่จุดหมายนั้น เป็นไปได้หรือไม่ ผลของการศึกษาชี้ให้เห็นว่า จริยศาสตร์สภาพแวดล้อมนั้น ตามเหตุผลแล้วเป็นไปได้ยาก และการพิจารณาสภาพแวดล้อมเป็นเสมือนวิถีไปสู่จุดหมาย (ความอยู่รอด การมีชีวิตที่คุ้มค่าของมนุษย์) เป็นสิ่งซึ่งมีเหตุผลมากที่สุด บทที่ 2 เป็นการพิจารณาหน้าที่ของมนุษย์ ที่จะรักษาสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติเพื่ออนุชนรุ่นหลัง โดยพิจารณาทฤษฎีสำคัญ ๆ คือ ประโยชน์นิยม ทฤษฎีความยุติธรรมของจอห์น รอล (John Rawl) ทฤษฎีเรื่องความรักและความเมตตา (Love and altruism) ว่าทฤษฎีใดสามารถที่จะให้เหตุผลต่อหน้าที่นี้ได้ดีที่สุด ผลปรากฏว่า ทุกทฤษฎีต่างก็มีจุดบกพร่องของตน และอย่างมากที่สุดที่แต่ละทฤษฎีจะให้ได้ก็คือ หน้าที่ต่ออนุชนรุ่นถัดไปเท่านั้น นั่นคือ ไม่อาจบอกได้ว่าเรามีหน้าที่ต่ออนุชนในระยะยาว บทที่ 3 เป็นการวิเคราะห์หน้าที่ของประเทศที่เจริญแล้ว ในการช่วยเหลือประเทศยากจนหรือด้อยพัฒนา เพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ โดยพิจารณามโนทัศน์เรื่องการทำร้าย (harm) และทฤษฎีความยุติธรรม และพิจารณาข้อโต้แย้งต่าง ๆ ของผู้ซึ่งไม่เห็นด้วยกับการมีอยู่ของหน้าที่นี้ ผลของการศึกษาสรุปได้ว่า การให้ความช่วยเหลือนี้เป็นหน้าที่ทางจริยธรรม อันเนื่องมาจากหลักความยุติธรรม และการละเว้นจากความช่วยเหลือ นอกจากจะเป็นความอยุติธรรมแล้ว ยังถือว่าเป็นการทำร้ายประเทศด้อยพัฒนาอีกด้วย บทที่ 4 เป็นการศึกษาขอบเขตอำนาจหน้าที่ของรัฐกับสิทธิแห่งเสรีภาพของประชาชนว่ารัฐนั้นสามารถจะเข้าไปก้าวก่ายวิถีการดำเนินชีวิตของประชาชนได้เพียงไร โดยใช้การบังคับให้ทำหมันเป็นตัวอย่างสำคัญ เพื่อจะพิจารณาว่าในกรณีใดรัฐจึงจะมีเหตุผลพอที่จะเข้าไปจำกัดอิสรภาพส่วนบุคคลของประชาชน ผลของการศึกษาพอสรุปได้ว่า ในกรณีที่ความเสื่อมโทรมของสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติเลวร้าย จนกระทั่งอาจเกิดอันตรายแก่ความอยู่รอดของสังคมโดยส่วนรวมแล้ว รัฐมีหน้าที่ ต้องจำกัดอิสรภาพส่วนตัวบางประการของประชาชน เพื่อความอยู่รอดของส่วนรวมและเพื่ออิสรภาพและคุณค่าต่าง ๆ ที่ได้รับการยกย่อง เช่น ความยุติธรรม ฯลฯ จะเป็นไปได้ในที่สุด

Share

COinS