Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ปัญหาการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่สอง ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร เขตปทุมวัน

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Problems in reading of prathom suksa two students in schools under the auspices of Bangkok Metropolitan administration in Pathum Wan District

Year (A.D.)

1983

Document Type

Thesis

First Advisor

กิติยวดี บุญซื่อ

Second Advisor

ประคอง สุทธสาร

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

ประถมศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1983.112

Abstract

งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจปัญหาการอ่านของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่สอง ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร เขนปทุมวัน ตัวอย่างประชากร ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่สองที่มีปัญหาในการอ่าน ตั้งแต่ 3 ปัญหาขึ้นไปตามการระบุของครูผู้สอนวิชาภาษาไทย ในโรงเรียนทั้ง 9 โรง ของเขตปทุมวัน เป็นจำนวนทั้งสิ้น 75 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสำรวจปัญหาการอ่าน ซึ่งผู้วิจัยได้ดัดแปลงมาจากแบบตรวจสอบข้อบกพร่องในการอ่านออกเสียงและการอ่านในใจของ มณีรัตน์ สุกโชติรัตน์ และแบบทดสอบวัดความสามารถในการอ่านของนักเรียนเป็นรายบุคคล 1 ชุด แบ่งออกเป็น 2 ตอนคือ แบบทดสอบการอ่านออกเสียงและแบบทดสอบการอ่านในใจโดยผู้วิจัยเป็นผู้สร้างขึ้นเอง ผู้วิจัยได้นำเครื่องมือไปใช้กับตัวอย่างประชากรเป็นรายบุคคลทั้ง 75 คน โดยใช้เวลาในการสำรวจ 23 วัน ทดสอบโรงเรียนละ 1-2 วัน จากนั้นจึงนำข้อมูลที่ได้มาประมวลและวิเคราะห์โดยจัดหมวดหมู่ปัญหาการอ่านของนักเรียนแต่ละคนด้วยการหาค่าความถี่ของปัญหาคิดเป็นร้อยละของนักเรียนที่มีปัญหาการในแต่ละโรง ผลการวิจัยพบว่า ปัญหาการอ่านทั้ง 24 ปัญหาที่ผู้วิจัยนำมาตั้งเป็นเกณฑ์ในการสำรวจการอ่านของเด็กเป็นรายบุคคลนั้น เป็นปัญหาที่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ทั้ง 9 โรง ในเขตปทุมวันประสบทั้งสิ้น ปัญหาที่พบมากที่สุดได้แก่ การอ่านออกเสียง ร ล ไม่ชัดมีถึงร้อยละ 97.33 รองลงมาคือ การอ่านออกเสียงพยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ผิดเพี้ยนมีร้อยละ 93.33 ปัญหาอันดับ 3 ได้แก่ การอ่านช้าตะกุกตะกัก อ่านไม่คล่อง อ่านโดยใช้วิธีสะกดคำและอ่านผิดวรรคตอน แบ่งวรรคตอนไม่ถูก มีร้อยละ 86.67 ปัญหาอันดับ 4 ได้แก่ การอ่านคำควบกล่ำไม่ถูกมีร้องละ 84.00 ปัญหาอันดับ 5 ได้แก่ การอ่านโดยใช้นิ้วชี้ไปตามตัวอักษรมีร้อยละ 82.67 ส่วนปัญหาการอ่านในด้านอื่น ๆ อีก 16 ปัญหาจะอยู่ในระหว่างร้อยละ 69.33-10.67 และปัญหาอันดับสุดท้ายซึ่งพบบ้าง แต่น้อยที่สุดได้แก่ การอ่านเพิ่ม การเติมหรือแทรกคำเข้าไปและปัญหาการอ่านไม่ชัดเนื่องจากอวัยวะออกเสียงผิดปกติมีเพียงร้อยละ 9.33

Share

COinS