Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
การหาปริมาณสเปอร์มิดีนในพลาสมาของสตรีตั้งครรภ์ปกติและโรคครรภ์ไข่ปลาอุกโดยวิธีเรดิโออิมมูโนแอสเสย์
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Determination of plasma spermidine in normal and molar pregnancies by radioimmunoassay
Year (A.D.)
1983
Document Type
Thesis
First Advisor
ปรีดา ชัยศิริ
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
ชีวเคมี
DOI
10.58837/CHULA.THE.1983.437
Abstract
การศึกษาเกี่ยวกับโพลิเอมีนในทางการแพทย์ จำเป็นต้องมีวิธีวัดปริมาณโพลีเอมีนที่มีความไวและความถูกต้องสูง จึงได้มีการพัฒนาวิธีเรดิโออิมมูโนแอสเสย์ขึ้นมาสำหรับวัดปริมาณสเปอร์มิดีนในพลาสมา แอนติสเปอร์มิดีนที่สร้างได้มีค่า Ka เท่ากับ 1.43x107 ลิตรต่อโมล และมีความจำเพาะพอสมควร ปฏิกิริยาข้ามชนิดกับพูเทรสซีนสูงที่สุดซึ่งมีร้อยละของปฏิกิริยาข้ามชนิด เป็น 17.7 รองลงมาคือสเปอร์มิดีนและคาดาเวอรีนซึ่งร้อยละของปฏิกิริยาข้ามชนิด เป็น 8.12 และ 2.05 ตามลำดับ วิธีเรดิโออิมูโนแอสเสย์ที่พัฒนานาได้นี้มีความไว 17.9 พิโคโคโมลต่อมิลลิลิตรของพลาสมา มีความถูกต้องและความแม่นยำพอใช้ วิธีนี้สามารถวัดปริมาณสเปอร์มิดีนในพลาสมาโดยใช้พลาสมาเพียง 100 ไมโครลิตรและสามารถวัดได้วันละไม่ต่ำกว่า 100 ตัวอย่าง ค่าเฉลี่ยของปริมาณเสเปอร์มิดีนในพลาสมาของสตรีตั้งครรภ์ปกติที่มีอายุครรภ์ 5 ถึง36 สัปดาห์ ซึ่งวัดโดยวิธีที่พัฒนาได้มีปริมาณไม่แตกต่างจากของสตรีปกติ อย่างไรก็ตามสตรีตั้งครรภ์ปกติที่มีอายุครรภ์ 5 ถึง 12 สัปดาห์มีปริมาณสเปอร์มิดีนสูงกว่าสตรีตั้งครรภ์ปกติที่มีอายุครรภ์ 13 ถึง 24 และ 25 ถึง 36 สัปดาห์ และสูงกว่าสตรีปกติด้วย ซึ่งอาจเนื่องมาจากมีอัตราการเจริญของตัวอ่อนในระยะแรกของการตั้งครรภ์สูงกว่าระยะหลังของการตั้งครรภ์ สตรีโรคครรภ์ใข่ปลาอุกที่มีอายุครรภ์น้อยกว่า 13 สัปดาห์จะปริมาณสเปอร์มิดีนในพลาสมาใกล้เคียงกับสตรีตั้งครรภ์ปกติที่มีอายุครรภ์เท่ากัน แต่สตรีโรคครรภ์ไข่ปลาอุกที่มีอายุครรภ์มากกว่า 13 สัปดาห์ส่วนใหญ่จะมีปริมาณสเปอร์มิดีนในพลาสมาสูงกว่าสตรีปกติที่มีอายุครรภ์เท่ากัน อาจเนื่องมาจากในระยะหลังของการตั้งครรภ์ไข่ปลาอุกมีจำนวนเซลล์โทรโฟบลาสเพิ่มขึ้นและมีอัตราการเจริญของเซลล์สูงกว่าระยะแรกของการตั้งครรภ์ หลังการทำแท้งเอาก้อนโมลออก 1 ถึง 10 วันปริมาณสเปอร์มิดีนในพลาสมาเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย คล้ายกับในสตรีปกติความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณสเปอร์มิดีนในพลาสมากับการเกิดโรคครรภ์ไข่ปลาอุกหรือการเปลี่ยนแปลงของโรคครรภ์ไข่ปลาอุกหรือการเปลี่ยนแปลงของโรคครรภ์ไข่ปลาอุกไปเป็นอินเวซีฟโมลและโคริโอคาร์ซิโนมา จำเป็นต้องมีการศึกษาต่อไปอีก
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
วณิชย์พันธุ์, มนต์จันทร์, "การหาปริมาณสเปอร์มิดีนในพลาสมาของสตรีตั้งครรภ์ปกติและโรคครรภ์ไข่ปลาอุกโดยวิธีเรดิโออิมมูโนแอสเสย์" (1983). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 50635.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/50635