Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

แอนติบอดี้ชนิด อิมมูโนโกลบูลินจี และ อิมมูโนโกลบูลินเอ ต่อเอบสไตบาร์ไวรัสในผู้ป่วยมะเร็ง

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Immunoglobulin G and immunoglobulin A antibodies to Epstein-Barr virus in cancer patients

Year (A.D.)

1983

Document Type

Thesis

First Advisor

เพชรินทร์ ศรีวัฒนกุล

Second Advisor

สันติ ถุงสุวรรณ

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

เภสัชศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

จุลชีววิทยา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1983.12

Abstract

Epstein-Barr Virus (EBV) มีความสัมพันธ์กับโรค nasopharyngeal carcinoma (NPC) และ Burkitt’s lymphoma (BL) ได้มีผู้ทำการศึกษาพบว่าในซีรั่มผู้ป่วย NPC จะพบแอนติบอดี้ชนิด Ig G และ Ig A ต่อ EBV associated antigens ในระดับสูง และไม่ค่อยพบในผู้ป่วยมะเร็งชนิดอื่นๆ และคนปกติ ในประเทสไทยอุบัติการของโรค NPC ค่อนข้างสูง จุดประสงค์ของการศึกษานี้เพื่อดูว่าจะใช้ระดับแอนติบอดี้ชนิด Ig G และ Ig A ในซีรั่มช่วยในการวินิจฉัยโรคและติดตามผลการรักษาโรค NPC ในคนไทยได้มากน้อยเพียงใด ทำการศึกษาระดับแอนติบอดี้ชนิด Ig G และ Ig A ต่อ EBV associated antigens ในเซลล์ B₉₅₋₈ โดยใช้วิธี indirect immunofluorescence ในซีรั่มผู้ป่วย NPC 40 ราย, ลิมป์โฟมา 30 ราย, มะเร็งบริเวณลำคอและใบหน้า 50 ราย, มะเร็งปอด 40 ราย, มะเร็งตับ 40 ราย, มะเร็งตามบริเวณต่างๆ ของร่างกาย 50 ราย และคนปกติ 50 ราย พบว่าในซีรั่มผู้ป่วยมะเร็งและคนปกติทุกรายมีแอนติบอดี้ชนิด Ig A ต่อ EBV associated antigens โดยพบในระดับต่างๆ กัน แต่แอนติบอดี้ชนิด Ig A ต่อ EBV associated antigens พบเฉพาะในผู้ป่วย NPC ร้อยละ 82.5 และผู้ป่วยลิมป์โฟมาร้อยละ 36.6 และไม่สามารถตรวจพบในผู้ป่วยมะเร็งชนิดอื่นๆ รวมทั้งคนปกติ ระดับแอนติบอดี้ชนิด Ig A ที่พบในผู้ป่วย NPC นั้น ยังแตกต่างกันเมื่อดูตามระยะของโรค โดยพบว่าในผู้ป่วย NPC ระยะที่ I และ II จะพบแอนติบอดี้ชนิด Ig A ในระดับต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ป่วย NPC ระยะที่ III และ IV ซึ่งจะพบแอนติบอดี้ชนิด Ig A ในระดับสูง และระดับแอนติบอดี้ชนิด Ig A และ Ig G ในผู้ป่วย NPC ชนิด poorly differentiated cell carcinoma และ undifferentiated cell carcinoma พบว่าสูงใกล้เคียงกัน และจากการติดตามผลการรักษาผู้ป่วย NPC ชนิด Poorly differentiated cell carcinoma 3 ราย เป็นเวลา 1-2 ปี พบว่าระยะแรกผู้ป่วยตอบสนองการรักษาดี อาการของโรคทุเลาลง ระดับแอนติบอดี้ ชนิด Ig A ลดต่ำลง แต่มีผู้ป่วย 2 รายซึ่งต่อมาพบว่ามีระดับแอนติบอดี้ชนิด Ig A สูงขึ้น และผู้ป่วยก็มีอาการของโรคขึ้นมาอีก ส่วนระดับแอนติบอดี้ชนิด Ig G พบว่าไม่เปลี่ยนแปลง จากการศึกษานี้ แสดงว่าน่าจะใช้การตรวจหาระดับแอนติบอดี้ชนิด Ig A ต่อ EBV associated antigens ในซีรั่มผู้ป่วยเพื่อช่วยในการวินิจฉัยโรค NPC และลิมป์โฟมาในคนไทย ทั้งยังอาจมีประโยชน์ในการใช้เป็น Screening test ในคนที่เป็น high-risk groups และนอกจากจะใช้ระดับแอนติบอดี้ชนิด Ig A ช่วยในการวินิจฉัยโรคแล้ว ยังใช้เป็นตัวบ่งชิ้ในการติดตามผลการรักษาและพยากรณ์โรคได้ด้วย

Share

COinS