Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
ผลของการเสริมแรงสองแบบที่มีต่อการฝึกการแก้ปัญหา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
The effects of two methods of reinforcement upon problem solving training of lower secondary school sutdents
Year (A.D.)
1983
Document Type
Thesis
First Advisor
โยธิน ศันสนยุทธ
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
จิตวิทยาการศึกษา
DOI
10.58837/CHULA.THE.1983.55
Abstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อที่จะศึกษาผลของการเสริมแรงสองแบบที่มีต่อการฝึกแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และต้องการศึกษาเกี่ยวกับความแตกต่างของความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนอันเนื่องมาจากการฝึกแก้ปัญหาโดยให้การเสริมแรงทางสังคม (วาจา ท่าทาง) ให้การเสริมแรงที่เป็นเบี้ยอรรถกร หรือสิ่งของและไม่ให้การเสริมแรง ความแตกต่างของความสามารถในการแก้ปัญหาของนักเรียนชายและนักเรียนหญิงภายใต้เงื่อนไขการเสริมแรงแต่ละแบบ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (มัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ) โรงเรียนสหศึกษา 3 โรงเรียน สังกัดกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ในกรุงเทพมหานคร ปีการศึกษา 2522 จำนวน 90 คน ผู้รับการทดลองทั้งหมด ได้รับคัดเลือกโดยอาศัยคะแนนการทดสอบครั้งแรกเป็นเกณฑ์ และแบ่งเป็น 3 กลุ่ม (เงื่อนไข) แต่ละกลุ่มประกอบด้วยนักเรียน ชาย 15 คน นักเรียนหญิง 15 คน ได้แก่ กลุ่มที่ 1 ฝึกโดยได้รับการเสริมแรงทางสังคม กลุ่มที่ 2 ฝึกโดยได้รับการเสริมแรงเป็นเบี้ยอรรถกรหรือสิ่งของ และกลุ่มที่ 3 ฝึกเพียงอย่างเดียว ไม่ได้รับการเสริมแรง มีการฝึกแก้ปัญหาทุกวัน วันละ 2 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ติดต่อกัน ผลการวิจัยปรากฏว่า 1. นักเรียนที่ได้รับการเสริมแรงทางสังคมระหว่างการฝึกแก้ปัญหา และนักเรียนที่ได้รับการเสริมแรงเป็นเบี้ยอรรถหรือสิ่งของระหว่างการฝึกแก้ปัญหา มีความสามารถในการแก้ปัญหา แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 กล่าวคือ นักเรียนกลุ่มที่ 1 มีความสามารในการแก้ปัญหาสูงกว่านักเรียน กลุ่มที่ 2 2. นักเรียนที่ได้รับการเสริมแรงทางสังคมระหว่างการฝึกแก้ปัญหา และนักเรียนที่ไม่ได้รับการเสริมแรงระหว่างการฝึกแก้ปัญหา มีความสามารถในการแก้ปัญหาแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 กล่าวคือ นักเรียนกลุ่มแรก มีความสามารถในการแก้ปัญหาสูงกว่านักเรียนกลุ่มหลัง 3. นักเรียนที่ได้รับการเสริมแรงเป็นเบี้ยอรรถกร หรือสิ่งของระหว่างการฝึกแก้ปัญหาและนักเรียนที่ไม่ได้รับการเสริมแรงระหว่างการฝึกแก้ปัญหา มีความสามารถในการแก้ปัญหาแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 กล่าวคือ นักเรียนกลุ่มแรก มีความสามารถการแก้ปัญหาสูงกว่านักเรียนกลุ่มหลัง 4. นักเรียนชายและนักเรียนหญิง ที่ได้รับการเสริมแรงทางสังคมระหว่างการฝึกแก้ปัญหา มีความสามารถในการแก้ปัญหา แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 กล่าวคือ นักเรียนหญิงมีความสามารถในการแก้ปัญหาสูงกว่านักเรียนชาย 5. นักเรียนชายและนักเรียนหญิงที่ได้รับการเสริมแรงเป็นเบี้ยอรรถกร หรือสิ่งของ ระหว่างการฝึกแก้ปัญหามีความสามารถในการแก้ปัญหาแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 กล่าวคือ นักเรียนหญิงมีความสามารถในการแก้ปัญหาสูงกว่านักเรียนชาย 6. นักเรียนชายและนักเรียนหญิงที่ไม่ได้รับการเสริมแรงระหว่างการฝึกแก้ปัญหามีความสามารถในการแก้ปัญหาไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 7. มีปฏิกริยาร่วมระหว่างการเสริมแรง และเพศในการแก้ปัญหาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
สกุลสถาปัตย์, สมคิด, "ผลของการเสริมแรงสองแบบที่มีต่อการฝึกการแก้ปัญหา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น" (1983). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 50625.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/50625