Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
การศึกษาเพื่อวางแนวทางจัดหาส่วนสาธารณะ ในกรุงเทพมหานครในแง่ของการผังเมือง
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
A study of urban planning guidelines for public parks development in Bangkok metropolis
Year (A.D.)
1983
Document Type
Thesis
First Advisor
เดชา บุญค้ำ
Second Advisor
สุวัฒนา ธาดานิติ
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
การวางแผนภาคและเมืองมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
การวางผังเมือง
DOI
10.58837/CHULA.THE.1983.23
Abstract
สวนสาธารณะเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับประชากรที่อาศัยในสภาพแวดล้อมแบบเมือง โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเมืองที่มีความหนาแน่นของประชากรมากที่สุดในประเทศไทย มีการขยายตัวของเมืองเพื่อรองรับกับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนก่อให้เกิดปัญหานานาประการ เช่น ปัญหาสภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม ปัญหาที่ว่างลดจำนวนลง ฯลฯ ปัญหาที่สำคัญ แต่มักถูกมองข้ามอยู่เสมอ ก็คือ ปัญหาการขาดแคลนสวนสาธารณะสำหรับประชาชนใช้พักผ่อนหย่อนใจ ลักษณะทางกายภาพ เศรษฐกิจ และสังคมในปัจจุบัน เป็นข้อบ่งชี้ให้ทราบว่า มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจัดหาสวนสาธารณะให้เพิ่มจำนวนมากขึ้น และตรงกับความต้องการของประชาชน อย่างเร่งด่วน รวมทั้งวางแผนพัฒนาล่วงหน้าเพื่อรองรับจำนวนประชากรในอนาคตด้วย การขาดแคลนสวนสาธารณะเป็นสาเหตุหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับปัญหาอื่น ๆ ในเมือง เช่น ปัญหาเยาวชนเสพยาเสพติด ปัญหาสุขภาพจิตเสื่อมโทรม ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ ปัญหาการสูญเสียทรัพยากรที่มีค่า แต่ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบต้องแก้ไขปัญหายังมิได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหานี้ การศึกษาครั้งนี้จึงต้องการชี้ให้เห็นว่าสวนสาธารณะเป็นสิ่งจำเป็นต่อประชาชนในเมืองศึกษาสภาพการณ์ปัจจุบันของสวนเพื่อให้ทราบถึง ข้อบกพร่องที่เกิดจากการขาดการวางแผนที่ดีในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างสวนสาธารณะกับประชากรและการใช้ที่ดิน จะช่วยให้ทราบถึงปริมาณความขาดแคลน พื้นที่ที่ขาดแคลน จากพฤติกรรมการใช้สวนสาธารณะจะช่วยให้เกิดแนวทางการพัฒนาสวนสาธารณะอย่างเป็นระบบ ตรงกับลักษณะความต้องการของประชาชน นอกจากนี้ปริมาณพื้นที่สวนสาธารณะที่ต้องการในอนาคต ทำให้สามารถกำหนดเป้าหมาย วางแนวทางจัดหา โดยเลือกสรรที่ว่างประเภทต่าง ๆ ที่มีความเป็นไปได้ในแต่ละพื้นที่ที่มีคุณลักษณะสอดคล้องกับสวนสาธารณะแต่ละระดับ การศึกษาประการสุดท้าย คือ ศึกษาวิธีการ หรือเครื่องมือสำคัญเพื่อให้ได้มาซึ่งที่ว่างนั้น ๆ จากการศึกษาในขั้นตอนข้างต้น ทำให้ทราบว่าการจัดการสวนสาธารณะในกรุงเทพมหานคร ในแง่ของการผังเมือง มีหนทางกระทำให้เป็นผลสำเร็จได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว จากการศึกษาพบว่า กรุงเทพมหานครมีพื้นที่สวนสาธารณะต่อประชากรในอัตราที่ต่ำกว่ามาตรฐานอย่างมาก ประชาชนในบางเขตไม่มีสวนสาธารณะเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจเลยแม้แต่แห่งเดียว สวนสาธารณะที่มีอยู่ยังไม่เป็นไปตามลำดับขั้น จึงไม่สามารถให้บริการแก่ประชาชนทุกกลุ่มทุกวัยได้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเพิ่มจำนวนสวนสาธารณะให้กระจายตัวมากขึ้น เนื่องจากมีปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคมหลายประการเป็นตัวกำหนด เช่น สภาพความเป็นเมืองที่สูงขึ้น อาชีพของประชาชนส่วนใหญ่เป็นอาชีพนอกเกษตร ประชาชนส่วนใหญ่มีรายได้น้อย เป็นต้น เขตชั้นในเป็นเขตที่ประสบปัญหาความขาดแคลนมากที่สุด รองลงมาคือ เขตชั้นกลาง และเขตชั้นนอก และจากการศึกษาพบว่า กรุงเทพมหานครยังมีที่ว่างที่จะพัฒนา เป็นสวนสาธารณะได้อีก แต่อาจมีข้อจำกัดบ้างในบางพื้นที่ กล่าวคือ เขตชั้นในจะมีโอกาสพัฒนาสวนสาธารณะจากที่ว่างขนาดเล็ก ๆ เท่านั้น และอยู่ในลักษณะต้องใช้สอยประโยชน์ร่วม (multiple use) กับการใช้ที่ดินประเภทอื่น ๆ เขตชั้นกลางและเขตชานเมือง ยังมีที่ว่างหลายประเภทที่จะพัฒนาเป็นสวนสาธารณะได้ทุกระดับ วิธีการที่จะได้มาซึ่งที่ว่าง รัฐมีเครื่องมือด้านกฎหมายแต่ไม่ได้ปฏิบัติอย่างจริงจัง ด้านงบประมาณก็ไม่สนับสนุน ให้เพียงพอ นอกจากรัฐแล้ว การได้มาซึ่งสวนสาธารณะสามารถได้จากส่วนเอกชน ตลอดจนความร่วมมือกันเองระหว่างประชาชนในชุมชน เกี่ยวกับแนวทางการจัดหาสวนสาธารณะ สรุปได้ว่าจัดหาให้เป็นไปตามระบบ หรือลำดับของสวนสาธารณะ (hierarchy of parks) ทั้งในระดับท้องถิ่น ได้แก่ สวนระดับละแวกบ้าน (neighborhood park) สวนระดับชุมชน (community park) เพื่อการพักผ่อนประจำวัน (daily use) และสวนประจำย่าน (district park) สวนประจำเมือง (city park) เพื่อการพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ (weekend use) เนื่องจากในแต่ละพื้นที่มีทรัพยากรด้านที่ว่างแตกต่างกัน แนวทางการพัฒนาในเขตชั้นใน จึงเป็นสวนระดับท้องถิ่น เขตชั้นกลาง ยังมีที่โล่งขนาดใหญ่ การพัฒนาจึงมุ่งไปยังสวนระดับย่าน ในขณะเดียวกันเขตชั้นนอกยังมีสภาพเป็นธรรมชาติอยู่มากที่สุด จึงเหมาะที่จะพัฒนาสวนระดับเมือง ระยะเวลาของการพัฒนาแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะปัจจุบัน ปรับปรุงพัฒนาที่ว่างสาธารณะ หรือที่รัฐเป็นเจ้าของ ที่ยังไม่ได้ทำประโยชน์ที่มีอยู่ให้สวนสาธารณะให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แบ่งสรรทรัพยากรที่ว่างที่พัฒนาแล้วในสถาบันต่าง ๆ ให้มีประโยชน์ใช้สอยด้านการพักผ่อนหย่อนใจตามแนวความคิด การใช้สอยประโยชน์ร่วม (multiple use) และแนวความคิด การแบ่งปันให้กับสังคมในระยะสั้น จัดทำแผนพัฒนาสวนสาธารณะโดยหน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรง รวมทั้งกระตุ้นให้เกิดโครงการพัฒนาสวนสาธารณะขึ้นในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อีกทางหนึ่งในระยะยาวพัฒนาและปรับปรุงกฎหมาย การจัดสรรงบประมาณให้เอื้ออำนวยต่อกรจัดหาสวนสาธารณะปรับปรุงโครงสร้างองค์กรที่มีหน้าที่ให้เหมาะสมกับความรับผิดชอบ ตลอดจนเปลี่ยนแปลงทัศนคติค่านิยมในกลุ่มผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานในทุกสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเมืองให้ตระหนักถึงคุณค่าของสวนสาธารณะที่มีต่อประชาชนและสังคม การจัดหาสวนสาธารณะในกรุงเทพมหานครมิใช่เป็นสิ่งที่เกินความสามารถ ขึ้นอยู่กับความเอาจริงเอาจังที่จะแก้ไขปัญหาและร่วมมือกันทุกฝ่าย ข้อเสนอแนะข้างต้นจะเป็นแนวทางให้การพัฒนาสวนสาธารณะประสบความสำเร็จสามารถตอบสนองความต้องการของเมืองและประชาชน
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
กฤตยานวัช, อมรรัตน์, "การศึกษาเพื่อวางแนวทางจัดหาส่วนสาธารณะ ในกรุงเทพมหานครในแง่ของการผังเมือง" (1983). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 50605.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/50605