Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ต้นทุนการผลิตลูกโคนมโดยวิธีการผสมเทียมของกรมปศุสัตว์

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Cost of production of dairy calf by artificial insemination of the Livestock Development's Department

Year (A.D.)

1983

Document Type

Thesis

First Advisor

ภาษย์ สาริกะภูติ

Second Advisor

สุภาพรรณ รัตนาภรณ์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

บัญชีมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

การบัญชี

DOI

10.58837/CHULA.THE.1983.345

Abstract

นมเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อมนุษย์ ช่วยซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอและบำรุงร่างกายให้แข็งแรง ความต้องการบริโภคนมและผลิตภัณฑ์นมในประเทศไทย นับวันแต่จะมีปริมาณเพิ่มขึ้น แต่การเลี้ยงโคนมในประเทศยังไม่แพร่หลายมากนัก จึงควรที่จะขยายการเลี้ยงโคนมให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ซึ่งวิธีที่จะขยายการเลี้ยงโคนมให้เพิ่มมากขึ้น และได้ผลเร็วที่สุดก็คือ วิธีการผสมเทียม โดยการนำน้ำเชื้อจากพ่อโคพันธุ์ดีฉีดเข้าไปในอวัยวะสืบพันธุ์ของแม่โคในขณะที่แม่โคกำลังเป็นลัด วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มีความมุ่งหมายที่จะศึกษาถึงต้นทุนในการผลิตลูกโคนม โดยวิธีผสมเทียมของกองผสมฟรีเทียม กรมปศุสัตว์ โดยเริ่มศึกษาตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตน้ำเชื้อแช่แข็งจากพ่อโคลูกผสมพันธุ์ฟรีเขียน-โฮลสโตน์ เพื่อนำมาคำนวณต้นทุนในการผลิตน้ำเชื้อแช่แข็งต่อปริมาณการใช้น้ำเชื้อ 1 ครั้ง (Dose) และศึกษาถึงขั้นตอนของการนำน้ำเชื้อไปใช้ในการผสมเทียม เพื่อที่จะคำนวณหาต้นทุนการผลิตลูกโคนมโดยวิธีการผสมเทียม ตลอดจนศึกษาปัญหาต่างๆ เพื่อนำมาปรับปรุงในการดำเนินงานด้านการผสมเทียม การศึกษาได้กระทำโดยการรวบรวมข้อมูลจากเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และจากการสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้องในงานผสมเทียมของกองผสมเทียมกรมปศุสัตว์ รวม 4 สถานีผสมเทียมด้วยกันแล้วนำข้อมูลที่รวบรวมได้มาคำนวณต้นทุนในการผลิตน้ำเชื้อแช่แข็ง และต้นทุนในการผลิตลูกโคนม โดยวิธีผสมเทียม ผลจากการศึกษาข้อมูลในช่วงปีงบประมาณ 2522 และ 2523 ปรากฏดังนี้ คือ 1) ต้นทุนในการผลิตน้ำเชื้อแช่แข็งพ่อโคลูกผสม (75%) พันธุ์ฟรีเขียน-โฮลสไตน์ คำนวณได้ 23 บาท ต่อปริมาณการใช้น้ำเชื้อ 1 ครั้ง (Dose) 2) ต้นทุนในการผลิตลูกโคนม 1 ตัว โดยวิธีการผสมเทียมของสถานีผสมเทียม 4 แห่ง ได้คำนวณโดยแยกตามประเภทของน้ำเชื้อที่ใช้ในการผสมเทียมสรุปได้ดังนี้ [ดูตารางในเล่ม] ในการผสมเทียมเพื่อให้ได้ลูกโค 1 ตัว ต้นทุนส่วนใหญ่จะเป็นต้นทุนทางอ้อมในส่วนที่เป็นต้นทุนคงที่ ซึ่งเป็นต้นทุนที่ควบคุมได้ยาก ดังนั้น สาเหตุที่ทำให้ต้นทุนในการผลิตลูกโค 1 ตัวของแต่ละสถานีผสมเทียมแตกต่างกันก็คือ 1) ปริมาณการผสมเทียม สถานีผสมเทียมใดที่มีปริมาตรการผสมเทียมมากจะทำให้มีต้นทุนคงที่ต่อการผสมเทียม 1 ครั้งต่ำกว่าสถานีผสมเทียมที่มีปริมาณการผสมเทียมน้อย 2) ประสิทธิภาพในการผสมเทียม ซึ่งมีปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกมาเกี่ยวข้อง ปัจจัยภายใน หมายถึง ปัจจัยที่เกี่ยวกับสถานีผสมเทียม ได้แก่ คุณภาพของน้ำเชื้อที่ใช้ในการผสมเทียม และความสามารถหรือความชำนาญในการผสมเทียมของเจ้าหน้าที่ผสมเทียมที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการผสมเทียม ปัจจัยภายนอก ได้แก่ เกษตรกรผู้เลี้ยงโค และตัวแม่โค กล่าวคือ เกษตรกรผู้เลี้ยงโคส่วนใหญ่ยังไม่มีความรู้ในเรื่องการผสมเทียมดีพอ ไม่เข้าใจว่าระยะเวลาใดเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมที่แม่โคควรจะได้รับการผสมเทียม เพราะถ้าไปผสมเทียมไม่ทันภายในเวลานั้นก็จะทำให้เกิดการผสมไม่ติด นอกจากนี้ตัวแม่โคอาจมีความผิดปกติเกี่ยวกับระบบทางการสืบพันธุ์ก็ได้ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ผสมเทียมไม่ติด ดังนั้นถ้าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพจากการผสมเทียมได้จะช่วยลดต้นทุนในการผลิตลูกโค 1 ตัวได้มาก ด้วยเหตุนี้ในการผสมเทียมของสถานีผสมเทียมจึงควรที่จะได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี หรือมีการประสานงานที่ดีทั้งในส่วนของสถานีผสมเทียมและจากเกษตรกรผู้เลี้ยงโค ซึ่งจะมีผลให้ทั้ง 2 ฝ่ายบรรลุวัตถุประสงค์ซึ่งกันและกัน กล่าวคือ สถานีผสมเทียมก็จะมีผลการปฏิบัติงานที่ดีมีประสิทธิภาพ ต้นทุนในการผลิตลูกโคนม 1 ตัวก็จะต่ำลงด้วย สำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคก็จะบรรลุวัตถุประสงค์ คือ การได้ลูกโคซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ให้อีกทางหนึ่ง

Share

COinS