Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ต้นทุนการอนุบาลลูกปลากะพงขาวในบ่อซีเมนต์

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Cost of sea bass nursery operation in cement pond

Year (A.D.)

1983

Document Type

Thesis

First Advisor

จรศักดิ์ เวชชการัณย์

Second Advisor

วิไลลักษณ์ ภัทโรดม

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

บัญชีมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

การบัญชี

DOI

10.58837/CHULA.THE.1983.344

Abstract

เนื่องจากรัฐมีนโยบายที่จะพัฒนาและส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงสัตว์น้ำโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพาะเลี้ยงปลากะพงขาว ซึ่งในปัจจุบันสถานีประมงของรัฐบาลสามารถผลิตพันธุ์ปลาได้เป็นจำนวนมาก แต่ไม่อาจอนุบาลพันธุ์ปลาเหล่านั้นจนได้ขนาดที่เกษตรกรต้องการจะนำไปเลี้ยงได้อย่างเพียงพอ เนื่องจากสถานที่ อุปกรณ์บ่อเพาะพัก และบ่ออนุบาลลูกปลามีจำกัด จึงต้องให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาและส่งเสริมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำด้วย วิทยานิพนธ์จึงมุ่งศึกษาถึงเศรษฐกิจการอนุบาลลูกปลากะพงขาวในบ่อซีเมนต์ในปีการผลิต 2525 โดยพิจารณาคัดเลือกฟาร์มเอกชนขนาดกลาง 1 ฟาร์ม ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เป็นตัวแทนในการศึกษาและวิจัย โดยรวบรวมข้อมูลจาการสอบถาม เอกสารและรายงานการวิจัยต่างๆ เพื่อนำมาวิเคราะห์ถึงเงินลงทุนเริ่มแรก เงินลงทุนในปัจจุบัน ต้นทุนและผลตอบแทนที่ได้รับจากการอนุบาลลูกปลากะพงขาวในบ่อซีเมนต์ตลอดจนปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ของการอนุบาลลูกปลากะพงขาวในบ่อซีเมนต์ ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ที่สนใจและผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทราบถึงข้อมูลที่จำเป็นเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาตัดสินใจในการลงทุนเพาะเลี้ยงปลากะพงขาวต่อไป ผลการศึกษาพบว่าเงินลงทุนเริ่มแรกของการทำฟาร์มอนุบาลปลากะพงขาวในบ่อซีเมนต์ ซึ่งเป็นฟาร์มขนาดกลางที่รับปลากะพงขาววัยอ่อนตั้งแต่ฟักออกเป็นตัวเข้ามาอนุบาลให้เป็นปลานิ้วได้อย่างสูงครั้งละประมาณสองแสนตัว และใช้เงินลงทุนทั้งหมด 947,969 บาท ซึ่งลงทุนเป็นระยะๆเรื่อยมาตั้งแต่ปี 2522 – 2525 แต่ถ้าจะลงทุนในปัจจุบัน ต้องใช้เงินลงทุนเท่ากับ 1,151,197 บาท และสามารถทำการอนุบาลลูกปลาได้เกือบตลอดปีตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป โดยทำการอนุบาลลูกปลาจากขนาดไข่ปลาให้เป็นปลาอธิเมียร์ ปลาใบมะขาม ปลาเซนต์และปลานิ้วซึ่งจะใช้เวลาในการอนุบาลประมาณ 15, 20,30 และ 45 วันตามลำดับ แต่ในช่วงเวลาตั้งแต่ 16 มิถุนายน ถึง 31 สิงหาคม กรมประมงได้งดจำหน่ายพันธุ์ปลา ทำให้ฟาร์มต้องอนุบาลลูกปลาที่มีอยู่จนเป็นขนาด 2,3 และ 4 นิ้ว การคำนวณหาต้นทุนการอนุบาลลูกปลาแต่ละขนาดต่อร้อยตัว ได้เท่ากับ39.46, 46.55, 84.52, 149.04, 244.96, 368.06 และ 588.65 บาทตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกำไรที่ได้รับจากการอนุบาลลูกปลาแต่ละขนาดปรากฏว่า การอนุบาลลูกปลาให้ได้ขนาด 2 นิ้ว ซึ่งใช้เวลาในการอนุบาลประมาณ 75 วัน ให้กำไรสุทธิสูงสุดถึงร้อยละ 40.60 แต่อัตราการเสี่ยงสำหรับการอนุบาลลูกปลาให้ได้ขนาด 2-3 นิ้วในบ่อซีเมนต์ก็มีมาก ส่วนในช่วงหลังของฤดูการผลิตคือตั้งแต่เดือนกันยายน เป็นต้นไปสภาวะแวดล้อมไม่อำนวยทำให้การอนุบาลลูกปลาได้ในอัตรารอดที่ต่ำมาก ปัญหาที่สำคัญในการอนุบาลลูกปลากะพงขาวในบ่อซีเมนต์ คือน้ำ โรคและนโยบายของรัฐในการผลิตและจำหน่วยพันธุ์ปลา ซึ่งมีผลกระทบต่อการอยู่รอดของผู้อนุบาล ปัญหาต่างๆเหล่านี้จะแก้ไขได้ด้วยความร่วมมือจากผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทั้งภาครัฐบาลและภาคเอกชน ซึ่งผู้เขียนได้เสนอข้อเสนอแนะบางประการเพื่อใช้เป็นแนวทางในการแก้ปัญหาเหล่านั้น ดังนี้คือ 1. ผู้ประสงค์จะลงทุนในการอนุบาลลูกปลากะพงขาวในบ่อซีเมนต์ควรพิจารณาเลือกทำเลที่ตั้งในแหล่งที่มีน้ำเค็มและน้ำจืดที่สะอาด และมีปริมาณน้ำที่เพียงพอที่จะใช้ได้ตลอดฤดูการผลิต นอกจากนี้ควรมีบ่อพักน้ำให้เพียงพอ 2. รัฐควรให้ความสนับสนุนผู้อนุบาลลูกปลากะพงขาวในบ่อซีเมนต์ทางด้านวิชาการเช่นการป้องกันและการใช้ยารักษาโรคปลา การแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ 3. เพื่อก่อให้เกิดความมั่นใจแก่เอกชนผู้ทำการอนุบาลลูกปลากะพงขาวในบ่อซีเมนต์ รัฐควรกำหนดนโยบายการผลิตและจำหน่ายพันธุ์ปลากะพงขาวที่แน่นอนและชัดเจน และหากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าว รัฐควรกำหนดระยะเวลาที่จะเปลี่ยนแปลงให้แน่นอน เพื่อให้เอกชนมีโอกาสปรับตัวให้เข้ากับเหตุการณ์ในอนาคต

Share

COinS