Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ผลของโปรแกรมพัฒนาทักษะการเผชิญความเครียดในการป้องกันการเสพซ้ำต่อการรับรู้ความสามารถแห่งตนในการเลิกใช้สารแอมเฟตามีนของผู้เสพติดสารแอมเฟตามีน

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

The effect of coping skills training in relapse prevention program on abstinence self-efficacy of amphetamine users

Year (A.D.)

2012

Document Type

Thesis

First Advisor

เพ็ญพักตร์ อุทิศ

Faculty/College

Faculty of Nursing (คณะพยาบาลศาสตร์)

Degree Name

พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

การพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช

DOI

10.58837/CHULA.THE.2012.469

Abstract

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง ใช้รูปแบบสองกลุ่มวัดผลสองครั้ง โดยมีการสุ่มตัวอย่างเข้ากลุ่ม มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบ 1) การรับรู้ความสามารถแห่งตนในการเลิกใช้สารแอมเฟตามีนของผู้เสพติดสารแอมเฟตามีนก่อนและหลังได้รับโปรแกรมพัฒนาทักษะการเผชิญความเครียดในการป้องกันการเสพซ้ำ และ 2) การรับรู้ความสามารถแห่งตนในการเลิกใช้สารแอมเฟตามีนของผู้เสพติดสารแอมเฟตามีนระหว่างกลุ่มทดลองที่ได้รับโปรแกรมพัฒนาทักษะการเผชิญความเครียดในการป้องกันการเสพซ้ำและกลุ่มควบคุมที่ได้รับการพยาบาลตามปกติ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้เสพติดสารแอมเฟตามีน ที่เข้ารับการรักษาที่แผนกผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลเสนา และมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ จำนวน 40 คน ได้รับการจับคู่ด้วย อายุ ระดับการศึกษา และอายุที่เริ่มใช้สารแอมเฟตามีน แล้วถูกสุ่มเข้ากลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 20 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ 1) โปรแกรมพัฒนาทักษะการเผชิญความเครียดในการป้องกันการเสพซ้ำ 2) แบบวัดการรับรู้ความสามารถแห่งตนในการเลิกใช้สารแอมเฟตามีน และ 3) แบบประเมินการเผชิญความเครียดในการเสพซ้ำ เครื่องมือทุกชุดได้รับการตรวจความตรงเชิงเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิ 5 ท่าน โดยเครื่องมือชุดที่ 2 และ 3 มีค่าความเที่ยงสัมประสิทธิ์อัลฟาของครอนบาค เท่ากับ .81 และ .84 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและสถิติทดสอบที มีผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. การรับรู้ความสามารถแห่งตนในการเลิกใช้สารแอมเฟตามีนของผู้เสพติดสารแอมเฟตา- มีนหลังได้รับการบำบัดด้วยโปรแกรมพัฒนาทักษะการเผชิญความเครียดในการป้องกันการเสพซ้ำสูงขึ้นกว่าก่อนได้ได้รับการบำบัดด้วยโปรแกรมพัฒนาทักษะการเผชิญความเครียดในการป้องกันการเสพซ้ำ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2. การรับรู้ความสามารถแห่งตนในการเลิกใช้สารแอมเฟตามีนของผู้เสพติดสารแอมเฟตา-มีน หลังได้รับการบำบัดด้วยโปรแกรมพัฒนาทักษะการเผชิญความเครียดในการป้องกันการเสพซ้ำสูงขึ้นกว่ากลุ่มที่ได้รับการพยาบาลตามปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

Other Abstract (Other language abstract of ETD)

The purpose of this quasi-experimental research using pretest-posttest randomized control group design were to compare: 1) the abstinence self-efficacy of amphetamine before and after received coping skills training in relapse prevention program, and 2) the abstinence self-efficacy of amphetamine between amphetamine users in the experimental group who received coping skills training in relapse prevention program and those in the control group who received regular nursing care. A total sample of 40 amphetamine dependence patients who met the inclusion criteria were purposively recruited from out-patient department, Sena Hospital. The samples were matched-pair according to age, educational level and age at start using amphetamine, and then randomly assigned into experimental group and control group, 20 subjects in each group. The research instruments consisted of 1) the Coping Skills Training in Relapse Prevention Program, 2) the Abstinence Self-efficacy Scale and 3) the Relapse Coping Questionnaire. All instruments were verified for content validity by 5 professional experts. Chronbach’s alpha coefficient reliability of the 2nd and 3rd instrument was .81 and .84 respectively. The t-test was used in data analysis. Major findings were as follow: 1) The abstinence self-efficacy of amphetamine dependence after participating in program was significantly higher than that before ( =106.45 and 138.50 respectively, t =-11.742, p< .05). 2) The abstinence self-efficacy of amphetamine dependence after participated in program was higher than those who participated in the regular nursing care ( =138.50 and 113.25 respectively, t = 7.104, p< .05).

Share

COinS