Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ปัญหาการวัดและประเมินผลการเรียนวิชากิจกรรมพลศึกษาในวิทยาลัยครู

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Problems of measurement and evaluation in learning physical education activities in teachers colleges

Year (A.D.)

1985

Document Type

Thesis

First Advisor

ฟอง เกิดแก้ว

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

พลศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1985.227

Abstract

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัญหาการวัดและประเมินผลการเรียนวิชากิจกรรมพลศึกษาในวิทยาลัยครู ผู้วิจัยได้สร้างแบบสอบถามแบบให้ตรวจคำตอบ มาตราส่วนประเมินค่า และแบบปลายเปิด โดยส่งแบบสอบถามไปยังอาจารย์พลศึกษา จำนวน 137 คน ได้รับแบบสอบถามกลับคืนมา จำนวน 132 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 96.35 ใช้วิธีการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ความแปรปรวน นำเสนอในรูปตารางและความเรียง ผลการวิจัยพบว่า ปัญหาส่วนใหญ่ที่อาจารย์พลศึกษาในวิทยาลัยครูประสบมากด้านระเบียบการวัดและประเมินผลคือ นักศึกษาไม่ทราบระเบียบการวัดและประเมินผลของสภาการฝึกหัดครูอย่างลึกซึ้ง อาจารย์ผู้สอนตีความระเบียบการวัดและประเมินผลบางข้อแตกต่างกัน ด้านแบบทดสอบทักษะ คือ ขาดคู่มือและอุปกรณ์ต่างๆ ในการสร้างแบบทดสอบทักษะ แบบทดสอบทักษะกีฬาบางประเภทไม่มีเกณฑ์มาตรฐาน ดานความรู้ คือ นักศึกษาขาดความสนใจในการสอบข้อเขียนปลายภาคเพราะหน่วยกิตวิชากิจกรรมพลศึกษามีน้อย คู่มือที่ใช้เป็นแบบเรียนมีน้อยทำให้อาจารย์ผู้สอนไม่สามารถออกข้อสอบเกี่ยวกับเนื้อหาด้านความรู้ ด้านสมรรถภาพทางกายคือ ขาดสถานที่และเครื่องมือในการวัดสมรรถภาพทางกายบางอย่าง การวัดสมรรถภาพทางกายมีรายการที่จะวัดหลายอย่างทำให้สิ้นเปลืองเวลามาก การวัดสมรรถภาพทางกายโดยอาจารย์ผู้สอนคนเดียวทำให้ล่าช้าและเสียเวลามาก ด้านทักษะคือ การให้คะแนนกีฬาโดยการประเมินค่าการกระทำจากการสอบเพียงครั้งเดียวทำให้เกิดการผิดพลาดได้ เครื่องมือที่ใช้ในการทดสอบทักษะกีฬามีน้อย ด้านเจตคติคือ อาจารย์ผู้สอนไม่มีเวลาในการวัดเจตคติโดยการสัมภาษณ์นักศึกษาเป็นรายบุคคล อาจารย์ผู้สอนไม่สามารถสร้างแบบทดสอบข้อเขียนเพื่อวัดเจตคติ ด้านการประเมินผลการเรียนคือ-การกำหนดสัดส่วนในการประเมินผลด้านข้อเขียนและด้านปฏิบัติของอาจารย์ผู้สอนแต่ละคนแตกต่างกัน จากการวิเคราะห์ความแปรปรวนของสภาพ ปัญหาด้านแบบทดสอบทักษะ ด้านสมรรถภาพทางกาย ดานทักษะ ด้านเจตคติ และด้านการประเมินผลการเรียนของอาจารย์พลศึกษาในวิทยาลัยครูทั้ง 6 กลุ่ม ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนปัญหาทางด้านระเบียบการวัดและประเมินผลของอาจารย์พลศึกษาในกลุ่มนครหลวงและกลุ่มภาคกลาง มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และปัญหาทางด้านความรู้ของอาจารย์ พลศึกษาในกลุ่มภาคตะวันตกและกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

Share

COinS