Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับสถาบันสงฆ์ : ศึกษากรณีพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Inter-relations between Kingship and Sangha : the case of Kingmongkut

Year (A.D.)

1985

Document Type

Thesis

First Advisor

ณรงค์ พ่วงพิศ

Second Advisor

ธิดา สาระยา

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

อักษรศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

ประวัติศาสตร์

DOI

10.58837/CHULA.THE.1985.694

Abstract

สถาบันพระมหากษัตริย์และสถาบันสงฆ์ต่างกันก็มีความสัมพันธ์ระหว่างกันมาตลอดเวลาในสังคมไทย เพื่อสร้างความยอมรับในสถานภาพของแต่ละฝ่ายจากกลุ่มชนต่าง ๆ ในสังคมด้วยวิธีการต่าง ๆ จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวความสัมพันธ์ดังกล่าวก็ยังดำเนินอยู่ แต่พระองค์ทรงมีวิธีในการสร้างความสัมพันธ์กับสถาบันสงฆ์ให้มีลักษณะเฉพาะบางประการที่แต่งต่างจากพระมหากษัตริย์องค์อื่น ๆ ทั้งนี้เป็นเพราะว่าพระองค์ทรงมีพื้นฐานความสัมพันธ์กับคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุตินิกาย ที่พระองค์ทรงสถาปนาขึ้นระหว่างทรงผนวชอยู่นานถึง ๒๗ พรรษา ดังนั้น เมื่อพระองค์ทรงขึ้นครองราชย์สมบัติ จึงทรงต้องใช้พระราชกุศโลบายในการสร้างความสัมพันธ์กับสถาบันสงฆ์ที่มีอยู่หลายนิกายนี้ โดยไม่ก่อให้เกิดความแตกแยกระหว่างธรรมยุตินิกาย และมหานิกายจนเกิดผลกระทบต่อสถานภาพของพระองค์เอง พระราชกุศโลบายที่มีลักษณะเฉพาะในการสร้างความสัมพันธ์กับสถาบันสงฆ์ของพระองค์นี้ ที่สำคัญ ๆ มี ๓ ประการคือ ประการแรกทรงให้ความสำคัญและทำการสนับสนุนธรรมยุตินิกายจนมีบทบาทเพิ่มขึ้นในสังคมตามลำดับ และสามารถสร้างความสัมพันธ์กับสถาบันพระสงฆ์ได้เป็นอย่างดี โดยผ่านธรรมยุตินิกาย ประการที่สองทรงทำการอุปถัมภ์และสนับสนุนคณะสงฆ์มหานิกาย เพราะคณะสงฆ์มหานิกายเป็นคณะสงฆ์มหานิกายเป็นคณะสงฆ์ส่วนใหญ่ที่แพร่หลายอย่างกว้างขวางและมีจำนวนทั้งวัดและภิกษุสามเณรเป็นจำนวนมาก คณะสงฆ์มหานิกายจึงมีอิทธิพลอย่างสูงในสังคมไทยจนทำให้พระองค์ทรงไม่อาจจะละเลยในการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับคณะสงฆ์มหานิกาย ประการที่สามทรงพยายามแสดงบทบาทในฐานะผู้นำทางศาสนาที่เหนือทั้งฝ่ายธรรมยุตินิกายและมหานิกาย เพื่อสร้างความยอมรับในพระองค์ให้เกิดขึ้นในคณะสงฆ์ และทำการควบคุมคณะสงฆ์ให้อยู่ร่วมกันอย่างปกติ พระราชกุศโลบายทั้ง ๓ ประการดังกล่าวได้เป็นปัจจัย ที่ช่วยให้สถาบันพระมหากษัตริย์ในรัชสมัยของพระองค์และรัชสมัยต่อมามีเสถียรภาพที่มั่นคง และยังก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสถาบันสงฆ์อีกหลายประการในช่วงเวลาต่อมา โดยเฉพาะบทบาทของธรรมยุตินิกายในสถาบันสงฆ์และการมีส่วนร่วมในกิจการบ้านเมืองต่าง ๆ

Share

COinS