Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
สภาพการรู้หนังสือของผู้ที่จบชั้นประถมศึกษา ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Literacy of Prathom Suksa graduates in the Northeastern region
Year (A.D.)
1985
Document Type
Thesis
First Advisor
แรมสมร อยู่สมพร
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
ประถมศึกษา
DOI
10.58837/CHULA.THE.1985.187
Abstract
วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1. เพื่อศึกษาสภาพการรู้หนังสือของผู้ที่จบชั้นประถมศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2. เพื่อเปรียบเทียบสภาพการรู้หนังสือ ตามช่วงเวลาหลังเรียนจบ อาชีพ และสภาพเศรษฐกิจที่ต่างกันของผู้ที่จบชั้นประถมศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สมมุติฐานในการวิจัย สภาพการรู้หนังสือของผู้ที่จบชั้นประถมศึกษาที่มีช่วงเวลาหลังเรียนจบ อาชีพ และสภาพเศรษฐกิจที่ต่างกัน จะแตกต่างกัน วิธีการวิจัย ตัวอย่างประชากรที่ใช้ในการวิจัยคือ ผู้จบชั้นประถมปีที่ 6 หรือ 7 ซึ่งจบออกไปแล้วเป็นระยะเวลา 1-8 ปี จากโรงเรียนประถมศึกษาในจังหวัดอุดรธานี ร้อยเอ็ด และศรีสะเกษ จำนวน 270 คน ซึ่งได้จากการสุ่มตัวอย่างประชากรแบบหลายขั้นตอน (Multi – Stage Sampling) เครื่องมือที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น คือ แบบสอบถามสถานภาพภูมิหลังของผู้ตอบแบบทดสอบสำหรับวัดความรู้ทางด้านวิชาคณิตศาสตร์ขั้นมูลฐาน จำนวน 20 ข้อ และแบบทดสอบวัดความรู้ทางด้านวิชาภาษาไทย จำนวน 40 ข้อ ซึ่งอำนาจจำแนก และความยากง่ายของข้อสอบแต่ละข้อ มีค่าอยู่ระหว่าง 0.2-0.8 ค่าสัมประสิทธิ์แห่งความเที่ยงของแบบทดสอบทั้งสอง คือ 0.81 และ 0.89 ตามลำดับ ผู้วิจัยนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์หาค่าร้อยละ หาค่าเฉลี่ย (X̅) ค่าส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยโดยการทดสอบค่าซี (Z-Test) และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One way Analysis of Variance) ส่วนเกณฑ์ที่ใช้ในการวัดและประเมินสภาพการรู้หนังสือ คือ การที่ผู้ตอบสามารถทำแบบทดสอบที่กำหนดให้ได้คะแนนรวมคิดเป็นร้อยละ 50 ขึ้นไป ตามเกณฑ์การวัดและประเมินผลของกระทรวงศึกษาธิการ ปีพุทธศักราช 2503 ผลการวิจัย 1. ผู้ที่จบชั้นประถมศึกษาออกไปแล้ว เป็นระยะเวลา 1-8 ปี ที่มีสภาพการรู้หนังสืออยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด มีจำนวน 164 คน จากจำนวนตัวอย่างประชากร 270 คน คิดเป็นร้อยละ 60.74 2. ผู้ที่จบชั้นประถมศึกษาออกไปแล้ว เป็นระยะเวลา 5-8 ปี ที่มีสภาพรู้หนังสือในเกณฑ์กำหนด มีจำนวน 85 คน จากจำนวนตัวอย่างประชากร 135 คน คิดเป็นร้อยละ 62.96 ซึ่งมีจำนวนมากกว่า ผู้ที่จบชั้นประถมศึกษาออกไปแล้ว เป็นระยะเวลา 1-4 ปี 3. ผู้ที่จบชั้นประถมศึกษาออกไปแล้ว ในประเภทอาชีพค้าขาย มีสภาพการรู้หนังสือในเกณฑ์กำหนด 43 คน จากจำนวนตัวอย่างประชากร 54 คน คิดเป็นร้อยละ 70.63 รองลงมาคือ ประเภทที่ไม่ได้ประกอบอาชีพ ซึ่งมีมากกว่า ประเภทอาชีพอื่นๆ รับจ้าง และเกษตรกรรม 4. ผู้ที่จบชั้นประถมศึกษาออกไปแล้ว ในกลุ่มที่มีรายได้ 8,001 บาทขึ้นไป มีสภาพการรู้หนังสืออยู่ในเกณฑ์กำหนด 17 คน คิดเป็นร้อยละ 85.00 ซึ่งเป็นอัตราส่วนร้อยละที่มากกว่ากลุ่มรายได้อื่นๆ ทุกกลุ่มรายได้ 5. ค่าเฉลี่ยของคะแนนในวิชาคณิตศาสตร์ ของผู้ที่จบชั้นประถมศึกษาออกไปแล้วเป็นระยะเวลา 5-8 ปี สูงกว่าพวกที่จบชั้นประถมศึกษาออกไปแล้ว 1-4 ปี ที่ระดับความมีนัยสำคัญทางสถิติ .05 ส่วนวิชาภาษาไทย และผลจากคะแนนรวมเฉลี่ยของทั้ง 2 วิชา ไม่มีความแตกต่างกันที่ระดับความมีนัยสำคัญทางสถิติ .05 6. ค่าเฉลี่ยของคะแนนในวิชาคณิตศาสตร์ วิชาภาษาไทย และผลจากคะแนนรวมเฉลี่ยของทั้ง 2 วิชา ของผู้จบชั้นประถมศึกษาออกไปแล้ว ในประเภทอาชีพ เกษตรกรรม รับจ้าง ค้าขาย อื่นๆ และไม่ได้ประกอบอาชีพ พบว่า ไม่มีความแตกต่างกันที่ระดับความมีนัยสำคัญทางสถิติ .05 7. ค่าเฉลี่ยของคะแนนในวิชาคณิตศาสตร์ วิชาภาษาไทย และผลจากคะแนนรวมเฉลี่ยของทั้ง 2 วิชา ของผู้จบชั้นประถมศึกษาออกไปแล้ว ที่มีสภาพเศรษฐกิจรายได้ 5 กลุ่มรายได้ ได้แก่ กลุ่มรายได้ 8,001 บาทขึ้นไป กลุ่มรายได้ 4,001-8,000 บาท กลุ่มรายได้ 2,001-4,000 บาท กลุ่มรายได้ต่ำกว่า 2,000 บาท และกลุ่มไม่มีรายได้ พบว่าไม่มีความแตกต่างกันที่ระดับความมีนัยสำคัญทางสถิติ .05
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
สังสนา, วีรศักดิ์, "สภาพการรู้หนังสือของผู้ที่จบชั้นประถมศึกษา ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ" (1985). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 48498.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/48498