Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
การศึกษาความไม่เสมอภาคของจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
A study of inequality in the Northeast of Thailand
Year (A.D.)
1985
Document Type
Thesis
First Advisor
มานพ พงศทัต
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
การวางแผนภาคและเมืองมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
การวางผังเมือง
DOI
10.58837/CHULA.THE.1985.34
Abstract
แนวความคิดเรื่องความไม่เสอมภาคหรือความไม่เท่าเทียมกันนั้นได้เกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยโบราณจนมาถึงปัจจุบัน และเป็นที่น่าสนใจของกลุ่มนักวิชาการหลายๆ กลุ่ม ที่พยายามจะชี้ให้เห็นว่าจะเสมอภาคด้วยอะไร มีมาตรการอะไรเป็นตัวกำหนด ทั้งนี้เพื่อจะได้หาแนวทางในการลดช่องว่างให้ลดน้อยลง การวิจัยครั้งนี้ใช้วิธีวิเคราะห์ตัวประกอบของตัวแปร โดยพิจารณาจากตัวแปร 20 ตัว ในหมวดกายภาพ เศรษฐกิจ และสังคม โดยจำแนกตามลำดับค่าความสำคัญและหาตัวแปรที่สำคัญภายในกลุ่ม ผลของการวิจัย พบว่า ในหมวดค่าคะแนนรวม หมวดเศรษฐกิจ มีความไม่เสมอภาคกันค่อนข้างมาก ในหมวดกายภาพมีการกระจายตัวค่อนข้างสม่ำเสมอว่าทุกๆ หมวด กล่าวคือ มีความไม่เสมอภาคระดับของการพัฒนาหรือความได้เปรียบเสียเปรียบในแง่ของความอุดมสมบูรณ์ของดินที่เป็นปัจจัยของการผลิตไม่มากนักตลอดจนระบบโครงข่าย การคมนาคมของภาคตะวันออกเฉียงเหนือค่อนข้างจะสมบูรณ์ในเกือบทุกพื้นที่ความสำคัญส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 50 จะกระจุกตัวอยู่ใน 4 เมืองใหญ่ ซึ่งเป็นเมืองหลักและเมืองรองของภาคอื่น ได้แก่จังหวัดนครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี และอุดรธานี ซึ่งมีความได้เปรียบของที่ตั้ง การสะสมความเจริญที่มีมาในอดีต ส่งผลให้จังหวัดที่ 4 มีระดับการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว และเป็นศูนย์กลางของการให้บริการทุกๆ ด้านในภูมิภาคนี้ ในการจำแนกกลุ่มจังหวัดตามค่าความแตกต่างสามารถจำนกออกได้เป็น 4 กลุ่ม เรียงตามความสำคัญ คือ กลุ่มที่ 1 ประกอบด้วยจังหวัดนครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี และอุดรธานี ตัวแปรที่สำคัญภายในกลุ่ม ได้แก่ จำนวนโรงเรียนมัธยมศึกษา ปริมาณกระแสไฟฟ้า เพื่อการบริการและอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์จังหวัด กลุ่มที่ 2 ประกอบด้วยจังหวัดบุรีรัมย์ ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ ชัยภูมิ และสุรินทร์ ตัวแปรสำคัญได้แก่ จำนวนสถาบันการเงิน ผลิตภัณฑ์มวลรวม และเนื้อที่เพาะปลูก 2 ครั้ง กลุ่มที่ 3 ประกอบด้วย จังหวัดสกลนคร นครนม มหาสารคาม กาฬสินธุ์ และหนองคาย ตัวแปรที่สำคัญได้แก่ จำนวนโรงเรียนประชาบาล จำนวนโรงพยาบาล ปริมาณเงินฝาก กลุ่มที่ 4 ประกอบด้วยจังหวัดยโสธร และเลยเป็นจังหวัดที่มีปัญหาของภาคเป็นอย่างมาก ทั้งมีระดับของการพัฒนาที่ต่ำ และยังต้องพึ่งพาการบริการจากเมืองที่อยู่รอบ ในการวางแผนภาคตะวันออกเฉียงเหนือควรจะใช้เมืองหลัก และเมืองรองทั้ง 4 จังหวัด เป็นตัวรับและกระจายความเจริญจากส่วนกลางไปสู่จังหวัดในภูมิภาคที่ต่ำกว่า เพื่อผลของการกระจายนี้จะได้ไปได้ทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
สว่าง, วิชัย, "การศึกษาความไม่เสมอภาคของจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ" (1985). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 48285.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/48285