Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

บทบาทของผู้ปกครองตามการรับรู้ของตนเอง ในการอบรมเลี้ยงดูเด็กก่อนวัยเรียนในจังหวัดอุบลราชธานี

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Parents' roles as perceived by themselves in pre-school child rearing in changwat Ubon Ratchathani

Year (A.D.)

1985

Document Type

Thesis

First Advisor

พูนสุข บุณย์สวัสดิ์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

ประถมศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1985.177

Abstract

วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1. เพื่อศึกษาบทบาทของผู้ปกครองตามการรับรู้ของตนเองในการอบรมเลี้ยงดูเด็กก่อนวัยเรียน 2. เพื่อเปรียบเทียบบทบาทของผู้ปกครองตามการรับรู้ของตนเองในการอบรมเลี้ยงดูเด็กก่อนวัยเรียนตามเพศและวัยของผู้ปกครอง วิธีดำเนินการวิจัย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่แบบสัมภาษณ์ผู้ปกครองเกี่ยวกับบทบาทในการส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย ด้านอารมณ์ ด้านสังคม และด้านสติปัญญาของเด็กก่อนวัยเรียน ตัวอย่างประชากรเป็นผู้ปกครองเด็กก่อนวัยเรียนในจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งอาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ของกลุ่มโรงเรียนที่ยังไม่ได้เปิดสอนชั้นเด็กเล็กรวมทั้งสิ้น 205 คน มีสมมติฐานในการวิจัยคือ 1. ผู้ปกครองที่มีเพศต่างกันมีบทบาทในการอบรมเลี้ยงดูเด็กก่อนวัยเรียนต่างกัน 2. ผู้ปกครองที่มีวัยต่างกันมีบทบาทในการอบรมเลี้ยงดูเด็กก่อนวัยเรียนต่างกัน สรุปผลการวิจัย จากการวิเคราะห์โดยใช้ค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ปรากฏว่าโดยเฉลี่ยแล้วผู้ปกครองมีบทบาทในการอบรมเลี้ยงดูเด็กก่อนวัยเรียนที่ส่งเสริมพัฒนาการทั้ง 4 ด้านคือด้านร่างกาย ด้านอารมณ์ ด้านสังคม และด้านสติปัญญาอยู่ในเกณฑ์ทำเป็นประจำ แต่เมื่อพิจารณาคะแนนเฉลี่ยของแต่ละบทบาทจะเห็นว่าผู้ปกครองมีบทบาทในการส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกายมากที่สุด จากการวิเคราะห์โดยหาค่าร้อยละของบทบาทที่ผู้ปกครองบางคนไม่ได้ทำปรากฏว่า มี 65 บทบาทในบทบาททั้งหมด 68 บทบาท บทบาทที่ผู้ปกครองทุกคนทำเป็นร้อยละร้อยมี 3 บทบาทคือ ให้อาหารที่มีประโยชน์และมีคุณภาพ จัดหาน้ำที่สะอาดให้ดื่ม และรับประทานอาหาร พร้อมกันทั้งครอบครัว จากการวิเคราะห์โดยการทดสอบค่าที (t-test) ผลปรากฏว่า 1. การส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย ผู้ปกครองเพศหญิงมีบทบาทมากกว่าผู้ปกครองเพศชาย 2. การส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์และด้านสังคมผู้ปกครองเพศชายและเพศหญิงมีบทบาทไม่แตกต่างกัน 3. การส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญาผู้ปกครองเพศชายมีบทบาทในการอบรมเลี้ยงดูเด็กก่อนวัยเรียนมากกว่าผู้ปกครองเพศหญิง และจากการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว เพื่อเปรียบเทียบบทบาทของผู้ปกครองที่มีช่วงอายุต่างกัน ผลปรากฏว่า 1. ผู้ปกครองในช่วงอายุ 30 ปี หรือต่ำกว่ากับผู้ปกครองในช่วงอายุ 31-40 ปี มีบทบาทในการส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกายแตกต่างกัน 2. ผู้ปกครองในช่วงอายุ 31-40 ปี และผู้ปกครองในช่วงอายุ 41 ปีขึ้นไป มีบทบาทในการส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์แตกต่างกัน 3. ในการส่งเสริมพัฒนาการทางด้านสังคมและด้านสติปัญญา ผู้ปกครองทั้ง 3 ช่วงอายุ มีบทบาทไม่แตกต่างกัน

Share

COinS