Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
การศึกษาปัญหาและอุปสรรคในการนำกลุ่มคุณภาพมาใช้ ในธุรกิจอุตสาหกรรมการผลิตของประเทศไทย
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Study on problems and obstacles in applying quality circle in Thai industrial firm
Year (A.D.)
1985
Document Type
Thesis
First Advisor
พอพันธ์ วัชจิตพันธ์
Second Advisor
สุชาติ เจริญรัตน์
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
บริหารธุรกิจ
DOI
10.58837/CHULA.THE.1985.413
Abstract
ผู้วิจัยได้ตั้งสมมติฐานในการศึกษาไว้ 2 ข้อ ดังนี้คือ 1. ปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดโครงสร้างการบริหารกลุ่มคุณภาพ คือ ตำแหน่งงานภายในธุรกิจอุตสาหกรรมการผลิต 2. ปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อการนำกลุ่มคุณภาพมาใช้คือ ระดับการศึกษาของพนักงาน ในธุรกิจอุตสาหกรรมการผลิต ที่มีอัตราเฉลี่ยต่ำกว่าชั้นประถมศึกษาปีที่ 7 ผลที่ได้จากการวิจัย ทำให้ยอมรับสมมติฐานข้อ 1. แต่จะปฏิเสธสมมติฐานข้อ 2. ข้อสรุปของการวิจัย มีรายละเอียดดังนี้คือ 1. จากการสำรวจความจำเป็นในการวางแผนเตรียมการ พบว่า การริเริ่มนำเอากลุ่มคุณภาพเข้ามาใช้ในองค์การ จำเป็นจะต้องมีการวางแผนเตรียมการในหลาย ๆ ด้าน เช่น การอบรมให้ความรู้ในเรื่อง Qcc แก่ผู้บริหารและพนักงานในองค์การ และควรจะมีการปรับระดับความคิดของพนักงานให้รักองค์การ และเสริมสร้างให้มีการพัฒนาจิตสำนึกของพนักงานให้มีความรับผิดชอบต่อตนเอง ต่องาน และต่อสังคม 2. สำหรับการกำหนดโครงสร้างการบริหารกลุ่มคุณภาพ พบว่าผู้บริหารในโครงสร้างการบริหารทั่วไปนั้น จะดำรงตำแหน่งผู้บริหารในโครงสร้างการบริหารกลุ่มคุณภาพด้วยและ สำหรับการกำหนดตัวผู้บริหารกลุ่มคุณภาพในระดับกลุ่มกิจกรรมนั้น กำหนดโดยคำนึงถึงความสามารถเป็นอันดับแรก รองลงมาได้แก่กำหนดโดยคำนึงถึงตำแหน่งหน้าที่การงาน 3. ความคิดเห็นของผู้บริหารและพนักงานต่ออุปสรรคในการทำกิจกรรม Qcc ผู้บริหารและพนักงานโดยส่วนใหญ่ มีความเห็นว่าข้อจำกัดทางการศึกษาไม่เป็นอุปสรรคในการทำกิจกรรม Qcc แต่จะระบุว่าอุปสรรคสำคัญในการทำกิจกรรม Qcc คือ พนักงานยุ่งกับงานประจำ จนไม่มีเวลาทำกิจกรรม Qcc และจากการวิเคราะห์ตัวเลข (ไค - สแควร์) ที่เกี่ยวกับความเข้าใจวิธีการทำกิจกรรม Qcc ของพนักงานพบว่า ความเข้าใจของพนักงานไม่มีความสัมพันธ์กับการศึกษาของพนักงาน และผู้บริหารได้ระบุว่า อุปสรรคในการริเริ่มนำกลุ่มคุณภาพเข้ามาใช้ในองค์การก็คือ การมีผู้บริหารที่ไม่เข้าใจแนวความคิด Qcc อย่างแท้จริง และพนักงานยังไม่พร้อมที่จะรับแนวการบริหารแบบ Qcc 4. ในด้านความคิดเห็นต่อผลของการทำกิจกรรม Qcc ผู้บริหารและพนักงานโดย ส่วนใหญ่ มีความคิดเห็นว่า ผลของการทํากิจกรรม Qcc นั้นมีส่วนช่วยให้คุณภาพงาน สภาพแวดล้อมการทำงาน ความสัมพันธ์ของผู้ร่วมงาน ความรู้สึกดีต่องาน การทำงานเป็นทีม ความรู้สึก ผูกพันกับบริษัท ความรู้สึกผูกพันกับงาน ความรู้สึกปลอดภัยในงาน และความมีส่วนร่วมในการบริหาร อยู่ในระดับที่ดีขึ้น และพนักงานโดยส่วนใหญ่ (ร้อยละ 63.29) ก็คิดว่าผลงาน Qcc ของตนประสบความสำเร็จ แต่ผู้บริหารโดยส่วนใหญ่ (ร้อยละ 54.35) ยังไม่พอใจกับผลงานการบริหาร Qcc ของตนเอง ทั้งนี้เพราะรู้สึกว่า ถ้าจะให้ได้ผลตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ และรู้สึกพอใจก็จะต้องใช้เวลามากกว่านี้ 5. จากการสำรวจความคิดเห็นต่อการทำกิจกรรม Qcc ของพนักงานพบว่า พนักงาน ร้อยละ 68.62 ตอบว่าตนอยากที่จะทำกิจกรรม Qcc ต่อไปอีก โดยให้เหตุผลว่า จะช่วยให้ตน เองเข้าใจงานมากขึ้น และตนจะได้มีโอกาสเข้าร่วมตัดสินใจในเรื่องที่เกี่ยวกับงานด้วย
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
ลีสุขสันต์, นัยนา, "การศึกษาปัญหาและอุปสรรคในการนำกลุ่มคุณภาพมาใช้ ในธุรกิจอุตสาหกรรมการผลิตของประเทศไทย" (1985). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 48466.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/48466
ISBN
9745649414