Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การวิเคราะห์เนื้อหา "หนังสือชุด" ประชุมพงศาวดาร

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A content analysis of the "Prachum Phongsawadarn Series

Year (A.D.)

1985

Document Type

Thesis

First Advisor

ชลทิชา สุทธินิรันดร์กุล

Second Advisor

ปิยนาถ บุนนาค

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

อักษรศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

บรรณารักษศาสตร์

DOI

10.58837/CHULA.THE.1985.662

Abstract

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อวิเคราะห์เนื้อหาหนังสือชุด ประชุมพงศาวดาร ฉบับที่จัดพิมพ์โดยองค์การค้าของคุรุสภา พ.ศ. 2506 – 2513 ตั้งแต่ภาคที่ 1 ถึงภาคที่ 80 ว่า มีเนื้อหาในด้านใด และมีปริมาณมากน้อยเพียงใด รวมทั้งศึกษาแหล่งอ้างอิงที่ปรากฏในหนังสือชุด ประชุมพงศาวดาร วิธีดำเนินการวิจัย มีขั้นตอน ดังนี้ 1. สร้างเกณฑ์กำหนดหัวข้อเนื้อหา โดยศึกษาค้นคว้าจากหนังทางด้านประวัติศาสตร์ไทย ระบบการจัดหมู่หนังสือระบบทศนิยมของดิวอี้ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 19 ระบบการจัดหมู่หนังสือของหอสมุดรัฐสภาอเมริกา และหัวเรื่อง 2. วิเคราะห์เนื้อหาหนังสือชุด ประชุมพงศาวดาร โดยขีดรอยคะแนนลงในตารางวิเคราะห์ที่สร้างขึ้น 3. รวมรอยคะแนนเป็นความถี่ แล้วหาค่าร้อยละ 4. ศึกษาประเภทของแหล่งอ้างอิงในการเรียบเรียงเนื้อหาแต่ละเรื่องแล้วหาค่าร้อยละ ผลการวิจัย พบว่า 1. ในบรรดาหัวข้อที่กำหนดไว้ 19 หัวข้อ หนังสือชุด ประชุมพงศาวดารมีเนื้อหากล่าวถึงหัวข้อ ชีวประวัติและการสืบวงค์ตระกูล มากที่สุด คือ จำนวน 1432 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 31.32 จากความถี่ในการกล่าวถึงทั้งหมด 4572 ครั้ง รองลงมา คือหัวข้อ ขนบธรรมเนียมและประเพณี กล่าวถึง 735 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 16.08 หัวข้อที่มีเนื้อหามากเป็นอันดับที่ 3 คือ หัวข้อ ประวัติศาสตร์ กล่าวถึง 342 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 7.48 อันดับต่อมา คือ หัวข้อ รัฐประศาสนศาสตร์ กล่าวถึง 280 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 6.12 หัวข้อ สถานที่สำคัญ มีเนื้อหามากเป็นอันดับ 5 คือ มีการกล่าวถึง 239 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 5.23 และหัวข้อที่มีเนื้อหาน้อยที่สุด คือ หัวข้อ อาวุธ กล่าวถึงเพียง 11ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 0.24 2. การกระจายหัวข้อเนื้อหาในแต่ละภาคของจำนวนหัวข้อเนื้อหาทั้งหมด 19 หัวข้อ ปรากฏว่า ภาคที่ 80 มีการกระจายมากที่สุด คือ 14 หัวข้อ รองลงมามีการกระจาย 13 หัวข้อ และ 12 หัวข้อ คือ ภาคที่ 12 และภาคที่ 6 ตามลำดับ ภาคที่มีการกระจายหัวข้อเนื้อหาน้อยที่สุด คือ ภาคที่ 56 มีการกระจายเพียง 1 ข้อเท่านั้น ส่วนการกระจายเนื้อหาในแต่ละข้อ พบว่า หัวข้อ พระราชพิธีและประเพณีในราชสำนักของประเทศไทย ในหัวข้อ ขนบธรรมเนียมและประเพณี มีการกล่าวถึงใน 60 ภาค และรองลงมา หัวข้อที่มีการกล่าวถึง ใน 48 ภาค และ 32 ภาค ตามลำดับคือหัวข้อ กษัตริย์และผู้ครองนครของประเทศไทย และหัวข้อ ชนต่างชาติในประเทศไทยส่วนหัวข้อที่มีการกระจายเนื้อหาน้อยที่สุด คือ หัวข้อ การพิมพ์ หัวข้อ กฎหมายและการศาลของต่างประเทศ และ หัวข้อ ประวัติศาสตร์ไทย สมัยลานช้าง มีการกล่าวถึงใน 1 ภาคเท่ากัน 3. การศึกษาแหล่งอ้างอิง ที่ปรากฏในหนังสือชุด ประชุมพงศาวดาร ซึ่งมีเพียง 82 เรื่อง คือ ร้อยละ 60.74 ในจำนวนเนื้อเรื่อง 135 เรื่อง ที่ระบุแหล่งที่มาให้ทราบ ประเภทของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ใช้เป็นแหล่งข้อมูลในการเรียบเรียงเนื้อหาหนังสือชุดนี้ที่มีมากที่สุด คือ คำให้การ มีจำนวน 29 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 29.59 รองลงมาอันดับที่ 2 คือ เอกสารราชการของไทย มีจำนวน 15 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 15.31 อันดับที่ 3 คือ จดหมายเหตุของต่างประเทศ เป็นจำนวน 12 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 12.25 แหล่งข้อมูลที่นำมาใช้อ้างอิงน้อยที่สุด คือ แผนที่และหนังสือพิมพ์ มีจำนวน 1 เรื่อง เท่ากัน คิดเป็นร้อยละ 1.02 ข้อเสนอแนะ 1. นักประวัติศาสตร์ควรจะได้มีการประเมินคุณค่าเนื้อหาหนังสือชุด ประชุมพงศาวดาร ว่า มีคุณค่าต่องานวิจัยที่ใช้เป็นหลักฐานอ้างอิง ในหัวข้อเนื้อหาที่เป็นประวัติศาสตร์ในด้านใดบ้างและมากน้อยเพียงใด 2. บรรณารักษ์ควรร่วมมือกันจัดทำดัชนีเรื่องอย่างละเอียด เพื่อให้สามารถเข้าถึงเนื้อหา ซึ่งมีจำนวนถึง 80 ภาค ได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น 3. ควรที่จะได้ศึกษาเกี่ยวกับการนำหนังสือชุด ประชุมพงศาวดาร ไปใช้ในการอ้างถึงของงานวิจัยสาขาอื่น ๆ นอกจากสาขาประวัติศาสตร์และโบราณคดี เช่น สาขานิติศาสตร์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ เป็นต้น 4. ควรศึกษาและวิเคราะห์เนื้อหาหนังสือทั่วไป ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับหนังสือชุด ประชุมพงศาวดาร และมีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องของไทยหรือมีเนื้อหาหลาย ๆ เรื่องรวมกัน เช่น หนังสือชุด ลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ ฯลฯ เพื่อนำข้อมูลจากหนังสือดังกล่าว มาใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงประกอบการค้นคว้าให้ได้มากขึ้น

Share

COinS