Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การประเมินโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการเรียนการสอน ของครูประถมศึกษา : การฝึกอบรมนำร่องในภาคใต้

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A project evaluation of improvement of teaching efficiency of primary school teachers : pilot training organized in the Southern region

Year (A.D.)

1986

Document Type

Thesis

First Advisor

สุมน อมรวิวัฒน์

Second Advisor

สมหวัง พิธิยานุวัฒน์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

ประถมศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1986.188

Abstract

การประเมินโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการเรียนการสอนของครูประถมศึกษาเฉพาะการฝึกอบรมนำร่องในภาคใต้ มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินกระบวนการพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมครูประถมศึกษา ประเมินพฤติกรรมของผู้เข้ารับการฝึกอบรม ประเมินความพึงพอใจผลการเรียนรู้ ความเชื่อที่มีต่อแนวพัฒนาการเรียนการสอน และติดตามผลในด้านการนำความรู้ไปปฏิบัติงานหลังการฝึกอบรมของครูผู้เข้ารับการฝึกอบรม นอกจากนี้ ได้ศึกษาสภาพการสอนซ่อมเสริมแก่นักเรียนของครูผู้เข้ารับการฝึกอบรมนำร่องในภาคใต้ โดยมีเกณฑ์ในการประเมินดังนี้ คือ วัตถุประสงค์ของการฝึกอบรมสอดคล้องกับความจำเป็นในการฝึกอบรมทุกประการ การจัดเตรียมการฝึกอบรมครบถ้วนตามกระบวนการฝึกอบรมที่เป็นสากล ผู้เข้ารับการฝึกอบรมทุกคนมีส่วนร่วมในการฝึกอบรมทุกกิจกรรม ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความพึงพอใจต่อกระบวนการฝึกอบรม ค่ามัชฌิมเลขคณิตของคะแนนการเรียนรู้หลังการฝึกอบรมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และเพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 15 ของคะแนนเต็ม ค่ามัชฌิมเลขคณิตของคะแนนความเชื่อที่มีต่อแนวพัฒนาการเรียนการสอนหลักการฝึกอบรมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และครูนำกิจกรรมการเรียนการสอนที่ได้จากการฝึกอบรมไปปฏิบัติอย่างน้อยร้อยละ 80 ของกิจกรรมทั้งหมด กลุ่มตัวอย่างเป็นครูในโรงเรียนประถมศึกษาจำนวน 93 คน และนักเรียนจำนวน 60 คนของกลุ่มโรงเรียนสะบ้าย้อย-ทุ่งพอ อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าร้อยละ ค่ามัชฌิมเลขคณิต และการทดสอบค่าที (t-test) ผลการประเมินปรากฏว่า 1. วัตถุประสงค์ของหลักสูตรการฝึกอบรมสอดคล้องกับความจำเป็นในการฝึกอบรมทุกประการ และมีกระบวนการจัดเตรียมการฝึกอบรมครบถ้วนตามกระบวนการฝึกอบรมที่เป็นสากล 2. ผู้เข้ารับการฝึกอบรมทุกคนเข้าร่วมกิจกรรมฝึกอบรมจำนวน 44 กิจกรรม คิดเป็นร้อยละ 80 ของกิจกรรมทั้งหมด ซึ่งไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด 3. ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความพึงพอใจต่อกระบวนการฝึกอบรม 22 ข้อ ในจำนวนทั้งหมด 28 ข้อ ซึ่งไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด 4. ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้เพิ่มขึ้นหลังการฝึกอบรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.30 ของคะแนนเต็ม ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 5. ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความเชื่อเกี่ยวกับแนวพัฒนาการเรียนการสอนหลักการฝึกอบรมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 6. ครูจำนวน 12 คนที่ผู้วิจัยได้สังเกตพฤติกรรมการสอนนำความรู้ที่ได้จากการฝึกอบรมไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียน เกินร้อยละ 80 ของกิจกรรมทั้งหมดจำนวน 8 คน และต่ำกว่าร้อยละ 80 ของกิจกรรมทั้งหมดจำนวน 4 คน ซึ่งถือว่าต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ สำหรับสภาพการจัดการสอนซ่อมเสริมของผู้เข้ารับการฝึกอบรม พบว่า ครูประจำชั้นเป็นผู้จัดสอนเอง การสอนเด็กที่เรียนช้านั้น ส่วนมากสอนซ้ำในเรื่องที่ไม่เข้าใจ โดยสอนทั้งเป็นรายบุคคล และกลุ่มย่อย เพื่อให้นักเรียนสามารถผ่านวัตถุประสงค์การเรียนรู้ตามหลักสูตรประถมศึกษา

Share

COinS