Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ความคิดเห็นของผู้บริหาร ศึกษานิเทศก์และครู เกี่ยวกับโครงการประเมินคุณภาพนักเรียนชั้น ป.6 ระดับประเทศ ปีการศึกษา 2527 ของสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Opinions of administrators, supervisors and teachers on the prathom suksa six student quality assessment project at the national level, academic year 1984, The Office of the National primary education commission

Year (A.D.)

1986

Document Type

Thesis

First Advisor

สุมน อมรวิวัฒน์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

ประถมศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1986.176

Abstract

การวิจัยนี้เป็นการศึกษาความคิดเห็นของผู้บริหาร ศึกษานิเทศก์ และครู เกี่ยวกับโครงการประเมินคุณภาพนักเรียนชั้น ป.6 ระดับประเทศ ปีการศึกษา 2527 ของสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ ในเรื่องกระบวนการดำเนินงาน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินคุณภาพ ผลกระทบจากการดำเนินงานตามโครงการ สิ่งที่ควรปรับปรุงแก้ไข และเพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหาร ศึกษานิเทศก์ และครู ระหว่างจังหวัดที่มีผลการประเมินอยู่ในกลุ่มลำดับสูง กลุ่มลำดับกลาง และกลุ่มลำดับต่ำ เกี่ยวกับกระบวนการดำเนินงาน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินคุณภาพ และผลกระทบจากการดำเนินงานตามโครงการประเมินคุณภาพนักเรียนชั้นป.6 ระดับประเทศ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ แบบสอบถามศึกษานิเทศก์สำนักงานการประถมศึกษาจังหวัด แบบสอบถามหัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอ ผู้บริหารโรงเรียน ครู และแบบสัมภาษณ์ผู้อำนวยการการประถมศึกษาจังหวัด ตัวอย่างประชากรได้แก่ ผู้บริหาร ศึกษานิเทศก์ และครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในจังหวัดที่มีผลการประเมินลำดับที่ 1-10 ลำดับที่ 32-41 ลำดับที่ 64-73 หรือกลุ่มลำดับสูง กลุ่มลำดับกลาง กลุ่มลำดับต่ำ ตามลำดับ รวมกลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 478 คน ผลการวิจัยปรากฏว่า 1. ความคิดเห็นของผู้บริหาร ศึกษานิเทศก์ และครู เกี่ยวกับกระบวนการดำเนินงานตามดครงการ กลุ่มลำดับสูงและกลุ่มลำดับกลางโดยเฉลี่ยเห็นว่ามีปัญหาน้อยเกือบทุกขั้นตอน ส่วนกลุ่มลำดับต่ำโดยเฉลี่ยเห็นว่ามีปัญหาระดับปานกลาง และเมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของทั้ง 3 กลุ่ม ปรากฏว่าแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 โดยกลุ่มลำดับสูงและกลุ่มลำดับกลางมีปัญหาเกี่ยวกับกระบวนการดำเนินงานน้อยกว่ากลุ่มลำดับต่ำแตกต่างกันเป็นรายคู่ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 2. ความคิดเห็นของผู้บริหาร ศึกษานิเทศก์ และครู เกี่ยวกับเครื่องมือที่ใช้ในการประเมินตามโครงการ กลุ่มลำดับสูงและกลุ่มลำดับกลางโดยเฉลี่ยเห็นว่า มีปัญหาน้อย ส่วนกลุ่มลำดับต่ำโดยเฉลี่ยเห็นว่า เครื่องมือมีปัญหาระดับปานกลาง และเมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหาร ศึกษานิเทศก์ และครู ระหว่าง 3 กลุ่ม ที่มีต่อเครื่องมือประเมินตามโครงการ ปรากฏว่าแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.01 โดยกลุ่มลำดับสูงและกลุ่มลำดับกลางมีปัญหาเกี่ยวกับเครื่องมือในการประเมินตามโครงการน้อยกว่ากลุ่มลำดับต่ำแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.01 3. ความคิดเห็นของผู้บริหาร ศึกษานิเทศก์ และครู ต่อผลกระทบจากการดำเนินตามโครงการ พบว่า โดยเฉลี่ยทั้งกลุ่มลำดับสูง กลุ่มลำดับกลาง และกลุ่มลำดับต่ำ เห็นว่ามีผลกระทบในทางบวกในระดับปานกลางถึงมาก โดยทุกกลุ่มเห็นว่ามีผลทำให้ครูผู้สอนเร่งรัดการเรียนการสอนมากขึ้น และส่งผลทางบวกต่อการเร่งคุณภาพการศึกษาตามนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการประถมศึกษาแห่งชาติ ในระดับมาก ส่วนผลกระทบในทางลบต่อขวัญและกำลังใจของผู้บริหาร และครูผู้สอน ปรากฏว่าโดยเฉลี่ยจะอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหาร ศึกษานิเทศก์ และครู ระหว่างกลุ่มลำดับสูง กลุ่มลำดับกลาง และกลุ่มลำดับต่ำ ที่มีต่อผลกระทบ ปรากฏว่าแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 โดยกลุ่มลำดับกลางเห็นว่ามีผลกระทบน้อยกว่ากลุ่มลำดับต่ำแตกต่างกันเป็นรายคู่ที่ระดับความมีนัยสำคัญ 0.01 4. ความคิดเห็นของผู้บริหาร ศึกษานิเทศก์ และครู ต่อสิ่งที่ควรปรับปรุงแก้ไขเกี่ยวกับโครงการ ปรากฎว่า 4.1 ด้านกระบวนการดำเนินงานมีสิ่งที่ควรปรับปรุงแก้ไขคือ นโยบายของโครงการควรให้ชัดเจน และทำความเข้าใจแก่ครูให้ทั่วถึง ผลการประเมินมี่ควรนำไปเปรียบเทียบระหว่างจังหวัด การสุ่มตัวอย่างในการประเมินควรเพิ่มมากขึ้น การเก็บข้อมูลควรมีแบบประเมินให้เพียงพอ และควรตรวจสอบแบบประเมินให้ถูกต้องก่อนนำไปใช้ทุกคร้ง เกณฑ์การให้คะแนนควรให้ละเอียด ชัดเจน ผลการวิเคราะห์ข้อมูลจากการประเมินควรใช้เพื่อปรับปรุงคุณภาพเท่านั้น การอภิปรายผลจากการประเมินควรให้กว้างขวางทุกแง่ทุกมุม และควรแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องทุกส่วนทราบอย่างทั่วถึง 4.2 ด้านเครื่องมือในการประเมินตามโครงการ มีสิ่งที่ควรปรับปรุงแก้ไขคือ การสร้างเครื่องมือควรให้ได้มาตรฐาน เกณฑ์การให้คะแนนกลุ่มสร้างเสริมลักษณะนิสัยควรให้ชัดเจน ส่วนเกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมินอื่นๆ ควรให้สัมพันธ์กับที่โรงเรียนเคยใช้อยู่ อุปกรณ์อื่นๆที่ใช้ในการประเมินควรมีให้พร้อม สมรรถภาพการประเมินควรเน้นภาคปฏิบัติให้มากขึ้น และแบบประเมินควรมีภาพประกอบให้เหมาะสมกับสภาพท้องถิ่น

Share

COinS