Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะโภชนาการกับความรู้ ความเชื่อ และบริโภคนิสัยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
The relationship between nutritional status and knowledge, belief, and food habits of prathom suksa six students in schools Under the jurisdiction of the Bangkok Metropolitan Administration
Year (A.D.)
1986
Document Type
Thesis
First Advisor
วรสุดา บุญยไวโรจน์
Second Advisor
ประนอม รอดคำดี
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
ประถมศึกษา
DOI
10.58837/CHULA.THE.1986.173
Abstract
ศึกษาภาวะโภชนาการ ความรู้ ความเชื่อ ทางด้านโภชนาการและบริโภคนิสัย และความสัมพันธ์ระหว่างภาวะโภชนาการกับความรู้ความเชื่อทางด้านโภชนาการและบริโภคนิสัย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบทดสอบความรู้ด้านโภชนาการที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ค่าความเที่ยงของแบบทดสอบเท่ากับ 0.83 แบบสอบถามความเชื่อด้านโภชนาการ แบบสอบถามบริโภคนิสัย ค่าความเที่ยงของแบบสอบถามเท่ากับ 0.87 และ 0.91 ตามลำดับ เครื่องชั่งน้ำหนักและเกณฑ์เทียบภาวะโภชนาการ ตัวอย่างประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2528 ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 560 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าร้อยละ ค่ามัชฌิมเลขคณิตและค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์วิเคราะห์โดยใช้เทคนิค Discriminate Analysis ด้วย โปรแกรม SPSS (Statistic Package for Social Sciences) ผลการวิจัยพบว่า 1) นักเรียนมีภาวะโภชนาการในระดับปกติ 50.40% และ 49.60% อยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ 2) คะแนนเฉลี่ยของความรู้ด้านโภชนาการของนักเรียนมีค่าเท่ากับ 18.30 และนักเรียนจำนวนมากที่สุด 59.50% ที่ได้คะแนนความรู้อยู่ในระดับพอใช้ 3) คะแนนเฉลี่ยของความเชื่อด้านโภชนาการของนักเรียนมีค่าเท่ากับ 16.18 และนักเรียนจำนวนมากที่สุด 67.40% ได้คะแนนความเชื่ออยู่ในระดับพอใช้ 4) คะแนนเฉลี่ยบริโภคนิสัยของนักเรียนมีค่าเท่ากับ 42.37 และนักเรียนจำนวนมากที่สุด 37.20% ได้คะแนนบริโภคนิสัยอยู่ในระดับดี 5) การศึกษาเกี่ยวกับความเชื่อด้านโภชนาการของนักเรียนพบว่า จำนวนนักเรียนมากที่สุด 88.70% เชื่อว่าการใส่ผงชูรสในอาหารมากเกินไปทำให้ทารกในครรภ์พิการทางสมองได้ และ 91.80% ไม่เชื่อว่า ดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำทำให้น้ำหนักเพิ่ม 6) การศึกษาเกี่ยวกับบริโภคนิสัยของนักเรียนพบว่า นักเรียนปฏิบัติเป็นประจำในเรื่องต่อไปนี้อยู่ในเกณฑ์สูง ดื่มน้ำสะอาด เลือกใช้ภาชนะที่สะอาดในการรับประทานอาหาร เช่น ชาม ช้อน แก้วน้ำ เคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืนและรับประทานเนื้อสัตว์ เช่น หมู เนื้อ ปลา 7) การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างภาวะโภชนาการกับความรู้ ความเชื่อและบริโภคนิสัยของนักเรียนพบว่า ภาวะโภชนาการไม่มีความสัมพันธ์กับความรู้ ความเชื่อและบริโภคนิสัยในระดับที่มีนัยสำคัญ ส่วนความรู้ ความเชื่อและบริโภคนิสัย มีความสัมพันธ์กันที่ระดับนัยสำคัญ .05 โดยมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างความรู้กับความเชื่อและบริโภคนิสัย เท่ากับ .284 และ .254 ตามลำดับ และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างความเชื่อกับบริโภคนิสัยเท่ากับ .112
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
ตรีรส, ยุพิน, "ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะโภชนาการกับความรู้ ความเชื่อ และบริโภคนิสัยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร" (1986). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 48263.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/48263