Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
บทบาทของผู้ปกครองตามการรับรู้ของตนเอง ในการปลูกฝังสุขนิสัยด้านการป้องกันอุบัติเหตุ แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Parents' roles as perceived by themselves in cultivating health habits for preventing accidents to elementary students in schools under the jurisdiction of the Bangkok Metropolitan administration
Year (A.D.)
1986
Document Type
Thesis
First Advisor
วรสุดา บุญยไวโรจน์
Second Advisor
เพ็ญศรี กันกา
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
ประถมศึกษา
DOI
10.58837/CHULA.THE.1986.168
Abstract
วัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาบทบาทของผู้ปกครองตามการรับรู้ของตนเองในการปลูกฝังสุขนิสัยด้านการป้องกันอุบัติเหตุให้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร 2. เพื่อเปรียบเทียบบทบาทของผู้ปกครองที่มีระดับการศึกษาต่างกันในการปลูกฝังสุขนิสัยด้านการป้องกันอุบัติเหตุ วิธีดำเนินการ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ แบบสอบถามผู้ปกครองเกี่ยวกับบทบาทในการปลูกฝังสุขนิสัยด้านการป้องกันอุบัติเหตุให้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ตัวอย่างประชากรเป็นผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ปีการศึกษา 2528 จำนวนทั้งสิ้น 306 คน ในการเก็บรวบรวมข้อมูลมี 2 วิธี คือ ผู้ปกครองที่มีการศึกษาระดับประถมศึกษา จำนวน 102 คน ผู้วิจัยนำแบบสอบถามไปสัมภาษณ์ด้วยตนเอง ส่วนผู้ปกครองที่มีการศึกษาระดับมัธยมศึกษา จำนวน 102 คน และระดับสูงกว่ามัธยมศึกษาจำนวน 102 คน ใช้วิธีแจกแบบสอบถามไปกับนักเรียนวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้ด้วยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการทดสอบค่าเอฟ สรุปผลการวิจัย จากการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ปรากฏว่า โดยเฉลี่ยแล้วผู้ปกครองที่มีการศึกษาระดับสูงกว่ามัธยมศึกษา ปฏิบัติบทบาทในการปลูกฝังสุขนิสัยด้านการป้องกันอุบัติเหตุ อยู่ในระดับทำเป็นประจำ ส่วนผู้ปกครองที่มีการศึกษาระดับมัธยมศึกษาและประถมศึกษา ปฏิบัติบทบาทอยู่ในระดับทำบางครั้ง ผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way Analysis of Variance) เพื่อเปรียบเทียบบทบาทของผู้ปกครองที่มีระดับการศึกษาต่างกันในการปลูกฝังสุขนิสัยด้านการป้องกันอุบัติเหตุปรากฏว่า 1. บทบาทในฐานะเป็นผู้อบรมและฝึกฝน ผู้ปกครองที่มีระดับการศึกษาต่างกัน มีบทบาทในการปลูกฝังสุขนิสัยด้านการป้องกันอุบัติเหตุแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 โดยผู้ปกครองที่มีการศึกษาระดับสูงกว่ามัธยมศึกษา มีการปฏิบัติบทบาทในฐานะเป็นผู้อบรมและฝึกฝนมากกว่าผู้ปกครองที่มีการศึกษาระดับมัธยมศึกษาและระดับประถมศึกษา ที่ระดับความมีนัยสำคัญ .05 2. บทบาทในฐานะเป็นแบบอย่างที่ดี ผู้ปกครองที่มีระดับการศึกษาต่างกัน มีบทบาทในการลูกฝังสุขนิสัยด้านการป้องกันอุบัติเหตุ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 โดยผู้ปกครองที่มีการศึกษาระดับสูงกว่ามัธยมศึกษามีการปฏิบัติบทบาทในฐานะเป็นแบบอย่างที่ดีมากกว่าผู้ปกครองที่มีการศึกษาระดับประถมศึกษาที่ระดับความมีนัยสำคัญ .05 ส่วนผู้ปกครองที่มีการศึกษาระดับมัธยมศึกษา มีการปฏิบัติบทบาทในฐานะเป็นแบบอย่างที่ดีไม่แตกต่างกับผู้ปกครองที่มีการศึกษาระดับสูงกว่ามัธยมศึกษาและระดับประถมศึกษา 3. บทบาทในฐานะเป็นผู้จัดสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ผู้ปกครองที่มีระดับการศึกษาต่างกัน มีบทบาทในการปลูกฝังสุขนิสัยด้านการป้องกันอุบัติเหตุแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 โดยผู้ปกครองที่มีการศึกษาระดับสูงกว่ามัธยมศึกษาและระดับมัธยมศึกษา มีการปฏิบัติบทบาทในฐานะเป็นผู้จัดสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยมากกว่าผู้ปกครองที่มีการศึกษาระดับประถมศึกษา ที่ระดับความมีนัยสำคัญ .05
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
สิงคเสลิต, ประภาพรรณ, "บทบาทของผู้ปกครองตามการรับรู้ของตนเอง ในการปลูกฝังสุขนิสัยด้านการป้องกันอุบัติเหตุ แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร" (1986). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 48258.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/48258