Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมในชุมชนกะเหรี่ยง
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Social and cultural change in a Karen community
Year (A.D.)
1986
Document Type
Thesis
First Advisor
วิทวัส คงคากุล
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
สังคมวิทยามหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
สังคมวิทยาและมานุษยวิทยา
DOI
10.58837/CHULA.THE.1986.719
Abstract
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ มุ่งศึกษาเรื่องราวของชาวกะเหรี่ยงที่หมู่บ้านเกริงกะเวีย ตำบลชะแล อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อให้ทราบถึงลักษณะการเปลี่ยนแปลงและแนวโน้มของการปรับตัวทางสังคมและวัฒนธรรมของชาวกะเหรี่ยงในด้านต่าง ๆ เช่น เศรษฐกิจ การศึกษา สังคมและวัฒนธรรม การอนามัย การปกครอง รวมทั้งเพื่อศึกษาว่าอะไรเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และการปรับตัวของชาวกะเหรี่ยง ข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาเรื่องนี้ ส่วนใหญ่ได้จากการออกไปศึกษาภาคสนามในระหว่างวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ.2527 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2528 โดยการสังเกตการณ์ทั้งแบบมีส่วนร่วมและไม่มีส่วนร่วม และการสัมภาษณ์หัวหน้าครัวเรือนชาวกะเหรี่ยง หมู่บ้านเกริงกะเวียมีชาวกะเหรี่ยงทั้งสิ้น 37 ครัวเรือน แต่ทำการสัมภาษณ์ได้เพียง 35 ครัวเรือน ผลการศึกษา การเปลี่ยนแปลงทางสังคมวัฒนธรรมของชาวกะเหรี่ยง หมู่บ้านเกริงกะเวีย พอจะสรุปได้ดังนี้ 1.ด้านการศึกษา การเปลี่ยนแปลงและการปรับตัวทางด้านการศึกษาของชาวกะเหรี่ยงนับว่า เป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุด เริ่มจากการก่อตั้งโรงเรียนชั้นประถมศึกษาขึ้นเป็นครั้งแรกใน พ.ศ.2513 ชาวกะเหรี่ยงเริ่มมองเห็นความสำคัญและประโยชน์ของการศึกษา จนภายหลังได้มีการตื่นตัวทางการศึกษาที่ค่อนข้างสูง การเปลี่ยนแปลงทางด้านการศึกษาที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านเกริงกะเวีย ก่อให้เกิดผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงในด้านอื่น ๆ โดยเฉพาะในด้านการอนามัย สังคมและวัฒนธรรม และเศรษฐกิจ 2. ด้านการอนามัย การเปลี่ยนแปลงและการปรับตัวด้านการอนามัยของชาวกะเหรี่ยงมีมากในบางส่วน และไม่เปลี่ยนแปลงเลยในบางส่วน เช่น ที่อยู่อาศัย เริ่มจากการใช้ไม้ไผ่เป็นโครงสร้างมาเป็นบ้านโครงสร้างไม้จริง หลังคาเปลี่ยนมาเป็นสังกะสี ยกเว้นบันไดบ้านที่จะใช้ไม้ไผ่เป็นขั้นบันไดเช่นเดิม ในด้านอาหารการกิน ชาวกะเหรี่ยงนิยมใช้ น้ำปลา ผงชูรส น้ำมันพืช บะหมี่สำเร็จ ขนมแห้งราคาถูกที่มีสะดุดตามากขึ้น รวมทั้งใช้ช้อนแทนมิอในการรับประทายอสหสน รู้จักใช้สบู่ ยาสระผม แปรงสีฟัน และใช้ผงซักฟอก ส่วนเรื่องการใช้ส้วม แม้จะได้รับคำแนะนำ และได้รับแจกหัวส้วมเป็นตัวอย่าง แต่การเปลี่ยนในเรื่องนี้ไม่มีเลย ปัจจบัน เริ่มมีชาวกะเหรี่ยงบางครอบครัวดื่มน้ำต้มสุกเป็นประจำ แม้ว่าส่วนใหญ่ยังคงดื่มน้ำห้วยโดยไม่ต้ม และมีหลายครอบครัวที่กางมุ้งนอนเพื่อป้องกันโรคมาเลเลีย ชาวบ้านเกริงกะเวียเพิ่งมีสถานีอนามัยประจำหมู่บ้าน เมื่อ พ.ศ.2526 แต่ชาวกะเหรี่ยงก็รู้จักการรักษาแบบแผนปัจจุบันมาก่อนแล้ว และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มมากขึ้นกว่าการรักษาด้วยสมุนไพร แต่อย่างไรก็ตาม การคลอดบุตรยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง หญิงกะเหรี่ยงยังนิยมคลอดบุตรที่บ้านกับหมอตำแย เพราสะดวกและประหยัดค่าใช้จ่าย การเปลี่ยนแปลงและการปรับตัวด้านการอนามัยนี้จะเกิดขึ้ได้ก็ต่อเมื่อสิ่งนั้นจำเป็นและได้ประโยชน์คุ้มค่า 3. ด้านเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงและการปรับตัวทางด้านเศรษฐกิจของชาวกะเหรี่ยงนั้นมีผลต่อการทำมาหากินและการดำเนินชีวิต เช่น ในเรื่องการถือครองที่ดินได้เปลี่ยนแปลงจากการถือครองตามประเพณีมาสู่การได้รัลใบแสดงสิทธิทำกินในเขตป่าสงวน ซึ่งทางราชการออกให้เพื่อให้ชาวบ้านมีที่ดินทำกินเป็นที่เป็นทาง และเพื่อมิให้เกิดการถากถางป่าเพิ่มขึ้น การเกษตรกรรมมีการปลูกพืชเศรษฐกิจ ได้แก่ พริก ละหุ่ง กล้วย และข้าวโพด ทำให้เกิดรายรับรายจ่ายเพิ่มขึ้น รู้จกการใช้เงินตรา มีการซื้อของจำเป็นภายในครอบครัวมาใช้ และมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจบางอย่างเกิดขึ้นใหม่ในหมู่บ้าน ได้แก่ การตั้งโรงสีข้าวขนาดเล็กของผ้ใหญ่บ้าน และการจัดตั้งธนาคารข้าวของหมู่บ้าน เป็นต้น การเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจมีส่วนส่งเสริมและสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม 4. ด้านสังคมและวัฒนธรรม การเปลี่ยนแปลงและการปรับตัวทางด้านสังคมและวัฒนธรรมของชาวกะเหรี่ยง เกิดขึ้นในหลาย ๆ ด้าน ที่เห็นชัดได้แก่ การแต่งกาย ซึ่งในปัจจุบันไม่พบการแต่งกายแบบกะเหรี่ยงในหมู่บ้านเกริงกะเวีย ส่วนในด้านภาษาชาวกะเหรี่ยงส่วนใหญ่สามารถพูดและเข้าใจภาษาไทย โดยเฉพาะชนรุ่นใหม่ซึ่งเป็นผลจากการตั้งโรงเรียนในหมู่บ้าน ปัจจุบันชาวกะเหรี่ยงส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ยังมีบ้างที่นับถือผี แต่ก็เหลือไม่กี่ครอบครัว การนับถือศาสนาพุทธนั้นทำมานับชั่วอายุคนมิใช่เพิ่งเกิดขึ้น ในขณะเดียวกันการนับถือผีมีแนวโน้มจะหมดไป ชาวกะเหรี่ยงที่เกริงกะเวียส่วนใหญ่จะถือประเพณีแบบคนไทย เช่น การทำบุญเข้าพรรษา ออกพรรษา ตักบาตรวันพระ โดยเฉพาะระหว่างเข้าพรรษา หรือทำบุญวันสงกรานต์ เป็นต้น ส่วนพิธีกรรมที่เกี่ยวกับการเกิด การตาย และการเรียกขวัญนั้น ส่วนใหญ่ยังรักษาของเดิมอยู่ ชาวกะเหรี่ยงที่หมู่บ้านนี้นับเครือญาติทางฝ่ายมารดา ระบบครอบครัวเป็นแบบครอบครัวเดี่ยว แต่ความสัมพันธ์ระหว่างกันยังเป็นระบบเครือญาติและมีการพึ่งพาอาศัยกันอยู่มาก 5. ด้านการปกครอง การเปลี่ยนแปลงส่วนที่สามารถเห็นได้ชัดที่สุด คือ การจัดการปกครองของหมู่บ้าน เมื่อประมาณ พ.ศ.2516 ซึ่งเป็นการจัดการการปกครองที่ถูกกำหนดขึ้นจากภายนอก คือ จากรัฐบาล ถึงแม้ว่าจะไม่การปกครองเช่นนี้เกิดขึ้น แต่สังคมชาวกะเหรี่ยงก็คงอยู่ได้อย่างสงบสุข เพราะยังมีการยึดหลักจารีตประเพณีก็จะมีความสำคัญน้อยลง เพราะขาดผู้นำประเพณีคอยนำให้ชาวกะเหรี่ยงประพฤติปฏิบัติตามแบบกะเหรี่ยง หรือเป็นผู้ตัดสินกรณีพิพาทต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เนื่องจากเมื่อผู้นำเหล่านั้นแก่ชรา หรือตายไปจะไม่มีผู้ใดรับช่วงสืบต่อ ดังนั้น การมีครูเป็นที่พึ่งรับฟังข้อทุกข์ร้อน และการมีระเบียบการปกครองแบบใหม่เขามาแทนที่ ทำให้ความสำคัญของการมีผู้นำประเพณีลดลง แต่หลักจารีตประเพณียังคงมีอยู่ในสังคมกะเหรี่ยง
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
สำราญวงศ์, ดารุพัสตร์, "การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมในชุมชนกะเหรี่ยง" (1986). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 47646.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/47646