Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

บทบาทของครูตามการรับรู้ของตนเองในการปลูกฝังค่านิยมอันพึงประสงค์ ให้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาในจังหวัดฉะเชิงเทรา

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Teachers' roles as perceived by themselves in inculcating desirable values in elementary school students in Chachoengsao province

Year (A.D.)

1986

Document Type

Thesis

First Advisor

ทิศนา แขมมณี

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

ประถมศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1986.156

Abstract

1. เพื่อศึกษาบทบาทของครูประถมศึกษาตามการรับรู้ของตนเองในการปลูกฝังค่านิยมอันพึงประสงค์ให้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาในโรงเรียนสังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดฉะเชิงเทรา 2. เพื่อเปรียบเทียบบทบาทของครูตามการรับรู้ของตนเองในการปลูกฝังค่านิยมอันพึงประสงค์จำแนกตามเพศ, วุฒิการศึกษา, ประสบการณ์ในการสอนและระดับชั้นที่สอน วิธีดำเนินการวิจัย ผู้วิจัยได้สร้างเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เป็นแบบสอบถามสำหรับครู และแบบสัมภาษณ์สำหรับนักเรียน นำเครื่องมือดังกล่าวไปทดลองใช้แล้วนำมาปรับปรุงให้สมบูรณ์ ได้แบบสอบถามที่มีค่าความเที่ยงเท่ากับ 0.93 ผู้วิจัยนำแบบสอบถามไปใช้กับครูในโรงเรียนประถมศึกษาจังหวัดฉะเชิงเทราซึ่งทำหน้าที่เป็นครูประจำชั้นจำนวน 486 คน นำแบบสัมภาษณ์ไปใช้กับนักเรียนประถมศึกษาในจังหวัดจำนวน 48 คน ได้รับแบบสอบถามคืนทั้งหมด คิดเป็น 92.80% และแบบสัมภาษณ์คิดเป็น 100% ทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่า z การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวและการทดสอบค่า F ผลการวิจัย ตัวอย่างประชากรของการวิจัย มีบทบาทในการปลูกฝังค่านิยมด้านการมีวินัยในตนเอง การมีสัจจะ และการประหยัดให้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาอยู่ในระดับมาก และจากการวิเคราะห์ข้อมูลโดยการทดสอบค่า z (z-test) เพื่อเปรียบเทียบบทบาทของครูที่มีเพศ วุฒิการศึกษาและประสบการณ์การสอนแตกต่างกัน ในการปลูกฝังค่านิยมอันพึงประสงค์ ผลปรากฏว่า 1. เมื่อเปรียบเทียบระหว่างเพศ 1.1 ครูเพศหญิงและชายมีบทบาทในการปลูกฝังค่านิยมด้านการมีวินัยในตนเองไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 1.2 ครูเพศหญิงและชายมีบทบาทในการปลูกฝังค่านิยมด้านการมีสัจจะ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 โดยครูเพศชายมีการปลูกฝังมากกว่าครูหญิง 1.3 ครูเพศหญิงและชายมีบทบาทในการปลูกฝังค่านิยมด้านการประหยัด แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 โดยครูเพศชายมีการปลูกฝังมากกว่าครูเพศหญิง 2. เมื่อเปรียบเทียบระหว่างวุฒิการศึกษา ครูที่มีวุฒิต่ำกว่าปริญญาตรี และครูที่มีวุฒิปริญญาตรีหรือสูงกว่าปริญญาตรี มีบทบาทในการปลูกฝังค่านิยมด้านการมีวินัยในตนเอง การมีสัจจะ และการประหยัด แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 โดยครูที่มีวุฒิปริญญาตรีหรือสูงกว่าปริญญาตรีมีการปลูกฝังมากกว่าครูที่ต่ำกว่าปริญญาตรีทุกค่านิยม 3. เมื่อเปรียบเทียบระหว่างประสบการณ์การสอน 3.1 ครูที่มีประสบการณ์การสอนไม่เกิน 9 ปีและครูที่มีประสบการณ์การสอน 10 ปีขึ้นไป มีบทบาทในการปลูกฝังค่านิยมด้านการมีวินัยในตนเอง แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 โดยครูที่มีประสบการณ์การสอน 10 ปีขึ้นไปมีการปลูกฝังมากกว่าครูที่มีประสบการณ์การสอนไม่เกิน 9 ปี 3.2 ครูที่มีประสบการณ์การสอนไม่เกิน 9 ปีและครูที่มีประสบการณ์การสอนตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป มีการปลูกฝังค่านิยมด้านการมีสัจจะไม่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 3.3 ครูที่มีประสบการณ์การสอนไม่เกิน 9 ปีและครูที่มีประสบการณ์การสอน 10 ปีขึ้นไป มีบทบาทในการปลูกฝังค่านิยมด้านการประหยัด ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 4. เมื่อเปรียบเทียบระหว่างระดับชั้นพบว่า ครูที่สอนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-2, 3-4 และ 5-6 มีการปลูกฝังค่านิยมในด้านการมีวินัยในตนเอง การมีสัจจะและการประหยัดไม่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05

Share

COinS