Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
การยกเว้นความรับผิดในการทำให้ผู้ป่วยตายด้วยความสงสาร
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Exemption of liability in euthanasia
Year (A.D.)
1986
Document Type
Thesis
First Advisor
โกศล โสภาคย์วิจิตร์
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
นิติศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
นิติศาสตร์
DOI
10.58837/CHULA.THE.1986.416
Abstract
คำว่า “สิทธิในการตาย" (The Right to Death) เป็นถ้อยคำหรือวลีที่ได้รับการกล่าวขานและเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากในวงการนิติศาสตร์ในปัจจุบัน ว่า บุคคลมีสิทธิที่จะตายหรือไม่? หากตนไม่ประสงค์ที่จะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป เนื่องจากจะต้องทนทุกข์ทรมานและได้รับความเจ็บปวดด้วยโรคร้ายที่ไม่อาจรักษาให้หายได้เป็นปกติและต้องตายด้วยโรคร้ายนี้อย่างแน่นอนหรือในกรณีของผู้ป่วยที่ตกอยู่ในสภาพที่หมดสติ (Coma) ไม่รู้สึกตัว ไม่มีความหวังที่จะกลับฟื้นคืนเป็นปกติเช่นเดิม แต่ยังคงสภาพอยู่ได้เพราะความก้าวหน้าทางด้านวิทยาการทางการแพทย์สมัยใหม่ ซึ่งอาจเรียกผู้ป่วยทั้งสองประเภทนี้ได้ว่าเป็น “ผู้ป่วยที่หมดหวัง" ประเด็นสำคัญที่ได้รับการหยิบยกขึ้นมาพิจารณาคือ ผู้ป่วยที่หมดหวังมีสิทธิที่จะตายอย่างมีศักดิ์ศรีหรือไม่ (The Right to Die With Dignity) กล่าวคือ ผู้ป่วยที่หมดหวังมีสิทธิที่จะตายอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องมีเครื่องอุปกรณ์ชีวิตช่วยทางการแพทย์เกี่ยวโยงระยางอยู่กับร่างกายของตนในขณะที่ตาย หรือมีสิทธิที่จะตายโดยไม่ต้องทนทุกข์ทรมานหรือไม่? ด้วยความเมตตาสงสาร แพทย์ผู้ทำการรักษาอาจจะยุติความทุกข์ทรมานของผู้ป่วยด้านการทำให้ผู้ป่วยตายลงก่อนเวลาอันสมควร หรือเป็นที่รู้จักกันดีในความหมายของคำว่า “Euthanasia" นั่นเอง โดยแพทย์อาจใช้วิธีการยุติการใช้เครื่องอุปกรณ์ช่วยชีวิต การให้ยาพิษ หรืองดเว้นไม่ให้อาหารน้ำและยาที่จำเป็นแก่ผู้ป่วย แต่การกระทำดังกล่าวแพทย์ต้องอยู่ในภาวะที่เสี่ยงต่อความรับผิดทางกฎหมายทั้งในทางแพ่งและทางอาญา แม้ว่าผู้ป่วยนั้นหรือผู้แทนจะได้ให้ความยินยอมตามกฎหมายแล้วก็ตาม เนื่องจากประเทศต่าง ๆ โดยทั่ว ๆ ไปเป็นส่วนมากยังไม่ยอมรับถึง “สิทธิในการตาย" ว่าเป็นสิทธิตามกฎหมาย ด้วยเหตุดังกล่าวทำให้แพทย์โดยส่วนมากจะไม่ยอมกระทำ “Euthanasia" ต่อผู้ป่วย ก่อให้เกิดผลเสียอันเป็นภาระแก่ ทั้งผู้ป่วย แพทย์ และสังคมส่วนรวม แม้ว่า “Euthanasia" จะไม่ถือว่าเป็นสิทธิตามกฎหมายเพราะขัดแย้งกับ “สิทธิในชีวิต" (The Right to Life) ซึ่งถือได้ว่าเป็นสิทธิที่สำคัญและจำเป็นที่สุดในการดำรงชีวิต แต่เมื่อได้พิจารณาถึงกรณีการทำแท้ง การปฏิเสธการรักษาพยาบาล ความมีอิสระในความเป็นอยู่ส่วนตัว ปราศจากการถูกรบกวน ซึ่งแม้ว่าจะมีบางกรณีที่ขัดแย้งกับ “สิทธิในชีวิต" ก็ตาม แต่กฎหมายก็ยอมรับว่ากรณีที่กล่าวมานี้เป็นสิทธิตามกฎหมายอย่างหนึ่ง “Euthanasia" นั้นแม้ว่าจะไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นสิทธิตามกฎหมาย แต่อาจพิจารณาได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของสิทธิในการปฏิเสธการรักษาของคนไข้ (A Patient’s Right to Refuse Treatment) หรือสิทธิส่วนตัว (The Right of Privacy) ได้เช่นกัน กรณีของ “Euthanasia" จึงอาจจะถือได้ว่าเป็นข้อยกเว้นที่มีเงื่อนไขอย่างหนึ่งของ “สิทธิในชีวิต" เพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าว บางรัฐบางประเทศที่มีความเจริญก้าวหน้าทางด้านนิติศาสตร์และการแพทย์ จึงได้ออกกฎหมายรับรอง “Euthanasia" บางประเภทที่เห็นว่าไม่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่สังคมโดยส่วนรวม ภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายได้กำหนดไว้ รวมทั้งการให้คำนิยามของคำว่า “ความตาย" ไว้ด้วย สำหรับประเทศไทย แม้ว่าปัญหาในเรื่องการกระทำให้ตายโดยแพทย์ (Euthanasia) จะยังไม่ค่อยมี แต่ก็มีแนวโน้มว่าปัญหาดังกล่าวจะเกิดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคตอันใกล้ แต่ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายใด ๆ รับรองการกระทำดังกล่าวของแพทย์ การกระทำให้ตายโดยแพทย์ แพทย์จึงมีความรับผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา วิทยานิพนธ์นี้จึงได้พิจารณาหาทางออกที่พอจะเป็นไปได้ในกรณีของ “Euthanasia" เพื่อให้มีการแก้ไขปัญหาในเรื่องความรับผิดของแพทย์โดยวิธีการออกเป็นกฎหมายพิเศษโดยมีเนื้อหาที่ยกเว้นความรับผิดของแพทย์ ทั้งในทางแพ่งและอาญาต่อการกระทำ “Euthanasia" ในบางสถานการณ์ที่เหมาะสม โดยจะให้มีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของสังคมให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นได้.
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
สุคนธ์, ประพัฒน์พงศ์, "การยกเว้นความรับผิดในการทำให้ผู้ป่วยตายด้วยความสงสาร" (1986). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 48139.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/48139