Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การชักนำด้วยแสงอุลตราไวโอเลต ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์บ่งเพศ ของแอลฟา/แอลฟา ฟิวแสนท์ ของ แซคคาโรมัยซีส ซีรีวิซิอี

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Ultraviolet induced mating-type mutation in alfa/alfa fusant of saccharomyces cerevisiae

Year (A.D.)

1986

Document Type

Thesis

First Advisor

สุมาลี พิชญางกูร

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

จุลชีววิทยา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1986.560

Abstract

จากการรวมตัวของเซลโปรโตพลาส โดยใช้ PEG-8000 ได้สร้างเซลผสมของ แซคคาโรมัยซีส ซีรีวิซีอี จาก 2 สายพันธุ์ คือ α STX 166-17 C และ α STX 174-4 D ซึ่งมีตำหนิที่กรดอะมิโนและไนโตรจีเนียส เบส และมีสายพันธุ์บ่งเพศเป็นแอลฟาเหมือนกันมีจีโนไทพ์ lys 9 ade 2 และ lys 9 met 2 ura 1 ตามลำดับ คัดเลือกเซลผสมที่เกิดขึ้นบนอาหารต่ำสมบูรณ์ที่เติมเฉพาะไลซีน ตามหลักคอมพลีเมนทารี มีจีโนไทพ์เป็น lys 9 คัดเซลผสมมาทดลอง 7 โคโลนี ให้ชื่อ α α (Fu-d_1) ถึง α α (Fu-d₇) ตามลำดับความถี่ของการเกิดเซลผสมร้อยละ 2.5 จากการศึกษาและตรวจสอบเอกลักษณ์ของเซลผสมที่ได้โคโลนีของเซลผสมบนอาหารวายพีดี มีสีเหลืองคล้าย α STX 174-4 D เนื่องจากมีตำหนิที่ไลซีนเหมือนกัน แต่แตกต่างจากโคโลนีของ α STX 166-17 C ซึ่งมีสีแดง เนื่องจากมีตำหนิที่อดีนีน เซลผสมมีขนาด และปริมาตรใหญ่กว่าสายพันธุ์ α STX 166-17 C และ α STX 174-4 D และปริมาณดีเอนเอมีค่าเกือบเท่ากับปริมาณดีเอนเอของ α STX 166-17 C รวมกับ α STX 174-4 D อัตราการเจริญเติบโตในอาหารเหลววายพีดีบนเครื่องเขย่าความเร็ว 250 รอบต่อนาที ที่ 30 .ซ พบแบบการเจริญเติบโตมีอัตราการเจริญในช่วงทวีคูณ 2 ครั้ง ซึ่งลักษณะนี้ไม่พบในสายพันธุ์ α STX 166-17 C และ α STX 174-4 D ความสามารถในการตอบสนองต่อสายพันธุ์บ่งเพศที่ตรงข้าม พบว่า α α (Fu-d₁) แสดงสายพันธุ์บ่งเพศเป็น α และผสมแบบใช้เพศตามธรรมชาติกับสายพันธุ์ a AH-22 (cir+) จีโนไทพ์ leu 8-3 leu 2-112 his 4 can 1 ได้ลูกผสมใหม่คาดว่าเป็นทริพพลอยด์เซล α α a (Fu-t) เจริญบนอาหารต่ำสมบูรณ์มีขนาดและปริมาตรใหญ่กว่า α α (Fu-d₁) และ a AH-22 (cir+) แต่ปริมาณดีเอนเอน้อยกว่าผลรวมของปริมาณดีเอนเอระหว่าง α α (Fu-d_1) กับ a AH-22 (cir+) พบลักษณะการเจริญในช่วงทวีคูณ 2 ครั้ง เช่นเดียวกับ α α (Fu-d₁) แต่ไม่พบลักษณะนี้ใน a AH-22 (cir+ที่เป็นแฮพพลอยด์ การศึกษาจำนวนนิวเคลียสด้วยกล้องจุลทัศน์อิเลคตรอนแบบลำแสงผ่านตัวอย่าง พบว่าส่วนใหญ่เซสผสมมี 1 นิวเคลียส ซึ่งสอดคล้องกับการทดสอบยีน KAR ที่ทำงานปกติใน α (STX 166-17 C) กับ α (STX 174-4 D) ความเสถียรทางพันธุกรรมของเซลผสมเก็บไว้ 4 .ซ นาน 12 เดือน พบพีโนไทพ์ของเซลผสมยังคงขาดไลซีน ยกเว้น α α (Fu-d₁) พบ lys met ด้วยความถี่ร้อยละ 0.50 และ α α (Fu-d₄) พบ lys met ura ด้วยความถี่ร้อยละ 4.40 พบเซลปกติที่ไม่ต้องการกรดอะมิโนทุกชนิดในเซลผสม α α (Fu-d₁) - α α (Fu-d₇) ด้วยความถี่ร้อยละ 1.49, 0.85, 0.88, 1.65, 1.31, 0.81, 0.63 ตามลำดับ จากการทดลองพบว่า แสงอุลตราไวโอเลตสามารถชักนำให้เกิดการเปลี่ยนสายพันธุ์บ่งเพศจาก α เป็น a ในเซลผสมที่สร้างขึ้นและเกิดกระบวนการสร้างแอสโคสปอร์ในแอสคัส ผลการกระจายของยีนในแอสโคสปอร์ที่แยกมาเป็นจำนวน 25 แอสคัสด้วยไมโครมานิพูเลเทอร์ สรุปว่า α α (Fu d₁) เป็นดิพพลอยด์เซลที่เกิดจากการรวมตัวของเซลโปรพลาสระหว่าง α STX 166-17 C รวมกับ α STX 174-4 D อย่างแท้จริง

Share

COinS