Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ปฏิสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบการเสนอเนื้อหาในหนังสือภาพขาวดำ กับระดับอายุของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านพุทธิพิสัย

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

An interaction between formats of content appoaches in black and white picture books and age levels upon the cognitive learning achievement of elementary school students

Year (A.D.)

1986

Document Type

Thesis

First Advisor

เชาวเลิศ เลิศชโลฬาร

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

โสตทัศนศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1986.46

Abstract

วัตถุประสงค์ของการวิจัย เพื่อศึกษาปฏิสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบการเสนอเนื้อหาของหนังสือภาพขาวดำ กับระดับอายุของนักเรียนชั้นประถมศึกษาที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านพุทธิพิสัย วิธีดำเนินการวิจัย ตัวอย่างประชากรมีทั้งสิ้น 360 คน จากโรงเรียนสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี และวัดเทพลีลา ประจำภาคปลาย ปีการศึกษา 2528 ซึ่งได้จากการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นใน 3 ระดับอายุ คือ 6-7 ปี (ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1) 8-9 ปี (ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3) และ 11-12 ปี (ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6) จำนวน 60 คน ในแต่ละระดับชั้นของแต่ละโรงเรียน นักเรียนแต่ละระดับจะสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นอีกครั้งเป็น 3 กลุ่มทดลอง คือ กลุ่ม 1, 2 และ 3 รวมจำนวนนักเรียนในแต่ละกลุ่มทดลอง 120 คน กลุ่ม 1 เรียนจากหนังสือภาพที่เสนอเนื้อแบบบรรยาย กลุ่ม 2 เรียนจากหนังสือภาพที่เสนอเนื้อหาแบบสนทนา และกลุ่ม 3 เรียนจาก หนังสือภาพที่เสนอเนื้อหาแบบสนทนาร่วมกับบรรยาย หลังจากจบบทเรียนแล้วให้นักเรียนทั้ง 3 กลุ่ม ทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ด้านพุทธิพิสัย นำข้อมูลที่ได้จากการทดสอบมาวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบ 2 ทาง ผลการวิจัย ผลการวิจัยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้ 1. นักเรียนที่มีอายุต่างกัน จะมีผลสัมฤทธิ์ในการเรียนหนังสือภาพที่มีวิธีเสนอเนื้อหาต่างกันใน 3 รูปแบบ มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยนักเรียนที่มีอายุ 11-12 ปี จะมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไม่ต่างจากนักเรียนอายุ 8-9 ปี แต่ทั้งสองระดับอายุจะมีผลสัมฤทธิ์สูงกว่ากลุ่มนักเรียนอายุ 6-7 ปี 2. นักเรียนที่เรียนจากหนังสือภาพขาวดำที่เสนอเนื้อหาแบบบรรยาย แบบสนทนาและแบบสนทนาร่วมกับบรรยาย มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และนักเรียนที่เรียนจากเนื้อหาแบบสนทนาและแบบสนทนาร่วมกับบรรยาย จะให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไม่ต่างกัน แต่เนื้อหาทั้งสองแบบให้ผลสัมฤทธิ์สูงกว่าที่จะเรียนจากเนื้อหาแบบบรรยาย 3. ปฏิสัมพันธ์ระหว่างวิธีเสนอเนื้อหาและระดับอายุของผู้เรียน แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 4. ไม่มีคำตอบของสมมติฐาน ข้อ 2, 3 และ 4

Share

COinS