Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ปฏิสัมพันธ์ระหว่างชนิดของออร์แกไนเซอร์ก่อนการสอน กับระดับความถนัดทางภาษาที่มีต่อความเข้าใจในการฟังภาษาอังกฤษ ของนักเรียนอาชีวศึกษา

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

An interaction of types of advance organizer and levels of language aptitude upon English listening comprehension of vocational school students

Year (A.D.)

1986

Document Type

Thesis

First Advisor

เชาวเลิศ เลิศชโลฬาร

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

โสตทัศนศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1986.44

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปฎิสัมพันธ์ระหว่างชนิดของออร์แกไนเซอร์ก่อนการสอนกับระดับความถนัดทางภาษาที่มีต่อความเข้าใจในการฟังภาษาอังกฤษของนักเรียนอาชีวศึกษา กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนอาชีวศึกษาปีที่ 1 จำนวน 180 คน ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ภาคปลาย ปีการศึกษา 2528 ของโรงเรียนเกษมโปลีเทคนิค ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 500 คน โดยให้นักเรียนทั้งหมดฟังแบบทดสอบวัดความถนัดทางถนัดทางภาษา (TLAT) ของสถาบันภาษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อแบ่งเป็นกลุ่มที่มีระดับความถนัดทางภาษาสูง และกลุ่มที่มีระดับความถนัดทางภาษาต่ำ จากตัวอย่างประชากรที่มีความถนัดทางภาษาสูงและต่ำนี้สุ่มตัวอย่างอย่างง่าย เป็นกลุ่มที่มีระดับความถนัดทางภาษาสูง 90 คน และกลุ่มที่มีระดับความถนัดทางภาษาต่ำ 90 คน จากนั้นสุ่มตัวอย่างอย่างง่ายแบ่งเป็นกลุ่มที่มีความถนัดทางภาษาสูง และกลุ่มที่มีความถนัดทางภาษาต่ำออกเป็น 3 กลุ่มย่อย คือ กลุ่ม 1, กลุ่ม 2, กลุ่ม 3 ออกเป็นกลุ่มละ 30 คน โดยให้ออร์แกไนเซอร์ก่อนการสอนแตกต่างกันดังนี้ กลุ่ม 1 ให้ออร์แกไนเซอร์ก่อนการสอนชนิดภาพ กลุ่ม 2 ให้ออร์แกไนเซอร์ก่อนการสอนชนิดเสียง และกลุ่ม 3 ให้ออร์แกไนเซอร์ก่อนการสอนชนิดข้อความเขียน การทดลองเริ่มโดยให้ออร์แกไนเซอร์ก่อนการสอนแตกต่างกันตามกลุ่ม 1, 2 และ 3 หลังจากนั้นให้ฟังเทปเนื้อเรื่อง แล้วทดสอบความเข้าใจในการฟัง ข้อมูลที่รวบรวมได้นำมาวิเคราะห์โดยใช้สถิติการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบสองทาง ผลการวิจัยสรุปผลได้ดังนี้คือ 1.ไม่มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างชนิดของออร์แกไนเซอร์ก่อนการสอน กับระดับความถนัดทางภาษาที่มีต่อความเข้าใจในการฟังที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 2.ออร์แกไนเซอร์ก่อนการสอนทั้ง 3 ชนิด มีผลต่อความเข้าใจในการฟังภาษาอังกฤษของนักเรียนไม่แตกต่างกันที่ระดับนัยสำคัญที่ 0.05 3.ความเข้าใจในการฟังระหว่างกลุ่มตัวอย่างที่มีระดับความถนัดทางภาษาต่างกันมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ 0.05

Share

COinS