Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การสำรวจแนวบทบาทนิสิตนักศึกษาตามการรับรู้ของนิสิตนักศึกษา ในมหาวิทยาลัยระบบจำกัดรับ

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A servey of student role orientations as perceived by students in closed admission universities

Year (A.D.)

1985

Document Type

Thesis

First Advisor

พรชุลี อาชวอำรุง

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

อุดมศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1985.362

Abstract

วัตถุประสงค์ของการวิจัย การวิจัยครั้งนี้มุ่งสำรวจแนวบทบาทนิสิตนักศึกษาในมหาวิทยาลัยระบบจำกัดรับ และศึกษาเปรียบเทียบแนวบทบาทนิสิตนักศึกษา โดยจำแนกตาม เพศ สถานที่พัก ชั้นปี สาขาวิชาและมหาวิทยาลัยที่ศึกษาอยู่ วิธีการดำเนินการวิจัย ผู้วิจัยใช้การสุ่มตัวอย่างแบบผสม โดยศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ในภาคต่าง ๆ ภาคละ 1 แห่ง มหาวิทยาลัยที่ศึกษาคือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จำนวนตัวอย่างที่ศึกษาทั้งสิ้น 473 คน ส่งแบบสอบถามไปได้รับกลับคืนเป็นแบบสอบถามที่สมบูรณ์ 456 ฉบับคิดเป็นร้อยละ 96.40 ในการวิเคราะห์ข้อมูล ข้อมูลส่วนที่เป็นสถานภาพและรายละเอียดเกี่ยวกับนิสิตนักศึกษา วิเคราะห์ในรูปของค่าความถี่และร้อยละ ข้อมูลเกี่ยวกับแนวบทบาทของนิสิตนักศึกษา วิเคราะห์ในรูปของค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การศึกษาเปรียบเทียบโดยจำแนกตามเพศและสถานที่พัก ทดสอบความแตกต่างด้วยค่าที-เทสต์ และการศึกษาเปรียบเทียบโดยจำแนกตามชั้นปี สาขาวิชาและมหาวิทยาลัยที่ศึกษาอยู่ ทดสอบด้วยค่าเอฟ-เทสต์ สรุปผลการวิจัย 1. การรับรู้ของนิสิตนักศึกษาในแนวบทบาททั้ง 8 ด้าน พบว่า นิสิตนักศึกษาในมหาวิทยาลัยระบบจำกัดรับมีค่าเฉลี่ยของการรับรู้ในแนวบทบาททางวิชาการและการเป็นศึกษิต สูงที่สุด รองลงมาคือแนวบทบาทในการใช้สติปัญญา และแนวบทบาทที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือแนวบทบาทที่ทำพอเป็นพิธี 2. เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของการรับรู้ของนิสิตนักศึกษา จำแนกตามเพศ พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ระหว่างนิสิตนักศึกษาชายและหญิง ในแนวบทบาททางวิชาการและการเป็นศึกษิต แนวบทบาทในการใช้สติปัญญา แนวบทบาทในการฝึกฝนเพื่อการประกอบอาชีพ และที่ระดับ .01 ในแนวบทบาทในการใช้สติปัญญา แนวบทบาทในการนำประสบการณ์จากการทำกิจกรรมในสถาบันไปใช้ประโยชน์ แนวบทบาทในการพัฒนาสังคม แนวบทบาทที่ทำพอเป็นพิธี และแนวบทบาทนักรณรงค์ทางการเมือง 3. เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของการรับรู้ของนิสิตนักศึกษา จำแนกตามสถานที่พัก พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ระหว่างนิสิตนักศึกษาที่พักในบริเวณมหาวิทยาลัยและนิสิตนักศึกษาที่พักนอกบริเวณมหาวิทยาลัย ในแนวบทบาททางวิชาการและการเป็นศึกษิต แนวบทบาทในการใช้สติปัญญา แนวบทบาทในการฝึกฝนเพื่อการประกอบอาชีพ แนวบทบาทในการพัฒนาสังคม แนวบทบาทที่ทำพอเป็นพิธี และที่ระดับ .01 ในแนวบทบาทที่ทำพอเป็นพิธีและแนวบทบาทนักรณรงค์ทางการเมือง 4. เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของการรับรู้ของนิสิตนักศึกษา จำแนกตามชั้นปี สาขาวิชาและมหาวิทยาลัยที่ศึกษาอยู่ พบความแตกต่างดังนี้ 4.1 แนวบทบาททางวิชาการและการเป็นศึกษิต พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ระหว่างนิสิตนักศึกษาปี 1 กับปี 2 ปี 1 กับปี 3 นิสิตนักศึกษาในสาขาวิทยาศาสตร์ประยุกต์กับสาขาสังคมศาสตร์ นิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กับนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กับนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และที่ระดับ .01 ระหว่างนิสิตนักศึกษาปี 1 กับปี 4 ปี 1 กับปี 2 ปี 1 กับปี 3 นิสิตนักศึกษาในสาขาวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์กับสาขาสังคมศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์ประยุกต์กับสาขาสังคมศาสตร์ นิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กับนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นกับนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์กับนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 4.2 แนวบทบาทในการใช้สติปัญญา พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ระหว่างนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่กับนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่กับนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 4.3 แนวบทบาทในการใช้ชีวิตในสถาบันอุดมศึกษาอย่างเต็มที่ พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ระหว่างนิสิตนักศึกษาปี 1 กับปี 2 ปี 1 กับปี 4 นิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กับนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์กับนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และที่ระดับ .01 ระหว่างนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กับนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น นิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กับนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่กับนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น 4.4 แนวบทบาทในการฝึกฝนเพื่อการประกอบอาชีพ พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ระหว่างนิสิตนักศึกษาปี 1 กับปี 2 นิสิตนักศึกษาในสาขาวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์กับสาขาสังคมศาสตร์ นิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กับนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และที่ระดับ .01 ระหว่างนิสิตนักศึกษาปี 1 กับปี 3 และ ปี 1 กับปี 4 4.5 แนวบทบาทในการพัฒนาสังคม พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ระหว่างนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กับนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 4.6 แนวบทบาทที่ทำพอเป็นพิธี พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ระหว่างนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์กับนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น และนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กับนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 4.7 แนวบทบาทนักรณรงค์ทางการเมือง พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ระหว่างนิสิตนักศึกษาปี 1 กับปี 2 และปี 1 กับปี 3

Share

COinS