Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาปฏิกิริยานักศึกษาต่อสถาบันในสถาบันการศึกษาพยาบาล

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A study of student reactions to college in nursing education institutions

Year (A.D.)

1986

Document Type

Thesis

First Advisor

พรชุลี อาชวอำรุง

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

อุดมศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1986.386

Abstract

วัตถุประสงค์ของการวิจัย เพื่อศึกษาปฏิกิริยานักศึกษาที่มีต่อสถาบันการศึกษาพยาบาลและเพื่อเปรียบเทียบปฏิกิริยานักศึกษาที่มีต่อสถาบันการศึกษาพยาบาล จำแนกตามชั้นปี สังกัด และสถานที่ตั้งของสถาบัน วิธีดำเนินการวิจัย 1. การวิจัยครั้งนี้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงบรรยาย (Descriptive Research) โดยใช้กลุ่มตัวอย่างจากนักศึกษาในสถาบันการศึกษาพยาบาล หลักสูตรพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 1-4 ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา 2528 โดยสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยในส่วนกลางเลือกสถาบันการศึกษาพยาบาลเป็นตัวแทนของสถาบันการศึกษาพยาบาลในแต่ละสังกัดทั้ง 5 สังกัด สังกัดละ 1 แห่ง และเลือกสถาบันการศึกษาพยาบาลเป็นตัวแทนสถาบันการศึกษาพยาบาลในแต่ละภูมิภาค ภาคละ 1 แห่ง ได้สถาบันการศึกษาพยาบาลที่เป็นตัวแทนจำนวน 9 แห่ง แล้วใช้วิธีสุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ (Stratified Random Sampling) ตามชั้นปีการศึกษา เลือกกลุ่มตัวอย่างนักศึกษาจากนักศึกษาในสถาบันการศึกษาพยาบาลที่เป็นตัวแทน แต่เนื่องจากกลุ่มตัวอย่างในบางสถาบันมีจำนวนต่ำกว่า 30 คน ซึ่งเป็นจำนวนต่ำสุดในการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติเชิงปริมาตร (Parametric Statistics) จึงได้ปรับขยายกลุ่มตัวอย่างในสถาบันดังกล่าว ดังนั้นกลุ่มตัวอย่างที่จะทำการศึกษามีจำนวน 468 คน แจกแบบสอบถามไปทั้งสิ้น 468 ชุด ได้รับคืน 468 ชุด เป็นแบบสอบถามที่สมบูรณ์ 450 ชุด คิดเป็นร้อยละ 97 2. เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นจากการศึกษาจากแบบสอบถามเรื่อง Student Reactions to College ของ Educational Testing Service ประกอบกับการศึกษาแนวคิด ทฤษฎี และผลงานวิจัยของนักวิชาการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องปฏิกิริยานักศึกษาต่อสถาบัน นำมาประมวลเป็นปฏิกิริยานักศึกษาต่อสถาบันที่ครอบคลุมการจัดการศึกษาในสถาบันการศึกษาพยาบาลของไทย จำนวน 12 ด้าน การสร้างข้อกระทงคำถามนั้น ส่วนหนึ่งนำมาจากแบบสอบถามเรื่อง Student Reactions to College อีกส่วนหนึ่งผู้วิจัยสร้างขึ้นเองเพื่อให้ครอบคลุมการจัดการศึกษาในสถาบันการศึกษาดังกล่าวเช่นกัน ลักษณะของแบบสอบถามเป็นแบประเมินค่า (Rating Scale) 3. การวิเคราะห์ข้อมูล ได้นำข้อมูลมาทำการวิเคราะห์สถานภาพส่วนตัวของนักศึกษาด้วยค่าความถี่และค่าร้อยละ ส่วนข้อมูลปฏิกิริยานักศึกษาต่อสถาบัน และการเปรียบเทียบปฏิกิริยานักศึกษาต่อสถาบัน วิเคราะห์ด้วยค่าร้อยละ ผลการวิเคราะห์ข้อมูลนำเสนอเป็นตารางแผนภูมิและความเรียง สรุปผลการวิจัย 1. โดยส่วนรวมนักศึกษามีปฏิกิริยาพึงพอใจต่อสถาบันการศึกษาพยาบาลอยู่ในระดับปานกลาง จำนวน 10 ด้าน โดยที่นักศึกษาพึงพอใจ 4 ด้านแรกเป็นด้านที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอน คือ ด้านรูปแบบการสอน ด้านคุณภาพการสอน ด้านความสัมพันธ์กับอาจารย์และด้านการประเมินผล เรียงตามลำดับ ด้านที่นักศึกษาพึงพอใจรองลงมาเป็นด้านที่เกี่ยวข้องกับกิจการนักศึกษาคือ อันดับที่ 5 ด้านสวัสดิการนักศึกษา ด้านที่ 6 ด้านกิจกรรมนักศึกษา ส่วนด้านที่นักศึกษามีความพึงพอใจอยู่ในระดับน้อย มีจำนวน 2 ด้าน คือ ด้านระเบียบและข้อบังคับของสถาบัน และด้านการศึกษาด้วยตนเองนอกห้องเรียน นอกจากนี้ยังมีข้อน่าสังเกตว่า ด้านที่เกี่ยวข้องกับนักศึกษาอยู่ในอันดับที่ 9 คือ ด้านผลการเรียนของนักศึกษา และอันดับสุดท้าย เป็นด้านการศึกษาด้วยตนเองนอกห้องเรียน 2. ผลการเปรียบเทียบปฏิกิริยานักศึกษาต่อสถาบันการศึกษาพยาบาล พบว่า ไม่มีความแตกต่างระหว่างชั้นปี สังกัด และสถานที่ตั้ง ในด้านที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนทุกด้าน ยกเว้น ด้านผลการเรียนของนักศึกษา โดยที่นักศึกษาชั้นปีที่ 1 และนักศึกษาสังกัดกระทรวงกลาโหม แสดงความพึงพอใจระดับน้อยในด้านนี้ ซึ่งแตกต่างจากนักศึกษากลุ่มอื่น ๆ อย่างชัดเจน ส่วนด้านที่เกี่ยวข้องกับการบริหารและการปกครองนักศึกษาและด้านกิจการนักศึกษา พบความแตกต่างทุกด้าน โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษาแจกแจงโดยสังกัด นักศึกษาสังกัดกรุงเทพมหานครแสดงความพึงพอใจระดับน้อยในเกือบทุกด้านดังกล่าว ซึ่งแตกต่างจากสถาบันในสังกัดอื่น ๆ อย่างเด่นชัดที่สุด ส่วนความแตกต่างระหว่างชั้นปี และสถานที่ตั้งมีลักษณะกระจายไม่สามารถสรุปทิศทางได้ ข้อเสนอแนะ 1. งานการเรียนการสอน อาจารย์ผู้สอนควรจะได้ปรับปรุง ในเรื่องของการสอนในชั้นเรียนให้มีบรรยากาศน่าสนใจ เนื้อหาวิชาที่สอนไม่ซ้ำซาก พัฒนาเทคนิคการสอนให้น่าสนใจในรายวิชาที่นักศึกษาส่วนใหญ่ให้ความสนใจอย่างมาก การสอนให้นักศึกษาตระหนัก สนใจ และฝึกฝน ที่จะศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองได้ มีการตรวจสอบและติดตามความก้าวหน้าของผู้เรียนอย่างต่อเนื่องและปรับปรุงเกณฑ์การประเมินผลภาคปฏิบัติให้เป็นที่ยอมรับทั้งของผู้ประเมินและผู้ถูกประเมิน นอกจากนี้สถาบันควรปรับปรุงหลักสูตรให้เหมาะสมกับผู้เรียนและการเปลี่ยนแปลงของสังคม 2. งานบริหารและปกครองนักศึกษา สถาบันการศึกษาพยาบาลควรจะพัฒนานักศึกษาให้มีทัศนคติที่ดีต่อวิชาชีพ โดยการบรรจุอยู่ในหลักสูตรและกิจกรรมนอกเหนือหลักสูตร จัดหาทรัพยากรในห้องสมุดให้มีจำนวนเพียงพอกับการใช้บริการของนักศึกษา เปิดโอกาสให้นักศึกษามีส่วนร่วมในการกำหนดระเบียบและข้อบังคับของสถาบัน และการเพิ่มมาตรการการรักษาความปลอดภัย 3. งานกิจการนักศึกษา สถาบันการศึกษาพยาบาลควรจะสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องกับนักศึกษา ในเรื่องบทบาทของอาจารย์ที่ปรึกษากิจกรรมต่อการพัฒนานักศึกษาในด้านต่าง ๆ และการกระตุ้นให้อาจารย์ที่ปรึกษากิจกรรมได้ตระหนักถึงบทบาทและหน้าที่รับผิดชอบให้ดีขึ้น นอกจากนี้ควรจะต้องจัดให้มีสนามกีฬา การช่วยเหลือด้านเงินทุนที่เพียงพอกับความต้องการของนักศึกษาตลอดจนการปรับปรุงบริการไปรษณีย์ให้มีประสิทธิภาพ 4. สถาบันการศึกษาพยาบาลควรจะได้มีการศึกษาปฏิกิริยานักศึกษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูกระสวนการเปลี่ยนแปลงของปฏิกิริยา ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนการจัดการศึกษาให้เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของนักศึกษา

Share

COinS