Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
การเปรียบเทียบลักษณะนิสิตจำแนกตามสาขาวิชา : การศึกษาเฉพาะกรณี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
A comparison of student characteristics clsaaified by area of study : a case study of Chulalongkorn University
Year (A.D.)
1986
Document Type
Thesis
First Advisor
วัลลภา เทพหัสดิน ณ อยุธยา
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
อุดมศึกษา
DOI
10.58837/CHULA.THE.1986.378
Abstract
ศึกษาและเปรียบเทียบลักษณะนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้านความมีเหตุมีผล การใฝ่รู้ การนำความรู้ไปใช้ การใช้ภาษา กิริยามารยาท รสนิยม ศาสนา การเมือง และด้านสังคม ระหว่างนิสิตสาขาวิชาวิทยาศาสตร์กายภาพ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ สาขาวิชาสังคมศาสตร์ และสาขาวิชามนุษยศาสตร์ วิธีดำเนินการวิจัย การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงบรรยาย กลุ่มตัวอย่างประชากร เป็นนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 3 และชั้นปีที่ 4 จาก 15 คณะ ใช้วิธีสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Random Sampling) จากสาขาวิชา คณะวิชา ชั้นปี จำนวน 550 คน ได้รับแบบสอบถามคืน 547 คน (99.45%) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เป็นแบบสอบถาม ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเอง ซึ่งเป็นมาตราส่วนประมาณค่าแบบลิเคอร์ท ( Likert) 5 ช่วง ทั้งหมด 90 ข้อ ในการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวน และการทดสอบรายคู่ด้วยวิธีของเซฟเฟ สรุปผลการวิจัย 1. ผลการวิจัยเกี่ยวกับ ลักษณะสภาพ หรือพฤติกรรมที่ปฏิบัติจริง นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้ง 4 สาขาวิชา ในด้านความมีเหตุมีผล การใฝ่รู้ การนำความรู้ไปใช้ การใช้ภาษา กิริยามารยาท รสนิยม ศาสนา การเมืองและด้านสังคม ทั้ง 9 ด้านนี้ มีลักษณะ สภาพ หรือพฤติกรรมที่ปฏิบัติจริง ด้านกิริยามารยาทสูงที่สุด (X-bar = 3.83) ด้านศาสนาต่ำที่สุด (X-bar = 2.51) คือสาขาวิชาวิทยาศาสตร์กายภาพ (X-bar = 3.85 และ X-bar = 2.62) สาขา วิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ (X-bar = 3.69 และ X-bar = 2.39) สาขาวิชาสังคมศาสตร์ (X-bar = 3.86 และ X-bar = 2.52) สาขาวิชามนุษยศาสตร์ (X-bar = 3.88 แล ะ X-bar = 2.43) สำหรับความคิดเห็นของนิสิตสาขาวิชาวิทยาศาสตร์กายภาพ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ และสาขาวิชาสังคมศาสตร์ คือ ลักษณะด้านความมีเหตุมีผล มีความสำคัญต่อนิสิตมากที่สุด (X-bar = 4.37, X-bar = 4.41 และ X-bar = 4.33) แต่นิสิตสาขาวิชามนุษยศาสตร์เห็นว่า การใฝ่รู้ มีความสำคัญต่อนิสิตมากที่สุด (X-bar = 4.40) และนิสิตทั้ง 4 สาขาวิชา มีความคิดเห็นตรงกันว่า ลักษณะที่มีความสำคัญต่อนิสิตน้อยที่สุดคือ ด้านรสนิยม (X-bar = 3.31) 2. ผลการวิจัยเกี่ยวกับความแตกต่างของคะแนนเฉลี่ย ของลักษณะสภาพ หรือพฤติกรรมที่ปฏิบัติจริง และความคิดเห็นของนิสิตต่างสาขาวิชา ในด้านความมีเหตุมีผล การใฝ่รู้ การนำความรู้ไปใช้ การใช้ภาษา กิริยามารยาท รสนิยม ศาสนา การเมือง และสังคม มีดังนี้ 2.1 ลักษณะด้านความมีเหตุมีผล และด้านศาสนา ของนิสิตทั้ง 4 สาขาวิชา ไม่แตกต่างกัน 2.2 ลักษณะด้านการใฝ่รู้ของนิสิตทั้ง 4 สาขาวิชา แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .01 และเมื่อทดสอบทีละคู่พบว่า สาขาวิชาวิทยาศาสตร์กายภาพ แตกต่างกับสาขาวิชาสังคมศาสตร์ โดยที่สาขาวิชาวิทยาศาสตร์กายภาพ มีลักษณะด้านการใฝ่รู้ สูงกว่าสาขาวิชาสังคมศาสตร์ ส่วนสาขาอื่นๆไม่แตกต่างกัน 2.3 ลักษณะด้านการนำความรู้ไปใช้ของนิสิตทั้ง 4 สาขาแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เมื่อทดสอบทีละคู่พบว่า สาขาวิชามนุษยศาสตร์แตกต่างกับสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ และสาขาวิชาสังคมศาสตร์ โดยที่สาขาวิชามนุษยศาสตร์ จะมีลักษณะด้านการนำความรู้ไปใช้สูงกว่าสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ และสาขาวิชาสังคมศาสตร์ 2.4 ลักษณะด้านการใช้ภาษาของนิสิตทั้ง 4 สาขาวิชา แตกต่างกันอย่างมี นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เมื่อทดสอบทีละคู่พบว่า สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพแตกต่างกับสาขาวิชาวิทยาศาสตร์กายภาพ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพแตกต่างกับสาขาวิชาสังคมศาสตร์ และสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ แตกต่างกับสาขาวิชามนุษยศาสตร์ โดยที่สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ มีลักษณะด้านการใช้ภาษาต่ำกว่าทุกสาขาวิชา 2.5 ลักษณะด้านกิริยามารยาทของนิสิตทั้ง 4 สาขาวิชาแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เมื่อทดสอบทีละคู่พบว่า สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพแตกต่างกับสาขาวิชามนุษยศาสตร์ โดยที่สาขาวิชามนุษยศาสตร์ มีลักษณะด้านกิริยามารยาทสูงกว่าสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ส่วนสาขาอื่นๆไม่แตกต่างกัน 2.6 ลักษณะด้านรสนิยมของนิสิต 4 สาขาวิชา แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อทดสอบทีละคู่พบว่า สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพแตกต่างกับสาขาวิชามนุษยศาสตร์ โดยที่สาขาวิชามนุษยศาสตร์มีลักษณะด้านรสนิยมสูงกว่าสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ส่วนสาขาอื่นๆไม่แตกต่างกัน 2.7 ลักษณะด้านการเมืองของนิสิต 4 สาขาวิชา แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เมื่อทดสอบทีละคู่พบว่า นิสิตสาขาวิชามนุษยศาสตร์แตกต่างกับสาขาวิชาสังคมศาสตร์ โดยที่สาขาวิชาสังคมศาสตร์มีลักษณะด้านการเมืองสูงกว่า สาขาวิชามนุษยศาสตร์ ส่วนสาขาอื่นๆ ไม่แตกต่างกัน 2.8 ลักษณะด้านการเมืองของนิสิต 4 สาขาวิชา แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เมื่อทดสอบทีละคู่พบว่า สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพแตกต่างกับ สาขาวิชาสังคมศาสตร์และสาขาวิชามนุษยศาสตร์ โดยที่สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพมีลักษณะด้านสังคมต่ำกว่าทุกสาขาวิชา 2.9 ความแตกต่างเกี่ยวกับความสำคัญของลักษณะนิสิตด้านต่างๆของนิสิตทั้ง 4 สาขาวิชาไม่แตกต่างกัน ยกเว้นด้านการใช้ภาษาแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ทางสถิติที่ระดับ .01 เมื่อทดสอบทีละคู่พบว่า สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพแตกต่างกับ สาขาวิชาสังคมศาสตร์และสาขาวิชามนุษยศาสตร์ โดยที่สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ มีความคิดเห็นในเรื่องความสำคัญของลักษณะนิสิต ด้านการใช้ภาษาต่ำกว่าทุกสาขาวิชา ข้อเสนอแนะ การศึกษาลักษณะนิสิตทั้ง 9 ด้านนั้น มีค่าเฉลี่ยด้านศาสนา และการเมืองอยู่ในเกณฑ์ต่ำ (X-bar = 2.51 และ X-bar = 2.71) ดังนั้นฝ่ายวิชาการของมหาวิทยาลัย ควรมีการพัฒนาหลักสูตรที่เกี่ยวกับศาสนาและการเมือง เพื่อเตรียมนิสิตให้เป็นพลเมืองดีของสังคม โดยการจัดสัมมนาหลักสูตรวิชาศาสนาสากล หรือศาสนาเปรียบเทียบ และวิชาความรู้เบื้องต้นทางรัฐศาสตร์ เป็นวิชาบังคับสำหรับนิสิตทุกคณะ จัดให้มีวิชาพิธีกรรมทางศาสนา และวิชาพฤติกรรมทางการเมืองเป็นวิชาบังคับเลือก นอกจากนี้ฝ่ายกิจกรรมนิสิตควรกำหนดนโยบายในการพัฒนานิสิตด้านกิจกรรมให้ชัดเจน เพื่อให้เข้าใจตรงกันทุกฝ่าย ควรจัดให้มี พิธีกรรมทางศาสนาทุกศาสนา โดยเฉพาะศาสนาพุทธ และประชาสัมพันธ์ให้นิสิตทุกคณะมาร่วมกิจกรรมให้มากที่สุด ในด้านการเมืองควรส่งเสริมให้มีชมรมรัฐศาสตร์และการเมืองทุกคณะ และเชิญผู้แทนพรรคการเมืองมาแถลงนโยบายในการเตรียมเลือกตั้งทั่วไป ทุกครั้งก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง สำหรับรายละเอียดแต่ละด้าน พบว่านิสิตมีการพูด อภิปราย ซักถามอาจารย์ในห้องเรียนอยู่ในระดับต่ำ (X-bar = 2.42) ดังนั้นอาจารย์ควรได้พัฒนารูปแบบและวิธีการสอน เพื่อเปิดโอกาสให้นิสิตมีส่วนร่วมในการเรียนการสอน พูด อภิปราย ซักถามอาจารย์ในห้องเรียน ส่วนการมอบหมายงาน หรือกิจกรรมให้นิสิตปฏิบัติ อาจารย์ควรปลูกฝังความคิด ความรับผิดชอบตลอดความรู้สึกในการดำเนินชีวิตตามวิถีทางประชาธิปไตยให้นิสิตด้วย
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
สุทธิเลิศอรุณ, มยุรี, "การเปรียบเทียบลักษณะนิสิตจำแนกตามสาขาวิชา : การศึกษาเฉพาะกรณี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย" (1986). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 47668.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/47668