Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การตายของเด็กในประเทศไทย

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Child mortality in Thailand

Year (A.D.)

1986

Document Type

Thesis

First Advisor

สุวัฒนา วิบูลย์เศรษฐ์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

สังคมวิทยามหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

สังคมวิทยาและมานุษยวิทยา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1986.713

Abstract

จุดมุ่งหมายของการศึกษาครั้งนี้ เพื่อที่จะศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยด้านเศรษฐกิจ สังคม ประชากร และอนามัย กับการตายของเด็ก โดยข้อมูลจากโครงการสำรวจภาวะเจริญพันธุ์ ภาวะการตาย และการวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทยพ.ศ. 2522 ดำเนินการวิจัยโดยสถาบันประชากรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย การศึกษาครั้งนี้ได้ทำการหาค่าสัดส่วนการตายของเด็กตั้งแต่เกิดจนถึงอายุ 2 ปี, 3 ปีและ 5 ปีตามลำดับ ด้วยวิธีการคำนวณซึ่งคิดค้นโดย Professor William Brass แต่เพื่อให้การวิเคราะห์สัดส่วนการตายของเด็กตามลักษณะเศรษฐกิจ สังคม ประชากร และอนามัยมีความเหมาะสมยิ่งขึ้น จึงเสนอเฉพาะค่าสัดส่วนการตายของเด็กโดยเฉลี่ยในช่วงอายุตั้งแต่เกิดจนถึง 3 ปี (0-3 ปี) ซึ่งผลของการศึกษามีดังต่อไปนี้ ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ พบว่า เด็กในเขตชนบทที่อาศัยอยู่ในครัวเรือนที่มีคะแนนสินค้าบริโภคประเภทถาวรสูงกว่า มีสัดส่วนการตายต่ำกว่าเด็กที่อยู่ในครัวเรือน ซึ่งมีคะแนนสินค้าบริโภคประเภทถาวรต่ำกว่า ในขณะเดียวกันเด็กที่มีบิดาซึ่งมิได้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมมีสัดส่วนการตายต่ำกว่าเด็กที่มีบิดาประกอบอาชีพเกษตรกรรม นอกจากนั้นพบว่าความสัมพันธ์ระหว่างกรรมสิทธิ์ของที่ดินและสัดส่วนการตายของเด็กไม่ได้เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ กล่าวคือ บิดาที่ไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินเลยมีสัดส่วนการตายของเด็กต่ำที่สุด สำหรับในเขตเมืองพบว่าเด็กที่มีบิดาซึ่งทำงานใช้วิชาชีพ หรือ ทำการค้าขาย มีสัดส่วนการตายน้อยกว่าเด็กที่มีบิดาซึ่งประกอบอาชีพใช้แรงงาน ปัจจัยด้านสังคม ในเขตชนบททั้งบิดา และมารดาที่มีการศึกษาระดับป. 4 ขึ้นไปมีเด็กตายในสัดส่วนที่ต่ำกว่าบิดาและมารดาที่มีการศึกษาต่ำกว่าป. 4 อย่างเด่นชัด สำหรับมารดาที่ไม่ต้องทำงานทั้งในเขตชนบทและเขตเมืองมีเด็กตายในสัดส่วนต่ำกว่ามารดาที่ต้องทำงาน ปัจจัยด้านประชากร สำหรับมารดาในเขตเมืองที่ให้บุตรดื่มนมมีเด็กตายในสัดส่วนที่ต่ำกว่ามารดาที่ไม่ให้บุตรดื่มนม แต่การศึกษาครั้งนี้ไม่สามารถแสดงให้เห็นอย่างชัดแจ้งว่าระยะเวลาที่ให้นมบุตรจะมีผลกระทบต่อสัดส่วนการตายของเด็ก ปัจจัยด้านอนามัย ในเขตชนบทครัวเรือนที่ใช้ส้วมแบบปัจจุบันและมารดาที่มีแบบแผนการคลอดแบบปัจจุบัน จะมีสัดส่วนการตายของเด็กต่ำกว่าครัวเรือนที่ใช้ส้วมแบบดั้งเดิมหรือมารดาที่มีแบบแผนการคลอดแบบดั้งเดิม ส่วนแบบแผนการใช้น้ำดื่มนั้นพบว่า เด็กที่อยู่ในครัวเรือน ซึ่งใช้น้ำดื่มแบบปัจจุบันมีสัดส่วนการตายสูงกว่าเด็กที่ใช้น้ำดื่มแบบดั้งเดิม

Share

COinS