Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การใช้ระเบียบวิธีทางสถิติในการปฏิบัติงานของมหาบัณฑิตครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

The application of statistical methods at work of Chulalongkorn University graduates with master degree of education

Year (A.D.)

1986

Document Type

Thesis

First Advisor

ดิเรก ศรีสุโข

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

วิจัยการศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1986.324

Abstract

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการใช้ระเบียบวิธีทางสถิติในการปฏิบัติงานของมหาบัณฑิตครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการใช้ระเบียบวิธีทางสถิติ กับเกรดเฉลี่ย ลักษณะงานที่ทำ ประสบการณ์ในการประกอบวิชาชีพ สิ่งเอื้ออำนวยในการทำงาน และจำนวนวิชาที่เรียนทางสถิติ และสร้างสมการพยากรณ์ปริมาณการใช้ระเบียบวิธีทางสถิติในการปฏิบัติงาน โดยระเบียบวิธีทางสถิติที่ศึกษาจำแนกเป็น 4 ด้าน คือ (1) ด้านการเก็บรวบรวมข้อมูล (2) ด้านการนำเสนอข้อมูล (3) ด้านการวิเคราะห์ข้อมูล (4) ด้านการรายงานผล กลุ่มตัวอย่างเป็นมหาบัณฑิตครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่สำเร็จการศึกษาในปีการศึกษา 2520-2526 จำนวน 525 คน ได้มาโดยวิธีสุ่มตัวอย่าง รวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามปริมาณการใช้ระเบียบวิธีทางสถิติ วิเคราะห์ผลการวิจัยโดยการวิเคราะห์หาค่าเฉลี่ย (x̄) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) แล้วเปรียบเทียบปริมาณการใช้ระเบียบวิธีทางสถิติระหว่างมหาบัณฑิตภาควิชาวิจัยการศึกษา และมหาบัณฑิตภาควิชาอื่นเป็นรายข้อ โดยสถิติทดสอบที วิเคราะห์ค่าสหสัมพันธ์พหุคูณ และสร้างสมการพยากรณ์ปริมาณการใช้ระเบียบวิธีทางสถิติในการปฏิบัติงานเป็นรายข้อ โดยวิธีเพิ่มและลดตัวแปรเป็นขั้น ๆ (Stepwise Multiple Regression Analysis) ทุกขั้นตอนโดยใช้โปรแกรม SPSSX ของสถาบันคอมพิวเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. มหาบัณฑิตครุศาสตร์ มีปริมาณการใช้ระเบียบวิธีทางสถิติในการปฏิบัติงานมากที่สุดในหัวข้อ การเก็บรวบรวมข้อมูลจากการสำรวจ การนำเสนอข้อมูลในรูปตาราง การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ร้อยละ และการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนระเบียบวิธีทางสถิติที่มหาบัณฑิตมีการใช้น้อยที่สุด คือ การทดสอบการเปรียบเทียบภายหลัง โดยวิธี NMR ของดันคัน วิธี LSD ของฟิชเชอร์ วิธี HSD ของตูกี วิธีของดันเนตต์ การทดสอบการเปรียบเทียบครั้งแรกโดยวิธีของดันน์ การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบแยกส่วน และการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบจตุรัสลาติน 2. มหาบัณฑิตภาควิชาวิจัยการศึกษา มีปริมาณการใช้ระเบียบวิธีทางสถิติมากกว่ามหาบัณฑิตภาควิชาอื่น อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ จำนวน 57 หัวข้อ จากจำนวนระเบียบวิธีทางสถิติทั้งหมด 71 หัวข้อ 3. ผลการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณการใช้ระเบียบวิธีทางสถิติกับตัวพยากรณ์เป็นรายข้อ พบว่า 3.1 ในกลุ่มมหาบัณฑิตภาควิชาวิจัยการศึกษา ค่าสหสัมพันธ์พหุคูณมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จำนวน 9 หัวข้อ จากทั้งหมด 71 หัวข้อ 3.2 ในกลุ่มมหาบัณฑิตภาควิชาอื่น ค่าสหสัมพันธ์พหุคูณมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จำนวน 58 หัวข้อ จากทั้งหมด 71 หัวข้อ ผลการวิเคราะห์ดังกล่าว ให้ความหมายว่า ตัวแปรพยากรณ์สามารถพยากรณ์ลักษณะการใช้ระเบียบวิธีทางสถิติในกลุ่มมหาบัณฑิต ภาควิชาอื่น ได้มากกว่ามหาบัณฑิตภาควิชาวิจัยการศึกษา 4. ผลการสร้างสมการพยากรณ์ พบว่า 4.1 ในกลุ่มมหาบัณฑิตภาควิชาวิจัยการศึกษา สร้างสมการพยากรณ์ปริมาณการใช้ระเบียบวิธีทางสถิติได้ 51 หัวข้อ จากทั้งหมด 71 หัวข้อ 4.2 ในกลุ่มมหาบัณฑิตภาควิชาอื่น สร้างสมการพยากรณ์ปริมาณการใช้ระเบียบวิธีทางสถิติได้ 69 หัวข้อ จากทั้งหมด 71 หัวข้อ

Share

COinS