Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
ความคิดเห็นของครูสังคมศึกษาเกี่ยวกับปัญหาการเรียนการสอน วิชาพระพุทธศาสนา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Social studies teachers' opinions concerning problems of learning and teaching buddhism subject at the upper secondary education level
Year (A.D.)
1986
Document Type
Thesis
First Advisor
พิบูลศรี วาสนสมสิทธิ์
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
มัธยมศึกษา
DOI
10.58837/CHULA.THE.1986.280
Abstract
วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1. เพื่อศึกษาความคิดเห็นของครูสังคมศึกษาเกี่ยวกับปัญหาการเรียนการสอน วิชาพระพุทธศาสนา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ในด้านต่าง ๆ ต่อไปนี้ คือการใช้หลักสูตรเพื่อการเรียนการสอน เนื้อหาวิชา การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน การใช้สื่อการสอนและแหล่งวิชาการ และการวัดและการประเมินผล 2. เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาการเรียนวิชาพระพุทธศาสนา ในด้านต่างๆ ดังกล่าวทั้ง 5 ด้าน ระหว่างครูสังคมศึกษาที่สอนในโรงเรียนต่างจังหวัดกับโรงเรียนในกรุงเทพมหานคร ระหว่างครูสังคมศึกษาที่ได้รับการฝึกอบรมกับไม่ได้รับการฝึกอบรมเพิ่มเติม เพื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา และระหว่างครูสังคมศึกษาที่มีประสบการณ์การสอนต่างกัน วิธีดำเนินการวิจัย ตัวอย่างประชากรในการวิจัยนี้คือ ครูสังคมศึกษาระดับ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 396 คน ซึ่งได้จากการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย จากโรงเรียนรัฐบาลและโรงเรียนราษฎร์ทั่วประเทศที่ผู้วิจัยคัดเลือกไว้ด้วยวิธีการแบ่งชั้น จำนวนทั้งสิ้น 281 โรง ผู้วิจัยได้สร้างแบบสอบถามขึ้น 1 ชุด เพื่อถามความคิดเห็นของครูสังคมศึกษาเกี่ยวกับปัญหาการเรียนการสอนวิชาพระพุทธศาสนา ประกอบด้วยคำถามแบบตรวจคำตอบ แบบมาตราส่วนประเมินค่า และแบบปลายเปิด การวิเคราะห์ข้อมูลใช้วิธีการทางสถิติโดยหาค่าร้อยละ ค่ามัชฌิมเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบค่าที แล้วนำเสนอในรูปตารางประกอบความเรียง ผลการวิจัย 1. ความคิดเห็นของครูสังคมศึกษาเกี่ยวกับปัญหาการเรียนการสอนวิชาพระพุทธศาสนา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ในด้านต่าง ๆ ดังนี้ 1.1 ปัญหาด้านการใช้หลักสูตรเพื่อการเรียนการสอนวิชาพระพุทธศาสนา ครูสังคมศึกษาส่วนใหญ่มีความคิดเห็นว่าเป็นปัญหามากในเรื่องต่อไปนี้ คือ วัตถุประสงค์ของหลักสูตรกำหนดไว้ไม่เจาะจงและไม่ชัดเจน ครูจึงสอนให้บรรลุวัตถุประสงค์ได้ยาก นักเรียนไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ของการเรียน เนื้อหาวิชาไม่สอดคล้องกับสภาพท้องถิ่นปัจจุบัน จำนวนหน่วยการเรียนและอัตราเวลาเรียนไม่เหมาะสมกับปริมาณเนื้อหาวิชา และครูขาดแคลนเอกสารประกอบหลักสูตร1.2 ปัญหาด้านเนื้อหาวิชา ครูส่วนใหญ่มีความคิดเห็นว่าปัญหามากในเรื่องต่อไปนี้คือ การสอนเนื้อหาให้นักเรียนเกิดมโนทัศน์ทำได้ยาก เนื้อหาวิชามีความซ้ำซ้อนกับเนื้อหาวิชาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น มีรายละเอียดมากเกินไป และมุ่งเน้นความรู้ความจำมากกว่าการนำไปปฏิบัติ เนื้อหาไม่ถูกต้อง และสำนวนภาษา คำศัพท์ในหนังสือเรียนเข้าใจยาก ขาดการยกตัวอย่างอุปมาอุปมัยที่จะช่วยให้นักเรียนเข้าใจธรรมะแต่ละข้อได้ถูกต้อง ครูสังคมศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 (ม.4) ขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องการวิเคราะห์พระพุทธประวัติ พระพุทธคุณ และพระพุทธจริยา โดยเฉพาะเรื่องการฝึกสมาธิ ครูสังคมศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 5 (ม.5) ขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องการวิเคราะห์พระธรรมวินัย หลักกรรม พุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์ และครูสังคมศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 (ม.6) ขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องปัญญาและการฝึกปัญญา 1.3 ปัญหาด้านการจัดการกิจกรรมการเรียนการสอนวิชาพระพุทธศาสนา ครูส่วนใหญ่มีความคิดเห็นว่า เป็นปัญหามากในเรื่องต่อไปนี้คือ ครูขาดความรู้และประสบการณ์ในการสอนไม่สามารถเลือกกิจกรรมที่กระตุ้นให้นักเรียนเกิดความเข้าใจและเกิดภาพพจน์ในการเรียนครูไม่มีพื้นฐานความรู้ความเข้าใจในการสอนวิชาพระพุทธศาสนา มีความเคยชินกับการสอนใช้วิธีการสอนแบบบรรยาย ตลอดจนขาดความรู้ความเข้สใจในการใช้วิธีการสอนแบบใหม่ๆ นักเรียนไม่เห็นความสำคัญของวิชา การกำหนดวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมและการจัดกิจกรรมให้บรรลุตามวัตถุประสงค์และการกระตุ้นให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอนทำได้ยาก นอกจากนั้นครูขาดความร่วมมือจากฝ่ายบริการ คณะครูนักเรียนและผู้ปกครองในการจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตร 1.4 ปัญหาด้านการใช้สื่อการสอนและแหล่งวิชาการ ครูส่วนใหญ่มีความคิดเห็นว่าเป็นปัญหามากในเรื่องต่อไปนี้ คือ โรงเรียนไม่มีอุปกรณ์ประกอบการเรียนการสอนวิชาพระพุทธศาสนา เช่น ขาดห้องฝึกสมาธิ และขาดห้องเรียนที่เอื้ออำนวยต่อการใช้สื่อการสอนประเภทเครื่องฉายและเครื่องเสียง ห้องสมุดขาดเอกสารประกอบวิชาพระพุทธศาสนาโรงเรียนขาดสื่อการสอนในด้านโสตทัศนศึกษา ขาดความร่วมมือจากแหล่งวิชาการ ครูไม่ได้รับการเตรียมตัวสำหรับการสอนวิชาพระพุทธศาสนาโดยตรง ขาดวิทยากรที่มีความรู้ความสามารถในการสอนวิชาพระพุทธศาสนา และครูสังคมศึกษาขาดความรู้และทักษะในการสร้างและการใช้สื่อกาสอน ไม่เปิดโอกาสให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการผลิตสื่อการสอน และไม่ใช้แหล่งวิชาการของชุมชนเพราะมีเวลาจำกัด ไม่กำหนดวัตถุประสงค์ของการนิมนต์พระภิกษุสงฆ์มาสอนวิชาพระพุทธศาสนาให้ชัดเจน นักเรียนขาดแคลนหนังสือเรียนวิชาพระพุทธศาสนา 1.5 ปัญหาด้านการวัดและการประเมินผล ครูส่วนใหญ่มีความคิดเห็นว่าเป็นปัญหามากในเรื่องต่อไปนี้ ครูไม่สามารถวัดและประเมินผลตามวัตถุประสงค์ของหลักสูตรและการสอนให้บรรลุวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมของบทเรียนแต่ละบทเรียนทำได้ยากเพราะเน้นความรู้ความจำของนักเรียนมากกว่าการนำไปปฏิบัติทำให้ไม่บรรลุวัตถุประสงค์ของหลักสูตรครบทุกด้าน การวัดและการประเมินผลพัฒนาการทางทักษะ เจตคติและการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน การสังเกตนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในหลักสูตรและเสริมหลักสูตรตลอดจนการวัดผลการสอนซ่อมเสริมทำได้ยากเพราะมีเวลาจำกัด ครูขาดความรู้เกี่ยวกับเทคนิคในการวัดและการประเมินผล2. เมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูสังคมศึกษาที่สอนในโรงเรียนต่างจังหวัดกับโรงเรียนในกรุงเทพมหานคร ปรากฏว่าความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาด้านต่างๆ ทั้ง 5 ด้านนั้น มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 3. เมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูสังคมศึกษาที่ได้รับการฝึกอบรมกับไม่ได้รับการฝึกอบรมเพิ่มเติมเพื่อการสอนวิชาพระพุทธศาสนา ปรากฏว่าความคิดเห็นของครูสังคมศึกษาเกี่ยวกับปัญหาด้านการใช้หลักสูตรเพื่อการเรียนการสอน ด้านเนื้อหาวิชา ด้านการจัดกิจกรรม การเรียนการสอน การใช้สื่อการสอนและแหล่งวิชาการ มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 แต่ความเห็นเกี่ยวกับปัญหาด้านการวัดและการประเมินผล ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 4. เมื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูสังคมศึกษาที่มีประสบการณ์ในการสอนระหว่าง 6-10 ปี กับครูสังคมศึกษาที่มีประสบการณ์ในการสอนตั้งแต่ 11 ปีขึ้นไป ปรากฏว่า ความคิดเห็นของครูสังคมศึกษาเกี่ยวกับปัญหาด้านการใช้หลักสูตรเพื่อการเรียนการสอนด้านเนื้อหาวิชา ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนและด้านการวัดและการประเมินผลไม่แตกต่างกันที่ระดับความมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.01 แต่ความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาด้านการใช้สื่อการสอนและแหล่งวิชาการมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.01
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
จงเกษกรณ์, เชาวฤทธิ์, "ความคิดเห็นของครูสังคมศึกษาเกี่ยวกับปัญหาการเรียนการสอน วิชาพระพุทธศาสนา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย" (1986). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 47427.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/47427