Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยคัดสรรกับการปฏิบัติตนด้านโภชนาการ ของหญิงมีครรภ์ในกรุงเทพมหานคร

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Relationships between selected factors and nutritional self practices of pregnant women in Bangkok metropolis

Year (A.D.)

1986

Document Type

Thesis

First Advisor

พวงรัตน์ บุญญานุรักษ์

Second Advisor

นิยดา สวัสดิ์วงศ์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

พยาบาลศาสตร์

DOI

10.58837/CHULA.THE.1986.477

Abstract

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยคัดสรร ได้แก่ ความเชื่ออำนาจภายใน – ภายนอกตนเกี่ยวกับสุขภาพอนามัย ความรู้ด้านโภชนาการ ความเชื่อเกี่ยวกับอาหาร จำนวนครั้งของการตั้งครรภ์ ลักษณะครอบครัว กับการปฏิบัติตนด้านโภชนาการของหญิงมีครรภ์ ในกรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างประชากรเป็นหญิงมีครรภ์ จำนวน 188 คน ที่มารับบริการฝากครรภ์ที่หน่วยฝากครรภ์ของโรงพยาบาล 4 แห่ง ในกรุงเทพมหานคร โดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสัมภาษณ์ แบ่งออกเป็น 5 ชุด คือ ข้อมูลสถานภาพของผู้ตอบแบบสัมภาษณ์ แบบวัดความเชื่ออำนาจภายใน-ภายนอกตนเกี่ยวกับสุขภาพอนามัย แบบสัมภาษณ์ความรู้ด้านโภชนาการ แบบสัมภาษณ์ความเชื่อเกี่ยวกับอาหาร และแบบสัมภาษณ์การปฏิบัติตนด้านโภชนาการ นำไปหาความตรงตามเนื้อหาด้วยการตรวจสอบของผู้ทรงคุณวุฒิ การหาความเที่ยงของเครื่องมือ ใช้สูตรสัมประสิทธิ์แอลฟา ของครอนบาค (Cronbach’ s OC-Coefficient) และสูตร K-R 20 ของคูเดอร์-ริชาร์ดสัน โดยใช้คะแนนจากการทดลองใช้ และคะแนนจากตัวอย่างประชากรจริง วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าร้อยละ และวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบเพิ่มตัวแปรเป็นขั้น ๆ (Stepwise Multiple Regression Analysis) โดยใช้คอมพิวเตอร์โปรแกรม SPSS-X. ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. ความรู้ด้านโภชนาการ ความเชื่อเกี่ยวกับอาหาร ความเชื่ออำนาจภายใน-ภายนอกตนเกี่ยวกับสุขภาพอนามัย มีความสัมพันธ์ทางบวกกับการปฏิบัติตนด้านโภชนาการของหญิงมีครรภ์ อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01 2. จำนวนครั้งของการตั้งครรภ์และลักษณะครอบครัว ไม่มีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติตนด้านโภชนาการของหญิงมีครรภ์ 3. ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์พหุคูณระหว่างการปฏิบัติตนด้านโภชนาการกับตัวพยากรณ์ทั้ง 5 ตัว คือ ความรู้ด้านโภชนาการ ความเชื่อเกี่ยวกับอาหาร ความเชื่ออำนาจภายใน-ภายนอกตนเกี่ยวกับสุขภาพอนามัย จำนวนครั้งของการตั้งครรภ์ และลักษณะครอบครัว มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และกลุ่มตัวพยากรณ์ที่ดีประกอบด้วยความรู้ด้านโภชนาการ ความเชื่อเกี่ยวกับอาหาร และความเชื่ออำนาจภายใน-ภายนอกตนเกี่ยวกับสุขภาพอนามัย ซึ่งกลุ่มตัวพยากรณ์นี้สามารถอธิบายความแปรปรวนของการปฏิบัติตนด้านโภชนาการ ได้ร้อยละ 48.28 และตัวแปรที่พยากรณ์ได้ดีที่สุด คือความรู้ด้านโภชนาการ ซึ่งสามารถอธิบายความแปรปรวนของการปฏิบัติตนด้านโภชนาการได้ร้อยละ 32.82

Share

COinS