Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มอาการ กลยุทธ์ในการจัดการกับอาการ การสนับสนุนทางสังคม กับคุณภาพชีวิตผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ได้รับเคมีบำบัด

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Relationships between symptom clusters, symptom management strategies, social support,and quality of life in breast cancer patients undergoing chemotherapy

Year (A.D.)

2005

Document Type

Thesis

First Advisor

สุรีพร ธนศิลป์

Faculty/College

Faculty of Nursing (คณะพยาบาลศาสตร์)

Degree Name

พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

พยาบาลศาสตร์

DOI

10.58837/CHULA.THE.2005.494

Abstract

ศึกษากลุ่มอาการ กลยุทธ์ในการจัดการกับอาการ การสนับสนุนทางสังคม กับคุณภาพชีวิตผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ได้รับเคมีบำบัด และความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มอาการ กลยุทธ์ในการจัดการกับอาการ การสนับสนุนทางสังคม กับคุณภาพชีวิตผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ได้รับเคมีบำบัด โดยใช้แบบจำลองการจัดการกับอาการของ Dodd et al. (2001) เป็นกรอบความคิดในการวิจัย กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ได้รับเคมีบำบัดที่มารับบริการที่แผนกผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลรามาธิบดี และศูนย์มหาวชิราลงกรณ์ จำนวน 150 ราย เลือกโดยวิธีการสุ่มตัวอย่างเป็นระบบ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบประเมินอาการปวด แบบประเมินอาการนอนไม่หลับ แบบประเมินอาการเหนื่อยล้า แบบประเมินอาการซึมเศร้า แบบประเมินการสนับสนุนทางสังคม แบบประเมินคุณภาพชีวิต และแบบสอบถามกลยุทธ์ในการจัดการกับอาการ (อาการปวด อาการนอนไม่หลับ อาการหนื่อล้า และอาการซึมเศร้า) ซึ่งผ่านการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิและหาความเที่ยงของแบบสอบถามโดยวิธีของครอนบาคได้เท่ากับ .96, .95, .89, .93, .91, .25, .36, .32,และ .43, ตามลำดับ วิเคาะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและหาความสัมพันธ์โดยใข้สถิติ Eta ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน ผลการวิจัยพบว่า 1. คุณภาพชีวิตผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ได้รับเคมีบำบัด อยู่ในระดับ สูง( ค่าเฉลี่ย = 66.43, SD = 13.94) 2. จำนวนอาการมีความสัมพันธ์ทางลบในระดับปานกลาง กับคุณภาพชีวิตผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ได้รับเคมีบำบัด โดยพบว่าผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ได้รับเคมีบำบัดที่มีอาการเดียว มีคุณภาพชีวิตสูงกว่าผู้ป่วยที่มีกลุ่มอาการอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (r = -.449, p<.05) 3. การสนับสนุนทางสังคมมีความสัมพันธ์ทางบวกกับคุณภาพชีวิตผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ได้รับเคมีบำบัด อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (r = .201, p<.05) 4. กลยุทธ์ในการจัดการกับอาการปวด ได้แก่ การนอนพัก การนวด การรับประทานอาหาร กลยุทธ์ในการจัดการกับอาการนอนไม่หลับ ได้แก่ การรับประทานยานอนหลับ และกลยุทธ์ในการจัดการกับอาการเหนื่อยล้า ได้แก่ การเข้านอนเร็ว การหากิจกรรมทำเพื่อให้ยุ่ง มีความสัมพันธ์ทางลบในระดับต่ำกับคุณภาพชีวิตผู้ป่วยมะเร็งเต้นนมที่ได้รับเคมมีบำบัด อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.05) 5. กลยุทธ์ในการจัดการกับอาการซึมเศร้า ไม่มีความสัมพันธ์กับคุณภาพชีวิตผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ได้รับเคมีบำบัด

Other Abstract (Other language abstract of ETD)

To study symptom clusters, symptom management strategies, social support, and quality of life in breast cancer patients undergoing chemotherapy and the relationships between symptom clusters, symptom management strategies, social support, and quality of life in breast cancer patients undergoing chemotherapy. The theoretical framework based on symptom management model of Dodd et al. (2001). One hundred fifty breast cancer patients undergoing chemotherapy were recruited by using simple random sampling from the Out-Patients Department of Mahavajiralongkorn Cancer Center, Ramathibodi Hospital. The instruments were a pain scale, piper fatigue scale, insomnia severity index, beck depression inventory, social support questionnaires, self-care diary, and quality of life. Cronbach's alpha coefficients of all instruments were .96, .95, .89, .93, .91, .25, .36, .32,and .43, respectively. Data were analyzed using mean, standard deviation, Pearson's product moment correlation and Eta's correlation. Major findings were as follows 1. Breast cancer patients undergoing chemotherapy had perceived quality of life at a high level (Mean = 66.43, SD=13.94). 2. Symptom clusters were significantly negative related to quality of life (r = -.449, p<.05). 3. Social support was significantly positive related to quality of life (r = .201, p<.05.) 4. Self-care strategies for pain, insomnia, and fatigue were significantly negative related to quality of life (p<.05). 5. Self-care strategies for depression were not related to quality of life.

Share

COinS