Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
สภาพและปัญหาการจัดการศึกษาเพื่ออนุรักษ์และเสริมสร้าง วัฒนธรรมไทยในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นของโรงเรียนสังกัดกรมสามัญศึกษา ในกรุงเทพมหานคร
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Conditions and problems in educational management for conservation and promotion of Thai culture at lower secondary education level in schools under the auspices of the Department of General Education in Bangkok Metropolis
Year (A.D.)
1987
Document Type
Thesis
First Advisor
ดวงเดือน พิศาลบุตร
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
พื้นฐานการศึกษา
DOI
10.58837/CHULA.THE.1987.334
Abstract
วัตถุประสงค์การวิจัย 1. เพื่อศึกษาสภาพการจัดการศึกษาเพื่ออนุรักษ์และเสริมสร้างวัฒนธรรมไทย ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 2. เพื่อศึกษาปัญหาการจัดการศึกษาเพื่ออนุรักษ์และเสริมสร้างวัฒนธรรมไทยในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 3. เพื่อศึกษาแนวคิดและข้อเสนอแนะของครู นักเรียน ในการจัดการศึกษา เพื่ออนุรักษ์และเสริมสร้างวัฒนธรรมไทย ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น วิธีดำเนินการวิจัย กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้เป็นครูผู้สอนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและนักเรียน รวมทั้งสิ้น 601 โดยเป็นครูผู้สอน 361 คน และนักเรียน 240 คน โดยใช้การสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย มีแบบสอบถามสำหรับครูและนักเรียน และแบบสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการทางสถิติ โดยหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัย 1. สภาพการจัดการศึกษาเพื่ออนุรักษ์และเสริมสร้างวัฒนธรรมไทยในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ด้านหลักสูตรครูมีความคิดเห็นว่า วัฒนธรรมที่กำหนดไว้มากที่สุดในจุดประสงค์รายวิชาและเนื้อหาวิชาของหลักสูตรคือวัฒนธรรมด้านค่านิยมการพึ่งตนเองขยันหมั่นเพียร และมีความรับผิดชอบ นอกจากนี้ยังเป็นวัฒนธรรมที่หลักสูตรกำหนดเวลาไว้เหมาะสมกับเนื้อหามากที่สุด ครูที่สอนกลุ่มวิชาต่างๆ มีความเห็นว่าในรายวิชาที่สอนวัฒนธรรมที่หลักสูตรกำหนดเนื้อหาให้เรียนน้อยที่สุด คือวัฒนธรรมด้านภาษาไทย วัฒนธรรมที่หลักสูตรกำหนดเวลาน้อยไปคือ วัฒนธรรมด้านประเพณี และมากไปคือ วัฒนธรรมด้านค่านิยม การมีระเบียบวินัยและเรารพกฎหมาย ส่วนนักเรียนมีความคิดเห็นว่า วัฒนธรรมที่หลักสูตรกำหนดเนื้อหาให้เรียนมากที่สุดคือ วัฒนธรรมด้านภาษาไทย และน้อยที่สุดคือค่านิยมการรักชาติ ศาสนา พระหมากษัตริย์ วัฒนธรรมที่หลักสูตรกำหนดเวลาให้เหมาะสมกับเนื้อหามากที่สุดคือวัฒนธรรมด้านภาษาไทย วัฒนธรรมที่หลักสูตรกำหนดเวลาน้อยไป คือ วัฒนธรรมด้านการประหยัดและออม และมากไปคือวัฒนธรรมด้านภาษาไทย ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ครูมีความคิดเห็นว่า วัฒนธรรมที่ครูมีโอกาสสอนมากที่สุดคือ วัฒนธรรมด้านค่านิยม ส่วนนักเรียนเห็นว่า วัฒนธรรมด้านภาษาไทยเป็นวัฒนธรรมที่ครูมีโอกาสสอนมากที่สุด และน้อยที่สุด คือวัฒนธรรมด้านประเพณี เกี่ยวกับลักษณะการสอน วิธีการสอน และการวัดผลเรื่องวัฒนธรรม ครูมีความคิดเห็นว่า ครูสอนสอดแทรกวัฒนธรรมด้านค่านิยมการรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ใช้วิธีบรรยายวัฒนธรรมด้านประเพณี และวัดผลด้านความรู้ความเข้าใจวัฒนธรรมด้านภาษาไทยมากที่สุด ส่วนนักเรียนมีความเห็นว่าครูสอนสอดแทรกวัฒนธรรมด้านการมีระเบียนวินัยและเคารพกฎหมาย และใช้วิธีการบรรยายวัฒนธรรมด้านภาษาไทยมากที่สุด ในด้านการใช้อุปกรณ์การสอนเรื่องวัฒนธรรม ครูมีความเห็นว่าครูใช้ภาพและบัตรคำมากที่สุด นักเรียนเห็นว่าครูใช้สไลด์มากที่สุด ส่วนการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการเรียนการสอนเรื่องวัฒนธรรม ครูและนักเรียนมีความคิดเห็นตรงกันว่า ครูส่งเสริมให้นักเรียนศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเรื่องวัฒนธรรมจากสื่อมวลชลมากที่สุด เกี่ยวกับการจัดสภาพห้องเรียนเพื่อส่งเสริมการเรียน เรื่องวัฒนธรรม ครูส่วนใหญ่ไม่จัดสภาพห้องเรียน สำหรับครูที่จัด จะจัดป้ายนิเทศมากที่สุด ส่วนนักเรียนเห็นว่า มีการจัดแหล่งค้นคว้ามากที่สุด ด้านการจัดกิจกรรมนักเรียนครูและนักเรียนคิดเห็นสอดคล้องกันเกี่ยวกับการกำหนดกิจกรรมนักเรียน จุดมุ่งหมายของกิจกรรมที่ส่งเสริมวัฒนธรรมในปี พ.ศ. 2526-2527 ประเภทของกิจกรรมและกิจกรรมที่ส่งเสริมวัฒนธรรมที่โรงเรียนจัด นอกจากนี้ครูมีความคิดเห็นเวลาที่ใช้ในการจัดกิจกรรมนักเรียนที่ส่งเสริมวัฒนธรรมมากที่สุด คือในเวลาเรียน นักเรียนเห็นว่า แล้วแต่ความเหมาะสมของเวลา ส่วนการวัดผลกิจกรรม ครูใช้วิธีการสังเกต การปฏิบัติจริงมากที่สุด นักเรียนเห็นครูใช้วิธีการพิจารณาจากจำนวนเวลาเข้าร่วมกิจกรรมของนักเรียน 2. ปัญหาการจัดการศึกษาเพื่ออนุรักษ์และเสริมสร้างวัฒนธรรมในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น พิจารณารวมทุกด้าน ครูและนักเรียนมีความคิดเห็นว่าเป็นปัญหาในระดับปานกลาง โดยครูมีความคิดเห็นว่า เรื่องที่เป็นปัญหาในระดับมากที่สุดคือ ปัญหาอิทธิพลสิ่งแวดล้อม เรื่องสื่อมวลชน รองลงมาได้แก่ปัญหาค่านิยมในสังคม ส่วนนักเรียนมีความคิดเห็นว่า ปัญหาอิทธิพลของสิ่งแวดล้อมเรื่องวัฒนธรรมตะวันตกรองลงมาได้แก่ ปัญหาการเป็นแบบอย่างของครู 3. ข้อเสนอแนะ 1. หน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับวัฒนธรรม ควรผลิตเอกสารประกอบการเรียนการสอน และหนังสือเรียนที่มีเนื้อหาเรื่องวัฒนธรรมให้เพียงพอ และควรจัดอบรมครูให้มีความรู้ความเข้าใจเรื่องวัฒนธรรมให้มากขึ้น เพื่อนำมาจัดกิจกรรมการเรียนการสอนส่งเสริมวัฒนธรรมไทยให้ได้ผลมากยิ่งขึ้น 2. โรงเรียนควรกำหนดกิจกรรมโดยคำนึงถึงความสนใจและความเหมาะสมกับวัยของนักเรียน ควรเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน และในการดำเนินการควรให้นักเรียนมีส่วนร่วม วางแผน และจัดกิจกรรมเอง โรงเรียนควรสร้างสภาพแวดล้อมให้นักเรียนเกิดความภาคภูมิใจและประพฤติปฏิบัติในสิ่งที่นำชื่อเสียงมาสู่สถาบัน 3. ครอบครัว ผู้ปกครองให้เวลาอบรมดูแลอย่างใกล้ชิดและเป็นแบบอย่างที่ดีในการยึดมั่นวัฒนธรรมไทย ผู้ปกครองและครูควรร่วมมือกันอบรม ดูแลและฝึกให้นักเรียนรู้จักใช้วิจารญาณอย่างมีเหตุผลในการเลือกปฏิบัติวัฒนธรรมที่ดีงาม 4. สถาบันผลิตครูควรมีมาตรการในการเลือกสรรผู้จะเข้าเรียนโดยมุ่งเน้นด้านความประพฤติ และวิชาการให้มากขึ้น 5. ควรมีการสอดแทรกวัฒนธรรมไทยในรายการต่างๆ เผยแพร่ทางสื่อมวลชนต่างๆ ให้มากขึ้น
Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
โกสุม, วัลยา, "สภาพและปัญหาการจัดการศึกษาเพื่ออนุรักษ์และเสริมสร้าง วัฒนธรรมไทยในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นของโรงเรียนสังกัดกรมสามัญศึกษา ในกรุงเทพมหานคร" (1987). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 46670.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/46670