Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การทดสอบสอนภาษาไทยแก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้กระบวนการเรียนการสอนตามหลักพหูสูต

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

An expertment on teaching Thai to prathom suksa six students by using learning process according to the bhaussvta principle

Year (A.D.)

1987

Document Type

Thesis

First Advisor

สุมน อมรวิวัฒน์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

ประถมศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1987.259

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อทดลองสอนภาษาไทยแก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้กระบวนการเรียนการสอนตามหลักพหูสูตและเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ครูสอนโดยใช้แผนการสอนตามหลักพหูสูตและที่ครูสอนโดยใช้แผนการสอนปกติ ผลการวิจัยพบว่า 1. นักเรียนกลุ่มทดลองที่ได้รับการสอนโดยใช้แผนการสอนตามหลักพหูสูตและนักเรียนกลุ่มควบคุมที่ได้รับการสอนโดยใช้แผนการสอนปกติมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยาแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2. นักเรียนกลุ่มทดลองที่ได้รับการสอนโดยใช้แผนการสอนตามลักพหูสูตมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยหลังการสอนสูงกว่าก่อนการสอนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3. นักเรียนกลุ่มควบคุมที่ได้รับการสอนโดยใช้แผนการสอนปกติมีผลสัมฤทธิ์การเรียนวิชาภาษาไทยหลักการสอนสูงกว่าก่อนการสอนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ในการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับพฤติกรรมความเป็นกัลยามิตร พัฒนาการทางภาษา ความรู้สึกต่อการเรียนวิชาภาษาไทย และลักษณะสังคมมิติ ผลการวิจัย พบว่า 1. นักเรียนกลุ่มทดลองเห็นว่าตนเองและเพื่อนปฏิบัติตนเป็นกัลยาณมิตรในระดับมาก ส่วนนักเรียนกลุ่มควบคุมเห็นว่าตนเองและเพื่อนปฏิบัติตนเป็นกัลยาณมิตรในระดับปานกลาง และนักเรียนทั้งสองกลุ่มเห็นว่าครูปฏิบัติตนเป็นกัลยาณมิตรในระดับมาก 2. นักเรียนกลุ่มทดลองเห็นว่าตนเองได้พัฒนาทักษะภาษาไทยทั้ง 4 ทักษะในระดับมาก ส่วนนักเรียนกลุ่มควบคุมเห็นว่าตนเองได้พัฒนาทักษะภาษาไทยทั้ง 4 ทักษะในระดับปานกลาง และครูประจำชั้นของนักเรียนทั้งสองกลุ่มเห็นว่านักเรียนได้พัฒนาทักษะภาษาไทยทั้ง 4 ทักษะดีขึ้นกว่าเดิม คิดเป็นร้อยละ 87.67 และ73.17 ตามลำดับ 3. นักเรียนกลุ่มทดลองและนักเรียกลุ่มควบคุมมีความรู้สึกทางบวกต่อการเรียนวิชาภาษาไทย โดยนักเรียนกลุ่มทดลองมีความรู้สึกทางบวกต่อการเรียนวิชาภาษาไทยสูงกว่านักเรียนกลุ่มควบคุม 4. นักเรียนกลุ่มทดลองเห็นว่าการปฏิบัติตนเองกัลยาณมิตรของตนเอง ของเพื่อน และของครูมีผลดีต่อนักเรียนทั้งในด้านอารมณ์ สังคม และการเรียนรู้ 5. ความสัมพันธ์ของนักเรียนกลุ่มทดลองทั้งกลุ่มมีความสัมพันธ์กันอย่างแน่นแฟ้น มีการจับกลุ่มย่อยภายในกลุ่มใหญ่ 1 กลุ่ม มีสมาชิกที่เลือกเพื่อนแต่ไม่ได้รับเลือกจากเพื่อนเพียงคนเดียว ส่วนความสัมพันธ์ของนักเรียนกลุ่มควบคุมมีความสัมพันธ์กันอย่างแน่นเฟ้นเฉพาะภายในกลุ่มเพศเดียวกัน มีการจับกลุ่มย่อยภายในกลุ่มใหญ่ 3 กลุ่ม และมีสมาชิกที่เลือกเพื่อนแต่ไม่ได้รับเลือกจากเพื่อน 3 คน

Share

COinS